• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

อีสุกอีใสและงูสวัด

 

เดือนนี้ผมขอพาท่านไปที่อุทยานน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ และตำบลวังกลด จังหวัดพิจิตรก่อน
ผมได้ไปจังหวัดพิจิตร ระหว่างทางได้แวะเข้าไปที่อุทยานน้ำหนาว อุทยานนี้สวยมาก เป็นความงามตามธรรมชาติ เมื่อเข้าไปจะเห็นว่าป่าไม้เขียวชอุ่ม บริเวณกว้างขวางมาก มีทางเดินเล็กๆ สามารถเดินไปทั่วอุทยาน บางแห่งก็มีลำธารเล็กๆ ไหลริน ช่วยเสริมบรรยากาศให้รื่นรมย์ยิ่งขึ้น อากาศก็บริสุทธิ์ปราศจากมลภาวะและเย็นตลอดปี สมชื่อน้ำหนาว จากนั้นผมได้เดินทางต่อไปยังตำบลวังกลด จังหวัดพิจิตร ปัญหาของการไปตลาดวังกลดโดยทางรถยนต์ก็คือ ทางหลวงอยู่คนละฝั่งกับตลาด ในสมัยก่อนต้องลงเรือข้ามฟาก ซึ่งค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ทั้งนี้เพราะตลิ่งสูงชันมาก ต่อมาได้มีชาววังกลดผู้หนึ่งได้ไปศึกษาเล่าเรียนทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ จึงได้มาทำกระเช้าลอยข้ามแม่น้ำขึ้น คล้ายกับที่พระราชวังบางปะอิน แต่ใหญ่กว่ามาก สามารถบรรทุกรถปิกอัพได้ และสายสลิงก็ยาวกว่ามาก เพราะต้องลอยข้ามแม่น้ำน่าน กระเช้าลอยฟ้านี้สร้างประมาณ 10 ปีแล้ว ใช้เงินหลายแสนบาทจากเงินมูลนิธิเจ้าพ่อวังกลด ค่าโดยสารข้ามแม่น้ำคิดคนละหนึ่งสลึงเท่านั้น รายได้ก็สมทบทุนเข้ามูลนิธิฯต่อไป ผมต้องข้ามไปข้ามมาอยู่หลายครั้ง ได้รับความสะดวกมากจึงขอชมเชยชาววังกลดว่า สามารถร่วมมือกันทำประโยชน์แก่ส่วนรวมโดยไม่ต้องอาศัยงบประมาณของทางราชการ 

 


⇒ อีสุกอีใส
จะขอกล่าวถึงเรื่องอีสุกอีใสเสียที อีสุกอีใสเป็นโรคที่มีอัตราการติดต่อสูงมากเกือบเท่าๆ กับโรคหัดทีเดียว แต่เป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง ไม่เหมือนโรคหัด* ซึ่งผมได้เคยกล่าวไว้หลายครั้งแล้ว

อีสุกอีใสยังไม่มีวัคซีนป้องกันแต่ก็ไม่สำคัญเพราะเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง เกิดจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า varicella zoster (v-z) virus (วาริเซลล่า ซอสเตอร์ (วี-แซท) ไวรัส) คำว่า varicella (วาริเซลล่า) แปลว่า อีสุกอีใส, zoster (ซอสเตอร์) แปลว่า งูสวัด การติดต่อของโรคนี้ติดต่อโดยการสัมผัส ระยะฟักตัวของเชื้อประมาณ 2 อาทิตย์ คือ หลังจากติดเชื้อแล้วประมาณ 2 อาทิตย์ จึงเกิดเป็นโรคนี้ขึ้น อีสุกอีใสเป็นโรคซึ่งเกิดขึ้นในเด็กอายุ 2-8 ปีเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็อาจจะเกิดได้ทุกอายุ อาจเกิดได้แม้ในเด็กเกิดใหม่หรือผู้ใหญ่ เมื่อเป็นครั้งหนึ่งแล้วจะไม่เป็นอีก

โรคนี้จะมีอาการเพียงเล็กน้อย คือ มีไข้ต่ำ และมีอาการคันที่ผิวหนัง พร้อมกันนั้นจะมีผืนแดงขึ้นก่อน แล้วเป็นตุ่มนูนขึ้นมาแล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มใสอย่างรวดเร็ว อาจภายในวันเดียวกัน รอบๆ ตุ่มใสยังคงมีผื่นสีแดงๆ อยู่รอบๆ เสร็จแล้วจะแห้งและตกสะเก็ด ระยะของโรครวมแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ ส่วนใหญ่มักเป็นตามลำตัว อาจขึ้นในปากหรือที่ตาได้ 

ลักษณะที่สำคัญคือ ถ้าเราดูให้ทั่วร่างกายจะเห็นลักษณะของผื่นหรือตุ่มอยู่ในระยะต่างๆ กัน เช่น บางบริเวณเป็นผื่นแดง บางแห่งเริ่มมีตุ่มนูนขึ้นมา แต่ยังไม่มีน้ำใส บางแห่งมีน้ำใส บางแห่งแห้ง บางแห่งตกสะเก็ดแล้ว ลักษณะนี้ใช้วิเคราะห์แยกโรคจากไข้ทรพิษ (ฝีดาษ) ซึ่งลักษณะทางผิวหนังจะอยู่ในระยะเดียวกันหมด อย่างไรก็ดี เชื่อกันว่าองค์การอนามัยโลกได้กำจัดฝีดาษหมดไปจากคนแล้ว

โรคแทรกซ้อน ปกติจะไม่มีโรคแทรกซ้อน นอกจาก 2 กรณี คือ
1.เกิดในเด็กเกิดใหม่ โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 10 วัน มักจะมีการอักเสบของอวัยวะทั่วร่างกาย เช่น ตับ ปอด สมอง เป็นต้น อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เชื้อจะติดต่อจากแม่ระหว่างอยู่ในครรภ์มารดา

2.ผู้ที่ใช้ยาจำพวกเพร็ดนิโซโลนอยู่ ถ้าเกิดไปติดเชื้ออีสุกอีใสเป็นโรคนี้เข้า จะเป็นอันตรายมาก เชื้อจะกระจายไปทั่วตัวได้เช่นเดียวกัน

ฉะนั้นมารดาที่ตั้งครรภ์ จึงต้องระมัดระวัง อย่าออกไปในที่ชุมชนหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ เพราะอาจได้รับเชื้อมาและเป็นอันตรายถึงลูกในท้องได้ โดยเฉพาะโรคหัดเยอรมัน**
พูดถึงเรื่องการใช้ยาเพร็ดนิโซโลน เวลานี้มีการใช้กันพร่ำเพรื่อมาก ควรใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์เท่านั้น เพราะมีโรคแทรกซ้อนมากมาย ผู้ที่จำเป็นต้องได้รับยานี้ต้องระวังไม่ให้ติดเชื้อต่างๆ

การป้องกันอีสุกอีใสในเด็กเกิดใหม่และผู้ได้รับยาเพร็ดนิโซโลน ถ้าหญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่กินยาเพร็ดนิโซโลนติดต่อใกล้ชิดกับผู้ป่วยอีสุกอีใสหรือระยะที่มีอีสุกอีใสระบาด และไม่แน่ใจว่าจะได้รับเชื้อโดยบังเอิญหรือเปล่า ให้สอบประวัติดูว่าเคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อนหรือเปล่า ถ้ายังไม่เคยเป็นให้ป้องกันด้วย แกมม่าโกลบูลิน

การรักษา
เมื่อเกิดการระบาดของอีสุกอีใสที่โรงเรียน ที่จริงไม่มีความจำเป็นต้องให้เด็กหยุดพักเรียน เพราะอาการไม่มาก เด็กสามารถไปเรียนได้ตามปกติ และการติดต่อมักจะติดต่อก่อนผื่นขึ้นแล้ว การให้หยุดอาจเป็นเพราะดูน่ากลัวการติดต่อที่มีตุ่มพุพองตามตัวมานั่งเรียนอยู่
วิธีรักษา ให้อาบน้ำถูสบู่ตามปกติ เพราะการอาบน้ำจะทำให้เชื้อไวรัสลดลง เพื่อแก้อาการคันให้ทาคาลาไมน์โลชั่น และตัดเล็บให้สั้น

 

⇒ งูสวัด(ขยุ้มตีนหมา)
งูสวัด ส่วนใหญ่จะเป็นในผู้ใหญ่แต่เด็กก็เป็นได้ อาการของโรคนี้คล้ายกับอีสุกอีใส ที่แตกต่างก็คือ จะมีตุ่มใสที่ผิวหนัง เฉพาะบริเวณปลายประสาทเท่านั้น ปลายประสาทจะแยกออกจากเส้นประสาทเป็นกลุ่มๆ บางครั้งจะเห็นตุ่มใสเป็นกลุ่มๆ ตามขาหรือแขน เรียกว่า “โรคขยุ้มตีนหมา” และเนื่องจากโรคนี้ส่วนใหญ่เป็นตามลำตัว ตามแนวของประสาทแยกออกจากไขสันหลัง แล้วทอดมาระหว่างช่องซี่โครงจนถึงกลางลำตัวส่วนหน้า อาจข้ามไปด้านตรงข้ามบ้างเล็กน้อย ปกติเป็นข้างเดียว จึงมองดูคล้ายงูสวัด ชื่อโรคนี้จึงน่ามาจากคำว่า “งูกระหวัด” มากกว่า บางคนบอกว่าถ้าเป็นทั้งสองข้างรอบตัวจะตาย การพบรอบตัวพบน้อยมาก แต่ถึงจะเป็นรอบตัวก็ไม่เป็นอันตราย เพราะเป็นที่ปลายประสาทเท่านั้น ไม่เหมือนโปลิโอ ซึ่งเป็นที่ตัวเซลล์ประสาทที่ไขสันหลัง จึงทำให้มีอัมพาตของกล้ามเนื้อของทรวงอกได้

การรักษาก็เช่นเดียวกับการรักษาอีสุกอีใส แต่งูสวัดมักมรอาการเจ็บปวดมาก เพราะเป็นที่ปลายประสาท อาจให้ยาแก้ปวดแอสไพรินหรือพาราเซตาม่อลร่วมด้วย โรคนี้ไม่มีอันตรายเช่นเดียวกัน ที่สำคัญคือ โรคนี้เกิดขึ้นสูงสุดในคนอายุ 40-70 ปี ถ้าเป็นข้างซ้าย อาจมีอาการเจ็บหน้าอกมากทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคหัวใจได้ เพราะคนวัยนี้เป็นโรคหัวใจกันมาก อย่าลืมถอดเสื้อตรวจดูผิวหนังให้ละเอียดว่ามีผื่นหรือตุ่มบนผิวหนังหรือไม่ ก่อนที่จะตกอกตกใจว่าตนเองคงจะเป็นโรคหัวใจเสียแล้ว ความผิดพลาดอันนี้เกิดขึ้นกับผมเอง เนื่องจากมีเครื่องมืออยู่ใกล้ตัว พอเจ็บหน้าอกเข้า ก็ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเลย ขณะที่กำลังตรวจอยู่ก็พอดีมองเห็นผื่นงูสวัด จึงโล่งใจไป ยังไม่มีใครทราบว่าเชื้อไวรัสตัวเดียวกัน ทำไมจึงเกิดโรคได้ 2 โรค และอายุที่เป็นต่างกันคือ โรคหนึ่งส่วนใหญ่เป็นในเด็ก แต่อีกโรคส่วนใหญ่เป็นในผู้ใหญ่ และที่แปลกก็คือ ผู้ที่เป็นอีสุกอีใสแล้ว จะไม่เป็นอีสุกอีใสอีก แต่เป็นงูสวัดได้ ตัวผมเองเป็นแล้วทั้งสองโรค

 

*โรคหัด เป็นโรคที่ร้ายแรง มีไข้สูง ไอมาก  มีโรคแทรกซ้อนสุง ดดยเพาะเด็กที่ขาดอาหาร ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมีความร่วมมือระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขทุกระดับ ที่จะต้องช่วยกันหาทางกระตุ้นให้ชาวบ้านทราบว่า หัดเป็นโรคที่ร้ายแรง อาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิต และเป็นโรคซึ่งป้องกันได้ โดยการฉีดวัคซีนป้องกันหัดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และวัคซีนก็ราคาไม่แพงมาก แต่ต้องเป็นขวดและมาแบ่งปันกัน ขวดหนึ่งฉีดได้ 10 คน

**โรคหัดเยอรมัน (ชาวบ้านเรียกว่า เหือด ) ซึ่งเคยกล่าวไว้แล้วว่า ได้มีวัคซีนป้องกันแล้ว ถึงแม้ว่าผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะมีภูมิคุ้มกันหัดเยอรมันแล้วก็ตาม แต่บางคนอาจยังไม่มี วิธีป้องกันคือ ฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันให้ผู้หญิงทุกคน เพราะถ้าผู้หญิงตั้งครรภ์อ่อนๆ เป็นหัดเยอรมันแล้ว ลูกออกมาจะพิการ ระวังอย่าฉีดวัคซีนนี้ระหว่างตั้งครรภ์ เมื่อฉีดวัคซีนนั้แล้วต้องควบคุมอย่าให้มีครรภ์ภายใน 2 เดือน ( หลังจากฉีด) เพราะวัคซีนก็คือ เชื่อโรคที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ทำให้ความรุนแรงของเชื้ออ่อนลงนั่นเอง เพราะฉะนั้นวิธีที่สะดวกที่สุดคือ ฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันที่โรงเรียน โดยฉีดให้แกเด็กหญิงทุกคน เวลานี้วัคซีนราคาไม่แพงมากแล้ว และฉีดเพียง 1 ครั้งเท่านั้นฉีดแล้วมอบใบรับรองการฉีดวัคซีนให้ไว้เลยก็ดี

 

 

ข้อมูลสื่อ

32-004
นิตยสารหมอชาวบ้าน 32
ธันวาคม 2524
นพ.ปรีชา วิชิตพันธ์