1. น้ำมะนาว 1 ส่วน
2. ผสมน้ำ 1 ส่วน (น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นก็ได้)
3. ใส่น้ำเชื่อมประมาณ 1 ส่วน (หรือน้ำผึ้ง หรือใส่น้ำตาลปรุงรสตามาชอบ)
4. เกลืออีกนิดหน่อย
5. ทีนี้ก็คนให้เข้ากันดี
6. คุณก็จะได้น้ำมะนาวธรรมด๊า......ธรรมดา 1 แก้ว
เชื่อว่าคุณทุกคนเคยชิมรสชาติมะนาวกันมาแล้วทั้งนั้น บางคนอาจเคยดื่มน้ำ
มะนาวเย็น ลูกอมมะนาว ไอศกรีมมะนาว ตลอดเรื่อยไปจนถึง มะนาวดอง
แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า มะนาวนี้เป็นยาได้ จะว่าไปก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย เพราะบรรพบุรุษเราก็ได้สะสมและถ่ายทอดสืบต่อกันมาบ้าง อย่างเช่น เราได้รู้ได้ยินมาเสมอว่า ถ้าพูดมากๆ ใช้เสียงนานๆ จะเกิดการเจ็บคอ เสียงแหบแห้ง คุณพ่อคุณแม่ ปู่ย่าตายาย ก็แนะนำให้ดื่มน้ำมะนาวกันทั้งนั้น เพราะว่ากันว่ามันช่วยให้ชุ่มคอ สดชื่น.....
แล้วที่จริง มะนาวช่วยได้จริงหรือ?
ก็ขอบอกกันเสียที่นี้เลยว่า ยาสมุนไพรเดี๋ยวนี้กำลังเป็นที่สนใจกันมาก หน่วยราชการ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หน่วยงานเอกชนอื่นๆ ที่สนใจสมุนไพรรวมถึงโครงการสมุนไพรฯ นี้ด้วย ได้พยายามค้นคว้า ทดลอง วิจัยสมุนไพรต่างๆ ถึงฤทธิ์และสรรพคุณในแง่วิทยาศาสตร์กันยกใหญ่ และลูกกลมๆ ที่เรียกว่ามะนาวนี้ก็เช่นกัน
ในน้ำมะนาว พบว่ามี กรดซิตริก และวิตามินซี อยู่เป็นจำนวนมาก
เจ้ากรดซิตริก มีฤทธิ์ลดไข้ ระงับความกระหายน้ำ เครื่องดื่มผสมผสานกรดซิตริกนี้ จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น วิตามินซี ก็รู้ๆ กันอยู่ บ้างว่าช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน และเชื่อกันว่าป้องกันหวัดได้ดี
นอกจากนี้ ฝรั่งมังค่า ก็ได้ทดลองมะนาวเทศ (เป็นมะนาวที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับมะนาวที่เห็นอยู่ในเมืองไทย แต่คนละพันธุ์) พบว่า น้ำมะนาวเทศสามารถฆ่าเชื้อโรคทำให้เจ็บคอได้ถึง 90-99 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 20-30 นาที (เชื้อสแท็ฟออเรียส)
ฟังดูแล้วหลักวิชาการ หรือทฤษฎีน่าสนใจดีนะครับ แต่ถ้าขาดประสบการณ์ผู้เคยใช้ก็จะดูไม่สมบูรณ์ มาฟังประสบการณ์กันดีกว่า
“มีอยู่ครั้งหนึ่งดิฉันเป็นหวัด ไข้หวัดนะค่ะ” คุณวราภรณ์ โรจน์วิบูลชัย พนักงานธนาคารออมสิน สาขาจังหวัดอ่างทอง เล่าให้ฟัง เป็นท่านแรก
“มีอาการเจ็บคอ แถมมาทำให้ไม่อยากกินอาหารอะไรเลย กินยาก็หลายชนิด แต่เป็นเพราะอะไรไม่ทราบไม่หายเจ็บคอเสียที มาลองอมลุกอมที่มีรสมะนาวบ้างก็ไม่ดีขึ้น จึงคิดว่าสู้ของสดๆ ของแท้ๆ ไม่ได้ ก็เลยคั้นน้ำมะนาว 1 ลูก ผสมเกลือกินดู แหม....อย่าบอกใครเชียว รสชาติอร่อยดี จำได้ว่าดื่มก่อนอน พอเช้ารู้สึกอาการดีขึ้นมาก เลยทำดื่มไปเรื่อยๆ จนหาย” อย่างนี้ต้องเรียกว่า ลูกอมที่ว่าแน่ๆ ยังแพ้น้ำมะนาว......
คุณวณิช ไพฑูรย์ อาศัยอยู่ที่ 114 ตรอกตีเหล็ก ถ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เล่าว่า
“มะนาวตัวผมใช้เป็นประจำ ได้ผลทางสุขภาพจากประสบการณ์ของตัวเอง ใช้มะนาว 1 ช้อนชา ผสมน้ำผึ้งบริสุทธิ์ 1 ช้อนชา เทลงคอ 2 ครั้ง กลั้วคอไว้ 2-3 นาที จึงคอยกลืน แก้อาการไอ หรือเจ็บคอ”
และ “เวลาผมเลิกจากไถนา ถ้าผมไม่ได้มะนาวก็แย่ ตื่นเข้าผมก็ออกไปไถนา รู้สึกเมื่อมาก พอกลับถึงบ้าน ผมก็ใช้มะนาวมาคั้น ชงกับน้ำตาลทราย 2 ช้อน น้ำร้อนพอควร ผมให้อยู่เป็นประจำทุกๆ เย็น ทำให้ผมแข็งแรงและชุ่มชื่นในลำคอ และทำงานไม่ค่อยเหน็ดเหนื่อย ภรรยาก็ดื่ม ดื่มกันทั้งครอบครัวเลย”
คุณบานเย็น อินทรา 31/1 หมู่ 7 ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เล่าให้โครงการฟังอีกท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะใช้วีการปรุงแตกต่างกันอย่างไร แต่มะนาวของใกล้ตัวคุณเช่นนี้ คุณสามารถนึกถึงและหาได้เป็นอันดับแรกที่จะนำไปใช้ได้ แก้ไอ เจ็บคอ คอแห้ง
ยิ่งคิมหันต์ฤดู ในเดือนเมษายนเช่นนี้ ถ้าไม่ไอ ไม่เจ็บคอ คุณผู้อ่านก็สามารถรับอรุณวันใหม่ให้สดชื่นมีชีวิตชีวา ด้วยการหาน้ำมะนาวที่ทำขึ้นเองอย่างง่ายๆ ดื่มเหมือนผมบ้างก็ได้
ข้อน่ารู้เกี่ยวกับตำรายา
1. ถ้ากินมากเกินไปจะไอ แสบคอ เพราะฉะนั้นถ้ากินแล้วไอให้หยุดยาไว้พักหนึ่งก่อน
2. อย่าจิบทีละมากๆ ควรจิบทีละน้อยๆ แต่บ่อยๆ เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ที่คออย่างสม่ำเสมอ ถ้าจิบทีละมากๆ หรือดื่มรวดเดียว ยาจะไปอยู่ที่ท้องหมด
3. ถ้าจิบยาแล้วรู้สึกแสบคอมาก แสดงว่าน้ำมะนาวมากเกินไปผสมน้ำมากขึ้น
4. เมื่อจิบไปหลายๆ ครั้งแล้ว ควรบ้วนปากแปรงฟัน เพื่อล้างน้ำมะนาวที่ติดฟัน เพราะน้ำมะนาวเป็นกรดจะกัดฟันเสียได้
- อ่าน 218,520 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้