• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

โอ๊ย! ปวดลูกตา( ตอนที่ 1)


คุณผู้อ่านเคยปวดตาหรือปวดกระบอกตา บ้างไหมครับ ?

ผมคิดว่าอย่างน้อยครั้งหนึ่งในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ท่านคงจะเคยมีอาการปวดตา หรือปวดกระบอกตามาบ้างแล้วจะมากบ้างน้อยบ้างก็ตามเถอะ

ท่านเคยคิดบ้างไหมว่า อาการดังกล่าวมาจากอะไร ?

อาการดังกล่าวอาจจะมีสาเหตุที่พอจะลำดับให้ทราบได้ดังนี้
ลองอ่านดูซิครับว่าข้อใดพอจะจัดเข้ากับอาการของท่านที่เป็นอยู่ หรือเคยเป็นมาบ้างแล้วได้บ้าง

1. ฝีเปลือกตาหรือกุ้งยิงระยะเริ่มต้น ถ้าปวดตาเพียงข้างใดข้างหนึ่ง แต่ไม่มีอาการตามัวหรือตาพร่าเข้ามาเกี่ยวข้องคือ ยังมองเห็นชัดแจ๋วแหววดี ท่านลองเอานิ้วชี้มือขวาหรือซ้ายก็ได้กดเบาๆ ลงบนเปลือกตาบนหรือล่างของตาข้างที่ปวดดู ถ้ามีอาการเจ็บมากหรือรู้สึกสะดุ้งเมื่อกดลงไปจุดใดจุดหนึ่งละก้อ ขอให้สงสัยไว้ก่อนได้เลยว่า อาจจะมีฝีเปลือกตาบริเวณนั้นเข้าแล้วหรือเรียกได้ว่า อาจจะเริ่มเป็น “กุ้งยิง” นั่นเอง จากนั้นท่านลองก้มตัวลง โน้มศีรษะให้ต่ำกว่าระดับเอวดู ถ้ารู้สึกปวดมากขึ้นและปวดตุ้บๆ ก็ค่อนข้างชัดว่าน่าจะเป็นฝีเปลือกตาแน่ๆ
 


ท่านอาจจะกินยาปฏิชีวนะ ได้เลย อาจเป็นเตตร้าซัยคลีนขนาด 250 มิลลิกรัม ครั้งละ 2 แค็ปซูล 3 เวลาหลังอาหาร ร่วมกับยาแก้ปวดเช่น พาราเซตาม่อล หรือแอสไพริน ครั้งละ 2 เม็ด 3 เวลาหลังอาหารควบคู่กันไป ประมาณ 2-3 วัน อาการจะดีขึ้น หรือหายไปเลยแต่ถ้าไม่ทุเลาแสดงว่าไม่ใช่โรคนี้แน่ ควรไปหาแพทย์ตรวจดู


2. ถ้าไม่มีฝีตามข้อ 1 อาจจะมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสได้ เพราะเชื้อตัวนี้ทำให้มีอาการปวดกระบอกตาได้ ทั้งนี้เพราะเชื้อไวรัสมักทำให้มีอาการปวดตาม กล้ามเนื้อการกลอกลูกตา (เช่นเดียวกับเชื้อไวรัสที่ทำให้มีอาการไข้หวัด ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวปวดกล้ามเนื้อแขน ขา) ทำให้รู้สึกปวดร้าวกระบอกตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้างได้ เชื้อไวรัสตัวที่ทำให้เกิดอาการปวดกระบอกตา บางครั้งไม่ทำให้ตาแดงแต่มีอาการปวดอย่างเดียว ในบางคนอาจจะเป็นทั้งปวดตาและตาแดงควบคู่กันไป แบบคนเป็นตาแดง (อ่านเรื่องตาแดงจากไวรัส ในหมอชาวบ้าน ฉบับที่ 5 กันยายน 2522)
 


ถ้าเกิดจากเชื้อไวรัส อาการปวดจะเป็นอยู่ประมาณอาทิตย์ หรือ 2 อาทิตย์แล้วแต่มากหรือน้อย ปวดมากเมื่อใช้สายตา หรือกลอกไปมา แต่ยังมองเห็นชัดดี

การปฏิบัติตน พยายามพักการใช้สายตา กินยาแก้ปวด พักผ่อนร่างกายมากๆ ถ้าไม่แน่ใจให้แพทย์ตรวจดูอีกที ปกติแล้วจะทุเลาไปเองประมาณหนึ่งอาทิตย์


3.ปวดตาข้างใดข้างหนึ่ง และมีอาการตามัวลงด้วยอย่างผิดสังเกต คือเมื่อเอามือปิดตาข้างที่ไม่ปวด แล้วใช้ข้างที่ปวดมองวัตถุ แล้วรู้สึกมัวพร่า แบบนี้แสดงว่า ท่านจะเป็นอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ได้ คือ

ก. ม่านตาอักเสบแบบเฉียบพลัน โรคนี้นอกจากจะปวด, มัวแล้วมีอาการเคืองแดงอีกด้วย อาการปวดจะรุนแรงเป็นที่เด่นชัดมาก เมื่อออกไปที่แดดจัดๆ กลางแจ้ง
ถ้ามีอาการเช่นว่าแล้ว รีบไปหาจักษุแพทย์ (หมอตา) เถอะครับ กินยาแก้ปวดก่อนสักสองเม็ดแล้วไปได้เลย

ข. ต้อหินมุมปิด จะมีอาการปวดมาก ปวดแน่นลูกตา คล้ายลูกตาจะระเบิด ตามัวพร่าไปหมด และที่น่าสังเกตเด่นชัดคือถ้ามองดวงไฟหรือโป๊ะไฟ จะเห็นคล้ายรุ้งกินน้ำรอบดวงไฟ
ถ้ามีอาการข้อนี้ อย่ารักษาตัวเองเลยครับ รีบไปหาจักษุแพทย์ตรวจดูให้แน่ใจดีกว่าเสี่ยงมาก เพราะเวลาทุกนาทีที่ผ่านไปหมายถึง “ตาบอด” ลงทีละน้อยๆ

 


ค. สายตาผิดปกติ
อาจจะสั้นหรือยาว หรือเอียง อย่างใดอย่างหนึ่ง อาการก็จะค่อยๆ เป็นแบบเดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหายมาก่อนหน้านี้พอสมควร

อีกประการหนึ่ง การปวดจากสายตาผิดปกตินี้ อาจเป็นได้ทั้งข้างเดียวหรือสองข้าง ส่วนมากมักเป็นสองข้าง แต่จะเด่นข้างใดข้างหนึ่งก่อนเสมอ อาการเด่นของพวกนี้คือ จะปวดและพร่ามาก เมื่อใช้สายตามองเพ่งวัตถุ บางคนปวดศีรษะจนคลื่นไส้ อาเจียนเลย วิงเวียนไปหมด
ถ้าแบบนี้การแก้ไขไม่ยากเพียงแต่ท่านลองไปวัดสายตาตัดแว่นตาดู ถ้าใช้แว่นแล้วมองเห็นได้ดี ก็เป็นอันจบกันได้

ง. ประสาทตาอักเสบ ได้แก่ เส้นประสาทตาที่จะนำความรู้สึกการเห็นไปสู่สมอง เกิดการอักเสบ ทำให้ตามัว และปวดลูกตาลึกๆ ข้างใดข้างหนึ่ง
ข้อสังเกตของโรคนี้คือ ถ้าเอามือปิดข้างดีไว้ แล้วมองด้วยตาข้างที่ปวด จะพบเงาสีน้ำตาลเป็นวงขวางอยู่ตรงกลางสายตายิ่งมองไปบริเวณพื้นห้องสีขาว จะเห็นเงาสีน้ำตาลตัดกันชัดมาก
ถ้ามีอาการแบบนี้ ก็ควรจะรีบไปหาจักษุแพทย์เช่นเดียวกันครับ
 


4.ไซนัสอักเสบ บางคนเป็นโรคแพ้อากาศ เป็นหวัดบ่อย ทำให้เกิดการอักเสบภายในโพรงอากาศของกระดูกรอบกระบอกตาเกิดปวดบริเวณไซนัส ร้าวไปที่กระบอกตาข้างใดข้างหนึ่งก็อาจเป็นได้
การรักษาจึงต้องรักษาโรคไซนัสอักเสบเป็นสำคัญ


เท่าที่เขียนมาทั้งหมด เป็นสาเหตุทำให้ปวดลูกตาข้างเดียวที่พบบ่อยๆ และสังเกตได้ง่าย ตอนต่อไปจะกล่าวถึงการปวดตาทั้งสองข้าง อะไรเป็นสาเหตุที่สำคัญ ? สายตาสั้นกระนั้นหรือ ? โปรดติดตามอ่าน ปวดลูกตา ตอนที่ 2 เรื่อง……..”สายตาผิดปกติ” ที่ใครๆ ก็ถามถึง…และ…อยากอ่าน


(อ่านต่อฉบับหน้า) 

ข้อมูลสื่อ

28-005
นิตยสารหมอชาวบ้าน 28
สิงหาคม 2524
โรคตา
นพ.สุรพงษ์ ดวงรัตน์