• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยาชุด


ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยจะไปซื้อยาจากร้านขายยากินเอง เพราะสะดวก ประหยัด และได้รับการต้อนรับขับสู้ด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี ร้านขายยาจึงเป็นสถานบริการขั้นต้นที่มีความสำคัญ เราไม่มีความประสงค์จะเสนอและให้ประชาชนเลิกการไปซื้อยารักษาตัวเอง เพราะการรักษาตัวเองเป็นหลักการที่ดีและสอดคล้องกับหลักการสาธารณสุขมูลฐานอันเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล แต่เราอยากเห็นการซื้อและการจำหน่วยยากระทำไปด้วยความรู้ สัจจะ และมนุษยธรรม

ขณะนี้ปรากฏว่าร้านขายยาได้จำหน่ายยาชุด กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งผิดหลักการ ผิดกฎหมาย ก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนและความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวงแก่ประชาชาติ

  

                                              

                                  

ยาชุดคืออะไร
ยาชุดคือ ยาหลายๆ ชนิดที่จ่ายไปเป็นชุด มักมีการตั้งชื่อหรือโฆษณาสรรพคุณเลอเลิศเกินเลยความจริงหรือถึงขั้นหลอกลวง เช่น

ยากระจายเส้น, ยาชุดปานดงกระจายเส้น (ชนิดแทนฉีด), ยาชุดอ้วน, ยาชุดหมอนวดดึงเส้นอย่างแรง (ชนิดพิเศษ), ยาชุดแก้ไข้หวัดใหญ่ (ชนิดแทนฉีด), ยาชุดบำรุงแทนฉีด, ยาชุดประดงฝรั่งอย่างแรง, ยาชุดแก้ผิดสำแลง (ชนิดพิเศษ), ยาแก้ประสาท ฯลฯ

ยาชุดเหล่นี้ประกอบด้วยยารูปร่างและสีต่างๆ กันชุดละ 3 เม็ดบ้าง และมากกว่านั้น จนถึงชุดละ 9 เม็ด โดยไม่บอกว่าประกอบด้วยยาอะไรบ้าง แต่การศึกษาพบว่ายาเหล่านี้มียาอันตรายหลายอย่าง เช่น ยาพวกสเตียรอยด์ คลอแรมเฟนิคอล เฟนาซิติน คาเฟอีน ยากล่อมประสาท เฟนีย์ลบูตาโซน ไดพัยโรน ฯลฯ

ตัวอย่างของผลร้ายจากยาเหล่านี้
ยาพวกสเตียรอยด์ ทำให้บวม ความดันโลหิตสูง เป็นแผลในกระเพาะอาหาร เป็นเบาหวาน กระดูกผุ เป็นวัณโรคได้ง่าย เป็นโรคติดเชื้อรุนแรง ฯลฯ
คลอแรมแฟนิคอล อาจทำให้ไขกระดูกฝ่อ เป็นอันตรายถึงชีวิต
เฟนาซีติน ทำให้เป็นโรคโลหิตจาง โรคไต มีอาการเคลิบเคลิ้มและติดยา
คาเฟอีน ที่อยู่ยาบางประเภท ทำให้ติดยา
ยากล่อมประสาท ทำให้ง่วงซึม และเสพติดได้
เฟนีย์บูตาโซน ทำให้ไขกระดูกฝ่อ เม็ดเลือดขาวต่ำเป็นแผลในกระเพาะ
ไดพัยโรน ทำให้เม็ดเลือดขาวต่ำ เม็ดเลือดแตก ไขกระดูกฝ่อ
                                                 ฯลฯ

ความเสียหายจากการใช้ยาชุด
1. ประชาชน ได้รับยาเข้าไปสู่ร่างกายเกินจำเป็น เพราะอาการต่างๆ โดยมากใช้ยาอย่างเดียวก็พอแต่เมื่อกินยาชุดพลอยได้รับยาอื่นๆ เข้าไปด้วย โดยไม่จำเป็น ปีหนึ่งๆ ประชาชนคนไทยได้รับยา โดยไม่จำเป็นเข้าไปในร่างกายในรูปของยาชุดเป็นน้ำหนักหลายพันตัน
2. ได้รับโทษภัยจากยา เช่น เจ็บป่วย เสพติด ตลอดจนเสียชีวิต
3. เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ แต่ประเทศชาติขณะนี้ประเทศไทยต้องสั่งยาเข้ามาจากต่างประเทศเป็นมูลค่าประมาณปีละ 10,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ หลายพันล้านบาท ต้องสูญเสียไปเพราะใช้ยาที่ไม่จำเป็นในรูปของยาชุด
4. ประชาชนต้องเสียเงินมากขึ้น เช่น เป็นไข้หวัดไปซื้อยาชุดมากเกินเสียเงิน 3 บาท แต่ถ้าซื้อยาแก้ไข้เดี่ยวๆ เช่น แอสไพริน หรือพาราเซตามอล จะเป็นราคาไม่เกิน 50 สตางค์
5. ประชาชนขาดความรู้ เพราะซื้อยาชุดก็ไม่ทราบว่ายาชุดประกอบด้วยอะไรบ้าง อาจะเป็นยาปลอดหรือยาเสื่อมสภาพ ซื้อกี่ชุดก็ไม่มีความรู้อะไรเพิ่มเติมขึ้น ช่วยตัวเองไม่ได้ แต่ถ้าซื้อยาเดี่ยวก็ต้องทราบชื่อยาและมีความรู้เพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พึ่งตนเองได้ ประชาชนต้องพึ่งตนเองได้ชาติจึงจะเข้มแข็ง

การขายยาชุดจึงผิดหลักการ ผิดกฎหมาย และทำลายชาติ

คำอุทธรณ์ต่อฝ่ายต่างๆ
1. รัฐบาล
ควรมีนโยบายและแผนที่จะให้เลิกจำหน่วยและใช้ยาชุดอย่างจริงจัง
2. รัฐสภา จับประเด็นปัญหาเรื่องยาชุดขึ้นมาพิจารณาในฐานะเป็นปัญหาที่กระทบกระเทือนต่อราษฎรจำนวนมาก และบ่อนทำลายเศรษฐกิจและความเข้มแข็งของประชาชาติไทย
3. ร้านขายยา ควรหยุดจำหน่ายยาชุด แต่จำหน่ายยาเดี่ยว ให้ความรู้แก่ประชาชน ไม่ขูดรีดโก่งราคา มีสัจจะและน้ำใจไมตรีต่อประชาชน
4. ประชาชน ไม่ใช้ยาชุด ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการรักษาและป้องกันโรคให้มากที่สุด ถ้าจำเป็นต้องใช้ยา ก็ใช้ยาเดี่ยวๆ ที่ตรงกับอาการ ยึดหลัก “ใช้ยาทุกชนิด ต้องรู้ชื่อยา และวิธีใช้ ติดฉลากเอาไว้มิให้ลืม”
5. สื่อมวลชน
ให้การศึกษาแก่ประชาชนให้งดใช้ยาชุด และร้านขายยาให้เลิกจำหน่ายยาชุด
6. กระทรวงศึกษาธิการ ให้นำปัญหายาชุดไปสอนในโรงเรียนทุกโรงเรียน เพื่อให้เป็นระบบการศึกษามีความไวในการสนองตอบต่อการแก้ปัญหาสังคมยิ่งขึ้น
7. กรมการศาสนาและมหาเถรสมาคม ส่งข่าวสาร ปัญหายาชุดถวายแก่พระเถรานุเถระทั่วประเทศเพื่อแนะนำสั่งสอนประชาชน
8. กระทรวงกลาโหม ให้ข้อมูลข่าวสารปัญหายาชุดแก่ทหารทุกกองทัพ และใช้สื่อมวลชนของกองทัพทั้งหมดให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่ประชาชน
9. กระทรวงสาธารณสุข เร่งตรวจตรา สอดส่อง วางมาตรการ ในเรื่องยาให้ประชาชนปลอดภัยมากขึ้น
10. สมาคมและองค์กรอื่นๆ รณรงค์ให้ความรู้ทุกๆ ด้านเกี่ยวกับปัญหายาชุด
เรามีความเชื่อมั่นว่าด้วยสัจจะ ด้วยหลักวิชา ด้วยเมตตาธรรม ด้วยความร่วมมือ และด้วยน้ำใจไมตรีต่อกัน ประเทศของเราจะพัฒนาไปสู่ความอยู่เย็นเป็นสุขและศานติสุขได้
ด้วยความปรารถนาดี

 

ข้อมูลสื่อ

54-002
นิตยสารหมอชาวบ้าน 54
ตุลาคม 2526
ศ.นพ.ประเวศ วะสี
ผศ.สำลี ใจดี