• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ปวดนิ่วในท่อไต

   

 


นิ่ว คือ ก้อนหินปูนเล็ก ๆ คล้ายก้อนกรวดก้อนทรายที่เกิดขึ้นในร่างกายของคนเรา ซึ่งถือว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง นิ่วอาจเกิดอยู่ในถุงน้ำดี ในไต ท่อไต หรือกระเพาะปัสสาวะก็ได้ ทำให้มีอาการเจ็บปวด และอาการอื่นๆ ที่แตกต่างกันไป แล้วแต่ตำแหน่งที่เป็น

ฉบับนี้เรามาพูดถึง อาการปวดนิ่วในท่อไตกันดีไหมครับ?
ลองติดตามบทสนทนาระหว่างหมอกับคนไข้ดังต่อไปนี้ดูซิครับ


คุณหมอครับ ผมมีอาการปวดท้องจังเลยครับ ปวดมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว กินยาแก้ปวดไป 2-3 เม็ดก็ยังเห็นดีขึ้น ไม่ทราบว่าเป็นอะไรครับ ?”  คนไข้โอดครวญ

ไหนช่วยบอกซิว่า ปวดตรงบริเวณไหน ? ปวดอย่างไร? ปวดเสียดแน่นตลอดเวลา? ขยับเขยื้อนหรือกดถูกเจ็บไหม? หรือปวดบิดเกร็งเป็นพัก ๆ ?” หมอถามต่อ

มันปวดเป็นพัก ๆ เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย คล้ายมีอะไรบิดอยู่ในท้องตรงแถบซ้ายของท้อง บางครั้งเอามือกดไว้จะรู้สึกค่อยยังชั่ว” คนไข้สาธยายต่อ

“มันปวดร้าวลงมาที่ลูกอัณฑะข้างซ้ายด้วยไหม?” หมอถาม

“ครับ มันปวดลงมาที่ลูกอัณฑะและปวดร้าวไปที่หลังด้วย”

คุณผู้อ่านครับ อาการปวดท้องอยู่แถบหนึ่ง (แถบซ้ายหรือขวาก็ได้) ปวดบิดเกร็งเป็นพักๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง กดถูกไม่เจ็บ ปวดร้าวลงมาที่ลูกอัณฑะ (หรือช่องคลอด ถ้าเป็นผู้หญิง) และร้าวไปที่หลังแบบนี้ละก้อขอให้สงสัยว่าน่าจะเป็นอาการปวดนิ่วในท่อไต

โรคนิ่วในท่อไตไม่จำเป็นต้องมีอาการขัดเบา หรือปัสสาวะออกเป็นเลือดแต่อย่างไร คนไข้มักปัสสาวะได้และออกคล่องเป็นปกติ
ถ้าสงสัย ควรไปหาหมอโดยเร็ว

หมออาจให้ยาแก้ปวดบิดเกร็งในท้องเช่น อโทรปีน (Atropine) หรือบาราลแกน (Baralgan) ฉีดหรือกินเพื่อระงับอาการปวด แล้วบอกให้คนไข้ดื่มน้ำมาก ๆ (วันละ 3-4 ลิตร) เพื่อให้มีปัสสาวะออกมาก ๆ อาจช่วยขับนิ่วออกได้เอง คนไข้ควรถ่ายปัสสาวะลงกระโถนจะได้สังเกตดูว่ามีก้อนนิ่วหลุดออกมาหรือไม่

ถ้าก้อนนิ่วมีขนาดเล็กเท่าหัวไม้ขีดมักจะหลุดออกมาได้เอง ก็ไม่ต้องทำอะไรต่อไป
แต่ถ้านิ่วก้อนใหญ่ คาอยู่ในท่อไตหลุดออกมาไม่ได้ คนไข้จะยังมีอาการปวดท้องเป็น ๆหายๆอยู่เรื่อย ๆ หมออาจจะต้องตรวจเอกซเรย์ และผ่าตัดเอาออก ขืนทิ้งอยู่ในท้องนาน ๆ นอกจากจะทำให้ปวดท้องไม่หายแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ในที่สุดทำให้ไตพิการ

ไม่ควรประมาทครับ

             

 

ข้อมูลสื่อ

71-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 71
มีนาคม 2528
รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ