• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ใบมหากาฬปราบงูสวัด

    

 

แม้ท่านอาจไม่เคยเห็นงูสวัด ก็น่าจะเคยได้ยินมาบ้างว่ามันเป็นโรคร้าย ถ้าเป็นข้ามสันหลังหรือรอบตัวละก้อถึงตายเชียว หากท่านไม่ทราบว่างูสวัด งูตวัด หรืองูกระหวัด คืออะไร ก็น่าจะอ่านเรื่องของ
น.พ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ ใน “หมอชาวบ้าน” ฉบับเดือนพฤษภาคม 2523 ซึ่งมีภาพถ่ายสีประกอบชัดเจน เผื่อท่านหรือผู้เป็นที่รักถูกมันกระหวัดเข้าบ้าง จะได้ไม่ตกใจ หรือเสียเงินมากเกินไป เพราะมันหายเองได้ ตอนท้ายเรื่องท่านชวนว่า ใครเคยประสบพระกาฬที่จำแลงมาในรูปงูสวัด แล้วหายด้วยการรักษาแบบพื้นบ้าน หากเล่าสู่กันอ่านก็จะเป็นประโยชน์มาก
 

เผอิญเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แม่บ้านของผมป่วยด้วยโรคนี้ ถูกมันกระหวัดตั้งแต่แถบด้านซ้ายของสะดือรัดรอบไปจนถึงตะโพกซ้าย ได้ขอให้แพทย์ประจำองค์การที่เธอทำงานตรวจรักษา ใช้ทั้งยาฉีด (1 เข็ม) กินและทาก็ไม่ได้ผล จะว่าอีกอย่างก็คือทุเลาหรือหายไม่ทันใจก็ได้กระมัง ทำให้เจ็บปวดทรมาน กินไม่ (ค่อย) ได้ นอนไม่ (ค่อย) หลับมา 3 วัน  เพื่อนบ้านใจอารีท่านหนึ่ง ได้กรุณานำใบมหากาฬ 7 ใบ มาล้างน้ำให้สะอาด ผสมพิมเสนราว 10 เกล็ด บดละเอียด ละลายเหล้าขาว 28 ดีกรี หรือที่เรียกว่า เหล้าโรง (ซึ่งคงจะหมายความว่าไม่ใช่เหล้าต้มเอง ถ้าไม่มีจะใช้เหล้านอกโรงก็คงไม่เสียผลการรักษา แต่อาจเสียผลทางอื่นถ้าถูกจับ) ผสมให้ข้นหน่อย แล้วใช้ทาแถบที่เป็นจนทั่ว ทาได้สักครู่ก็รู้สึกสบายจนกระทั่งขณะรับประทานอาหารรู้สึกง่วงจนโงก จึงเข้านอนแล้วก็หลับปุ๋ยไปเลย เพราะอดนอนมาหลายคืน เธอทายาขนานนั้นต่อมาอีก 5 วัน ๆ ละ 3-4 ครั้ง ก็หาย เหลือแต่อาการชาตามแถบที่เป็นอยู่บ้างเล็กน้อย

แม้ผมจะเลื่อมใสยาพื้นบ้านบางขนานมาก แต่ที่เล่าเรื่องนี้ก็มิได้หวังจะให้ท่านผู้อ่านรีบเชื่อ ควรพิจารณาว่าจะเชื่อได้หรือไม่เพียงใด โดยอาศัยกาลามสูตร ที่ ศจ.น.พ. ประเวศ วะสี อธิบายไว้ใน “หมอชาวบ้าน” เดือนพฤศจิกายน 2523

ผมขอเสนอให้ท่านผู้อ่านช่วยคิดว่า ความขลังของยากลางบ้านขนานนี้อาจเกิดจากความบังเอิญได้หรือไม่ เช่น ยาที่แพทย์สองท่านให้นั้น ได้ผลเห็นชัดในช่วงนี้พอดี หรือว่าถึงระยะที่โรคหายแล้ว ซึ่งก็คงจะคล้ายกับหลายชายของเพื่อนร่วมงานผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นโรคนี้ในระยะใกล้ ๆ กัน แม้จะได้ฉีดยาวันละเข็ม 4 วัน รวมทั้งยากินและยาทาอีกสองสามขนาน โรคก็ไม่หายทันใจ ผู้ปกครองก็คงกลัวว่าจะเป็นตามนิทาน เลยต้องไปหายด้วยยาจีน
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


ศจ.น.พ. ชัชวาลย์ โอสถานนท์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์เขียนในสารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน ยืนยันว่า แม้จะถูกรัดรอบตัวก็ไม่ตาย เพียงแต่ว่าถ้ามีเชื้อโรคอื่นเข้าแทรก ก็จะมีอาการรุนแรงขึ้นได้ เราจึงควรยึดคำแนะนำของ น.พ.สุรเกียรติ ว่า “ขอให้รักษาความสะอาดให้มาก ๆ” ความแปลกของโรคนี้ตามที่ท่านอดีตอธิการบดีเขียนไว้ก็คือ “งู” ที่มากระหวัดเราให้เห็นเป็นแผลพุพองนั้น เป็นเพียงปลายเหตุ ท่านบอกว่า “--เป็นโรคที่มีอาการอักเสบอย่างเฉียบพลันที่ปมประสาทไขสันหลังของระบบประสาทส่วนกลาง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ทำให้มีอาการพุเป็นเม็ดพอง ภายในมีน้ำใส ๆ ขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ ที่ผิวหนังตามแนวบริเวณที่มีปลายประสาทมาหล่อเลี้ยงจากส่วนต้นที่มีอาการอักเสบนั้น และมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่บริเวณเดียวกันนั้นด้วย”

 

 

 

 

 

 

 

 

 



 

รศ.พ.ญ. จันทพงษ์ วะสี เขียนใน “หมอชาวบ้าน” เดือนกุมภาพันธ์ 2524 ว่าเซลล์ที่แผลงูสวัด เริม และอีสุกอีใส หน้าตาเหมือนกัน ทำให้ผมคิดเล่นตามประสาชาวบ้านว่า ท่านผู้นิยมยาสมุนไพร หรือท่านผู้อยู่ห่างยาแผนปัจจุบัน น่าจะลองใช้ใบมหากาฬ หรือสมุนไพรอื่นก็ตาม รักษาโรคเหล่านี้

ท่านผู้ใดรักษาได้ผล โดยไม่ได้ข้องแวะยาแผนปัจจุบันมาก่อนให้เกิดความสงสัยขึ้น อย่างแม่บ้านของผมน่าจะเขียนสู่กันอ่านสนองคำเชิญชวนของ “หมอชาวบ้าน” เพื่อช่วยให้พวกเราช่วยตนเองได้มากขึ้น ก็จะเป็นกุศลอย่างสูง.
 

ข้อมูลสื่อ

67-009
นิตยสารหมอชาวบ้าน 67
พฤศจิกายน 2527
สุรินทร์ จัตุรัส