• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ผมร่วง


ผมร่วง ! ผมร่วง ! อาจทำให้ศีรษะล้าน โปรดอย่านิ่งนอนใจใช้ยา.....ทาท่านจะเห็นผล

น้ำยา...ป้องกันผมร่วง ฟื้นสภาพเส้นผมและทำให้ผมขึ้นดกดำได้อย่างมหัศจรรย์.

ข้อความที่ผมคัดลอกมาข้างต้นนี้ ท่านอาจเคยได้ยินจากโฆษณาทางวิทยุหรืออ่านพบตามหน้าหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือแม้แต่เวลาไปเดินซื้อของตามย่านการค้าต่าง ๆ เป็นการโฆษณาถึงยาที่รักษาโรคผมร่วง หรือศีรษะล้านบางแห่งก็แจ้งสนนราคาไว้เสร็จ เป็นต้นว่า

ถ้าท่านผมร่วง ผมบาง ลองใช้...สักชุดจะได้ผลน่าพอใจ ขวดละ 300 บาท, ชุดเล็ก 500 บาท, ชุดใหญ่ 1,500 บาท”

ผมเห็นโฆษณาเช่นนี้ลงติดต่อกันในหน้าหนังสือพิมพ์บางฉบับเป็นปี ๆ แล้ว แสดงว่า กิจการเช่นนี้คงจะมีคนไปอุดหนุนใช้บริการกันไม่น้อย จนเป็นธุรกิจที่ทำให้เจ้าของกิจการขยายร้านค้าได้ ถ้าสังเกตตามป้ายโฆษณาก็จะเห็นว่ามีร้านค้าที่รับบริการปลูกผมทั่วทุกหัวระแหง ไม่ใช่แต่ในเมืองไทยนะครับ ผมเคยอ่านพบว่าแม้แต่ในเมืองนอกเรื่องผมร่วงก็ยังเป็นสิ่งที่ทำเงินให้เจ้าของกิจการเหล่านี้ได้เสมอ บางสำนักถึงกับตั้งศูนย์รักษาเกี่ยวกับเส้นผม มีสาขาไปตามเมืองใหญ่ ๆทั่วโลก

วิธีการรักษาแบ่งเป็นชุด (Course) ต้องรักษาครบ 3 ชุด จึงจะเห็นผล แต่ละชุดประกอบด้วยการรักษา 30 ครั้ง อาทิตย์ หนึ่งต้องไปรับบริการอย่างน้อย 3 ครั้ง เสียค่าบริการชุดละ 10,000 บาท กว่าจะรักษาครบก็ต้องหมดเงินถึง 30,000 บาท แล้วยังไม่แน่ว่าผมจะขึ้นหรือเปล่า ก่อนให้การรักษาผู้รับการรักษาต้องเซ็นชื่อลงในใบคล้ายกับสัญญาว่า ถ้าผมไม่ขึ้นจะไม่ฟ้องร้องเอากับศูนย์ ผมว่าไหน ๆ จะต้องเสียเงินมากขนาดนี้ล่ะก็ ซื้อผมปลอมมาใส่คงจะดีกว่า

โรคที่ทำให้เกิดผมร่วงมีมากมายหลายโรค บางโรครักษาก็หายได้ บางโรครักษาอย่างไรก็ไม่หายและบางโรคถึงไม่รักษาก็หายเองได้ จึงมีผู้ที่หากินกับเรื่องผมอยู่ได้ ก็เพราะโรคชนิดหลังนี่เอง เมื่อผู้ป่วยได้อะไรไปทาก็ตามผมที่จะขึ้นเองอยู่แล้วก็งอกงามขึ้น ผู้ที่ไม่รู้ความจริงนี้ก็จะไปนิยมชมชอบว่าสิ่งที่ทาอยู่นั้นรักษาผมร่วงได้ ผมเคยพบคนไข้บางคนใช้ยาขัดรองเท้าทาบริเวณผมร่วงโดยหวังจะให้ผมขึ้น ตามคำบอกเล่าของเพื่อนฝูงบางคนที่อ้างว่าเคยใช้ได้ผลมาแล้ว

สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจเรื่องของโรคผมร่วง ผมจะเล่าประวัติผู้ป่วยที่มาหาผมเรื่องผมร่วงเฉพาะที่พบบ่อยๆ ให้ฟังถ้าท่านได้ติดตามอ่านต่อไป จะได้ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้ผมร่วง ตลอดจนวิธีการรักษาว่ามียาอะไรรักษาผมร่วงได้บ้าง อย่างน้อยก็จะได้เป็นความรู้ไว้ ถ้าท่านบังเอิญมีปัญหาเรื่องผมร่วง จะได้ไม่ถูกศูนย์บริการรักษาเรื่องเส้นผมหลอกเอา

ผมร่วงตามธรรมชาติ

ผู้ป่วยประเภทแรกที่พบบ่อยที่สุดมักจะเป็นคนที่มีความวิตกกังวลอะไรบางอย่างอยู่ ดังเช่น นายสัมพันธ์ เป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ปีนี้เรียนปีสุดท้าย คณะนิติศาสตร์อีก 2 อาทิตย์ จะสอบไล่

“คุณหมอครับ หมู่นี้ไม่ทราบว่าทำไมผมของผมจึงร่วงมาก” นายสัมพันธ์โอดครวญ

เมื่อได้รับคำถามว่า ผมร่วงมานานเท่าใด และร่วงวันละกี่เส้น นายสัมพันธ์ก็ตอบว่า

ผมร่วงมานานปีกว่าแล้วครับ แต่เพิ่มมาสังเกตว่าผมร่วงมากขึ้น 2-3 อาทิตย์มานี้ ผมไม่ได้นับจำนวนผมที่ร่วงหรอกครับ แต่คงจะไม่เกิน 30 เส้นต่อวัน”

ผมตรวจดูเส้นผมบนศีรษะของผู้ป่วยพบว่าปริมาณเส้นผมไม่ได้น้อยผิดปกติแต่อย่างใด ดูเหมือนจะมีจำนวนมากกว่าเส้นผมบนศีรษะผมเสียอีก ลักษณะของหนังศีรษะก็ดูปกติ ไม่มีผื่นไม่มีขุย จึงลองถามว่า

คุณมีอาการคันศีรษะ หรือร่างกายผิดปกติอย่างอื่นหรือไม่” คำตอบที่ได้รับคือ

“ไม่มีอาการคันหรอกครับ ร่างกายผมก็ปกติดี”

ในระหว่างที่สอบถามประวัติผู้ป่วย ผมก็ตรวจไปด้วย เพราะมีผู้ป่วยโรคผิวหนังที่ยังนั่งรออยู่ข้างนอกห้องอีกหลายสิบคน ผมลองเอานิ้วมือจับเส้นผมของผู้ป่วยแล้วดึงดูก็ไม่มีเส้นผมหลุดออกมา ผมลองดึงดูใหม่อีก
2-3 หน พบว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มีเส้นผมหลุดออกมาได้ 2 เส้น เมื่อตรวจดูเส้นผมก็รู้ว่า เส้นผมที่หลุดออกมานั้นเป็นเส้นผมที่ถึงกาลจะต้องร่วงแล้ว จึงบอกผู้ป่วยว่า

“ผมของคุณก็ดูปกติดีนะครับ”

ผู้ป่วยสงสัยอีกถามว่า “เอ๊ะ ! ถ้าร่วงแบบนี้ทุกวันไปผมจะมิกลายเป็นคนหัวล้านหรือครับ”
 

   


ผมก็เลยต้องวาดรูปการเจริญของเส้นผมแล้วเล่าให้ฟังว่า เส้นผมบนศีรษะของเรามีประมาณ 100,000 เส้น จะมีประมาณ 85%-90% อยู่ในช่วงที่มีการเจริญงอกงาม พวกนี้จะเกาะติดกับชั้นใต้ผิวหนังอย่างเหนียวแน่นและจะงอกงามยาวขึ้น จนมีอายุประมาณ 3 ปี ก็จะเข้าสู่ระยะที่หยุดการเจริญงอกงาม ซึ่งมีประมาณ
10-15% เส้นผมพวกนี้จะเลื่อนสูงขึ้นกว่าเดิม และจะติดอยู่บนหนังศีรษะไม่แน่นนัก ประมาณ 3 เดือน ก็จะร่วงไป หรือถูกเส้นผมที่กำลังจะงอกขึ้นมาแทนที่ดันให้หลุดร่วงไป เส้นที่งอกขึ้นมาแทนก็จะอยู่ในระยะเจริญงอกงาม พอครบอายุประมาณ 3 ปี ก็จะหยุดงอก แล้วรอเวลาร่วงไป จากนั้นเส้นผมใหม่ก็จะงอกขึ้นมากอีกวนเวียนเป็นวงจร คล้ายกับชีวิตคนเราที่มีเกิด มีเสื่อม และร่วงโรยไป ถ้าจะเปรียบเหมือนกับต้นไม้ เส้นผมชนิดแรกเปรียบเหมือนใบไม้สีเขียวที่ยังงอกงามอยู่ พวกนี้จะติดแน่นกับกิ่งไม้ ส่วนอีกพวกหนึ่งเปรียบเสมือนใบไม้ที่แก่แล้ว มีสีเหลืองเหี่ยวเฉาไปและพร้อมจะร่วงอยู่เสมอ เมื่อมีอะไรไปกระทบกระเทือนเข้า ใบไม้แก่หรือเส้นผมที่หยุดเจริญแล้วก็จะหลุดร่วงไปได้โดยง่าย เช่นวันที่สระผม เส้นผมจะร่วงมากกว่าวันที่ไม่ได้สระ โดยปกติแล้วผมจะร่วงไม่เกินวันละ 100 เส้น

“อ้อ! ยังงั้นหรือครับ ผมพอจะเข้าใจแล้วครับ ” ผู้ป่วยพูด

ผมเสริมขึ้นว่า “เส้นผมของทุกคนจะเป็นลักษณะนี้แหละครับ มีเกิด มีแก่ แล้วก็ร่วงไปในที่สุด ไม่มีเส้นผมเส้นไหนที่จะอยู่ค้ำฟ้าได้”

ผู้ป่วยพยักหน้ารับรู้ นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “คุณหมอพอจะมียาอะไรบำรุงเส้นผมได้บ้างหรือเปล่าครับ” 

ผมนึกโกรธอยู่ในใจ ตอบว่า “ก็ผมอธิบายให้ฟังแล้วว่า คุณไม่ได้เป็นโรคผมร่วงอะไร เป็นเรื่องปกติที่เกิดกับทุกคน ไม่จำเป็นต้องใช้ยาบำรุงอะไรหรอกครับ เปลืองเงินเปล่า ๆ”

แล้วพวกแชมพูและครีมรินส์ที่ผสมกับวิตามินและโปรตีนละครับ จะช่วยบำรุงเส้นผมได้ไหม” ผู้ป่วยถามต่อ

ความจริงเส้นผมเป็นส่วนที่ไม่มีชีวิตแล้ว ส่วนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็คือบริเวณรากผมเท่านั้น แชมพู ตลอดจนครีมบำรุงเส้นผมที่มีโปรตีนหรือวิตามินไม่สามารถช่วยให้เส้นผมงอกงามได้ดีหรือเร็วขึ้นแต่อาจช่วยให้เส้นผมของบางคนที่หวียากหลังสระผม หวีได้ง่ายขึ้น” ผมตอบ

ขอบคุณมากครับที่คุณหมอให้ความกระจ่างกับผม สวัสดีครับ” ผู้ป่วยยกมือขึ้นไหว้

ผมรับไหว้ “สวัสดีครับ ถ้ามีปัญหาอีกละก็ กลับมาหาผมใหม่ก็แล้วกันนะ”

ผู้ป่วยอีกรายหนึ่งที่มีปัญหาคล้าย ๆกัน ชื่อ นางวันเพ็ญ มาหาผมด้วยปัญหาผมร่วง เมื่อซักประวัติ
และตรวจดูแล้ว ผมก็ไม่ได้ร่วงจริง แต่มีปัญหาชีวิต คือเธอเป็นภรรยาน้อยของพ่อค้ารายหนึ่ง เขารับมาเลี้ยงดูอย่างลับ ๆ จิตใจเธอก็เลยหวาดระแวงว่าภรรยาหลวงจะรู้เรื่องเข้าประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็กลัวว่าเมื่ออายุล่วงเลยไปแล้ว เธออาจจะถูกสามีทอดทิ้งไปหาผู้หญิงอื่นอีก ก็เลยมีอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับมานาน และก็รู้สึกผมร่วงมากขึ้น กลัวจะร่วงหมดศีรษะ ผมก็ได้แต่อธิบายว่าผมไม่ได้ร่วงผิดปกติ ดังที่ได้เล่าให้นายสัมพันธ์ฟัง พร้อมทั้งให้ยากล่อมประสาทไปกินและแนะนำให้ไปปรึกษาจิตแพทย์

ผมร่วงกรรมพันธุ์

ผู้ป่วยอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งพบบ่อยคือ ผมร่วงกรรมพันธุ์ ผู้ป่วยประเภทนี้ผมมักจะไม่ร่วงมากกว่าปกติ เพียงแต่ความหนาแน่นของเส้นผมน้อยลง เส้นผมจะมีขนาดเล็กและสั้นลง
นายอำนาจ เป็นตัวอย่างของผู้ป่วยประเภทนี้ นายอำนาจ อายุ 35 ปี ทำงานบัญชีให้กับบริษัทที่มี
ชื่อเสียงแห่งหนึ่ง มาหาผมด้วยเรื่องของผมบาง

สวัสดีครับ ผมของผมทำไมถึงบางลงเรื่อย ๆ แนวเส้นผมก็ร่นขึ้นไปเรื่อย ๆ จนเกือบจะครึ่งศีรษะแล้วครับ ไม่ทราบว่าคุณหมอพอจะมีทางรักษาไหมครับ”นายอำนาจกล่าวขณะที่นั่งลงบนเก้าอี้คนไข้

ผมเห็นลักษณะเส้นผมบนศีรษะของผู้ป่วย ตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว ก็รู้ได้ทันทีว่า ผู้ป่วยรายนี้ ผมน้อย
และบางลงเนื่องจากกรรมพันธุ์ เรียกตามภาษาหมอว่า แอนโดรเจนเนติก อะโลเพเซีย (Androgenetic alopecia) เพราะลักษณะศีรษะที่เขาเป็นเรียกว่าหัวเถิกถึงแนวเส้นผมด้านหน้า บริเวณข้างๆ จะร่นขึ้นไป เป็นรูป M แต่เพื่อความแน่นอนจึงต้องซักประวัติและตรวจเพิ่มเติม “ผมร่วงวันละกี่เส้นครับ และมีอาการคันศีรษะหรือมีรังแคมากไหม”

ผู้ป่วยตอบ “วันหนึ่ง ๆ ผมร่วงกี่เส้น ผมก็ไม่ได้นับครับ แต่ประมาณดูไม่เกิน 40-50 เส้นครับ ไม่มีรังแค อาการอื่น ๆ ก็ไม่มี นอกจากหนังศีรษะรู้สึกมันมาก ไม่ทราบว่าผมเป็นโรคอะไร ผมกลุ้มใจเหลือเกินกลัวว่าผมจะร่วงหมดศีรษะ คุณหมอช่วยรักษาให้ด้วยนะครับ ”

ผมถามต่อไปว่า “คุณพ่อ คุณแม่และญาติพี่น้องคนอื่นๆ มีใครผมบางแบบคุณหรือไม่ครับ”

นายอำนาจนิ่งนึกอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบว่าผมมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน มีพี่ชาย 2 คน พี่สาว 1 คน และน้องชาย 1 คน คุณพ่อและพี่ชาย 2 คน รู้สึกผมจะบางกว่าผม ส่วนพี่สาวและน้องชายอีกคนเส้นผมก็ปกติดีครับ

ผมตรวจดูบริเวณที่ผมร่วงไปก็พบว่า ความจริงยังมีเส้นผมอยู่แต่เป็นเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ และสั้นมาก สีก็ไม่ดำ เส้นผมบริเวณอื่นๆ ต้องสังเกตให้ดีจึงจะเห็น จึงบอกว่า “คุณเป็นผมร่วงกรรมพันธุ์ครับ” ไม่ทันที่ผมจะอธิบายต่อ นายอำนาจก็ถามขึ้นอีกว่า

“แล้วจะมีทางรักษาให้หายได้หรือไม่ครับ”

                                    

ผมจึงต้องบรรยายถึงสาเหตุและการเกิดผมร่วงกรรมพันธุ์ให้ฟัง ก่อนที่จะกล่าวถึงวิธีการรักษาผมร่วงกรรมพันธุ์นั้น เกิดขึ้นเนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมน ชนิดหนึ่งทีเรียกว่า แอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่พบมากในเพศชาย ออกฤทธิ์ต่อรากผมของบริเวณที่ผมร่วงมากกว่าส่วนอื่น ๆ อาจจะเป็นเพราะว่ารากผมบริเวณนั้นไวต่อแอนโดรเจนก็ได้ ทำให้เส้นผมบริเวณนี้มีการหมุนเวียนของวงจรเส้นผมเร็วกว่าที่อื่น คือ เส้นผมที่อยู่ในช่วงเจริญงอกงามจะมีอายุสั้นลง และเมื่อถึงเวลาร่วงแล้วเส้นผมที่เกิดขึ้นใหม่จะมีขนาดเล็กลง บางลง และสั้นลงด้วย จนเป็นเส้นขนอ่อน ๆ ทำให้เหมือนไม่มีผมบริเวณนั้น โรคนี้พบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย แต่พบในเพศชายมากกว่า ในผู้ชายจะมีลักษณะผมร่วงเป็นรูปแบบที่เป็นน้อยหน่อย ก็จะมีรูปร่างแนวเส้นผมส่วนหน้าเหมือนตัว M ในภาษาอังกฤษ ถ้าเป็นมาก ๆ ก็อาจจะเป็นแบบที่เรียกว่า “ทุ่งหมาหลง หรือ ดงช้างข้าม” บริเวณที่ร่วงมักจะเป็นด้านหน้าและบนศีรษะข้าง ๆ และข้างหลังมักจะไม่ร่วง ส่วนใครจะเป็นมากเป็นน้อยก็ขึ้นอยู่กับพันธุ์กรรมที่ได้รับมา และอายุของผู้ป่วย ยิ่งอายุมากขึ้นผมก็จะน้อยลง ในผู้หญิงนั้นมักจะร่วงทั่ว ๆไปทั้งศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณส่วนตรงกลางกระหม่อน

การรักษาก็ต้องหายาซึ่งมาต้านฤทธิ์ของฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งถ้าเป็นอย่างกินก็จะทำให้ผู้ที่ได้รับ
การรักษา ถ้าเป็นชายก็จะมีความเป็นผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น เส้นผมที่เคยร่วงจะหยุดร่วง แต่เส้นผมที่
กลายเป็นขนอ่อน ๆ ก็ไม่แน่ว่าจะกลับมาเป็นปกติทุกรายหรือไม่ เมื่ออธิบายถึงตอนนี้ ผมก็ลองถาม
นายอำนาจดูว่า

ถ้าหมอมียาที่กินแล้วผมจะหยุดร่วง แต่ว่าคุณจะมีลักษณะของผู้หญิงมากขึ้น คือ เสียงจะแหลมขึ้น
หน้าอกใหญ่ขึ้น ความรู้สึกทางเพศลดลง จะเอาหรือไม่”

นายอำนาจรีบตอบ “ถ้าอย่างนั้นผมยอมหัวล้านดีกว่าจะกลายเป็นกระเทยครับ ผมลาล่ะครับสวัสดี”

นายอำนาจรีบลากลับไปก่อนที่ผมจะทันอธิบายถึงยาใหม่ ๆ ซึ่งขณะนี้มีการค้นคว้าทดลองใช้ยาที่
ทาแล้วจะทำให้ฤทธิ์ของฮอร์โมนแอนโดรเจนลดน้อยลงในบริเวณหนังศีรษะ โดยที่ไม่มีผลต่อระบบอื่น ๆของร่างกาย การทดลองยาเหล่านี้ในสัตว์ทดลองปรากฏว่าได้ผลดี คาดว่าอาจจะนำมาใช้ได้ผลในคน นอกจากนี้ยังมียาลดความดันโลหิตตัวหนึ่ง ชื่อว่า ไมนอกซิดิล (Minoxidil)ซึ่งใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูงในผู้ป่วยที่ใช้ยาอื่นๆแล้วไม่ได้ผล ปรากฏว่าเมื่อผู้ป่วยกินยาชนิดนี้แล้ว มีผมและขนยาวขึ้น จึงมีผู้นำมาใช้เป็นยาทาเพื่อรักษาโรคผมร่วง ปรากฏว่าผมยาวขึ้นได้ยาตัวนี้เป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลก เพราะออกข่าวดาวเทียมด้วย เรากำลังจะเริ่มนำมาทดลองใช้ในผู้ป่วยผมร่วงแบบนี้

ยังมีผมร่วงชนิดอื่นๆ เช่นไข้หัวโกร๋น ซิฟิลิส (กามโรคชนิดหนึ่ง) ผมร่วงจากยา ผมร่วงหย่อม ผมร่วงจากการดึงเส้นผมเล่น ซึ่งถ้ามีโอกาสผมจะนำมาเล่าให้ท่านที่สนใจได้ทราบต่อไป
 

 

ข้อมูลสื่อ

62-010
นิตยสารหมอชาวบ้าน 62
มิถุนายน 2527
ศ.นพ.สมยศ จารุวิจิตรรัตนา