ในคอลัมน์ “เปลี่ยนชีวิต ชีวิตเปลี่ยน” ในหมอชาวบ้าน ฉบับที่ ๓๘๓ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๔ นี้เป็นเรื่องเล่าชีวิตของคุณธวัชชัย เอกธุระประคัลภ์ ประธานชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดนครปฐม ที่อดีตป่วยสารพัดโรค ทั้งเปลี่ยนไต–ตัดม้าม มะเร็งต่อมลูกหมาก ติดเชื้อในกระแสโลหิต ฟังดูไม่น่าจะรอด แต่คุณธวัชชัยไม่ยอมตาย “ฮึดสู้” โดยการออกกำลังกายด้วยการเดินเร็วๆ และขี่จักรยาน สามารถขี่จักรยานได้วันละ ๒๐๐ กิโลเมตร รอดมาได้ ๑๗ ปีแล้ว และบอกว่า “รอดได้เพราะการออกกำลังกาย”
คำนี้สอดคล้องกับความเชื่อของผมพอดี
ผมอายุเกือบ ๘๐ ปีแล้ว ออกกำลังกายด้วยการเดิน ๓ กิโลเมตรทุกเย็น และห้อยโหนยกตัวอีกทุกรอบของการเดิน มีความรู้สึกว่าตราบใดที่เรายังออกกำลังกายได้ เราก็ยังมีชีวิตอยู่
ถ้าใครท้อแท้ยอมแพ้ ไม่ออกกำลัง มันอาจจะพาลตายเอาจริงๆ
การออกกำลังทำให้ปรับกายปรับใจสู่สภาวะสมดุล
ถ้าง่วงเหงาซึมไป ออกกำลังแล้วมันตื่นตัวกระปรี้กระเปร่าขึ้น
ถ้าประสาทตื่นตัวมากไป ออกกำลังแล้วก็ทำให้สงบสบายดี
ถ้าท้องไส้มันชักจะแน่นๆ ออกกำลังแล้วการขับถ่ายก็สบายดี
ถ้ามันชักจะครั่นเนื้อครั่นตัว ออกกำลังแล้วมันก็เลยหายไป ฯลฯ
จึงสรุปว่าการออกกำลังทำให้ปรับระบบกายใจสู่สภาวะสมดุล
อะไรที่ได้ดุลมันก็เกิดความเป็นปกติ และยั่งยืน
ดุลยภาพคือสุขภาพ
การได้ดุลแปลว่ามันไม่เครียด
ถ้ามีความเครียดแปลว่าระบบมันไม่ลงตัว หรือมันขบกัน ความขบกันในระบบส่งผลกระเทือนให้เกิดอะไรก็ได้ เช่น เป็นโรคหัวใจ เป็นโรคติดเชื้อ เป็นโรคมะเร็ง เป็นโรคแปลกๆ เป็นอะไรก็ไม่รู้
การเสียดุลยภาพทำให้ไม่มีสุขภาวะ
ผมจึงไม่สงสัยเลย ในคำกล่าวของคุณธวัชชัยที่ว่า “รอดได้เพราะการออกกำลังกาย”
หมอชาวบ้านจึงส่งเสริมการออกกำลังกายตลอดมาตั้งแต่ก่อตั้งนิตยสารฉบับนี้
ขอให้ถือว่าการออกกำลังกายคือชีวิต ชีวิตคือการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายทำให้สุขภาวะดีและอายุยืน ขอให้ท่านสุขภาพดีและอายุยืน
- อ่าน 5,115 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้