• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

สวนสาธารณะ : แหล่งเสริมพลังสร้างสุข

สวนสุขภาพ
อยู่สวนชวนชื่นจิต     มีมิตรใหม่วัยหลากหลาย
เฮฮาพาผ่อนคลาย     กลางสายลมชมไม้งาม

สุรเกียรติ อาชานานุภาพ
๓๑ มกราม พ.ศ.๒๕๕๓ เวลา ๐๗.๓๐ น.
ขณะเดินที่สวนรถไฟ

กาพย์บทนี้เขียนขึ้นในเช้าวันหนึ่ง ขณะเดินออกกำลังที่สวนรถไฟ (สวนวชิรเบญจทัศ) ที่อยู่ใกล้บ้าน
การออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ถือเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งของผม
หากออกไปค้างแรมที่ต่างจังหวัด ผมก็มักจะตื่นแต่เช้า ไปเดินในสวนสาธารณะ ซึ่งมีอยู่ในแทบทุกจังหวัด ส่วนใหญ่ลงทุนสร้างโดยเทศบาล

การเดินเล่นในสวนสาธารณะ ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจีและพรรณไม้หลากสีสัน เดินชมสระหรือบึงน้ำ (บางแห่งมีกอบัว บางแห่งมีสะพานข้าม) รับสายลมและแสงแดดอ่อน ให้ความรู้สึกสดชื่นและเบิกบาน

บ่อยครั้งก็ตั้งใจเดินด้วยสติ ตื่นรู้อยู่กับเท้าที่ก้าวย่าง เป็นการบริหารกายและจิตไปพร้อมกันและมักมีโอกาสทักทายพูดคุยกับผู้ที่มาออกกำลังและพักผ่อนหย่อนใจที่สวนสาธารณะ ซึ่งบ้างก็มาลำพัง บ้างก็มากับครอบครัว และบ้างก็มาร่วมกิจกรรมกับกลุ่มตามความสนใจของตน

ที่สวนรถไฟ ซึ่งผมไปอยู่ประจำมานานหลายปีนั้น ผมจะรู้จักมักคุ้นกับ “ชาวสวน” อยู่หลายคนและหลายกลุ่ม จึงมักเดินทักทายกับ “ชาวสวน” เหล่านี้ไปตลอดทาง
การได้รู้จักกับผู้คนหลากหลาย ก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย

ที่น่าสนใจ คือ กลุ่มที่ร่วมทำกิจกรรมด้วยกันเป็นประจำ เช่น รำมวยจีน ฝึกชี่กง รำกระบอง รำพัด รำดาบ ร้องเพลง เต้นรำ เป็นต้น จัดเป็นกลุ่มมิตรภาพบำบัด หรือกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน ที่มีการรวมตัวกัน ค่อนข้างเหนียวแน่น นอกจากเล่นกิจกรรมด้วยกันแล้ว ยังมีการนัดสังสรรค์ ท่องเที่ยว ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ที่ป่วยไข้

ผมเคยพูดคุยกับสมาชิกหลายท่านที่มารำมวยจีนเป็นประจำทุกวัน ต่างบอกตรงกันว่า ทำแล้วสุขภาพดี ไม่ค่อยได้ป่วยไข้ มีสุขภาพจิตดี อารมณ์ดี ใจเยือกเย็นลง และมีชีวิตที่เบิกบาน

ทำให้ได้ข้อสรุปยืนยันถึงอานิสงส์ของการบริหารจิตหรือฝึกสติด้วยเทคนิคต่างๆ (เช่น รำมวยจีน ฝึกโยคะ) ที่ทำเป็นประจำทุกวัน นั่นคือ สุขภาวะทางกายและจิต
ผมเคยเจออาแป๊ะวัยร่วม ๘๐ ปีท่านหนึ่งที่มาเดินเล่นที่สวนรถไฟเป็นประจำ ปรารภว่า “เดี๋ยวปีนี้อั๊วก็จะไม่อยู่แล้ว!” ลูกสาวที่มาด้วยบอกว่า “เตี่ยพูดอย่างนี้มา ๑๐ ปีแล้ว”

ผมเข้าใจว่าคงเป็นเคล็ดอย่างหนึ่งในการเจริญมรณานุสติ ของอาแป๊ะท่านนี้ที่ช่วยต่ออายุมานับ ๑๐ ปีแล้ว
กลุ่มคนที่พบบ่อยอีกกลุ่มหนึ่ง ก็คือผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น อัมพาต มะเร็ง ก็จะมาเดินเล่นที่สวนกับครอบครัวหรือมิตรสหาย บ้างก็แข็งแรงขึ้น บ้างก็อยู่ได้นานกว่าที่หมอคาดคิด

ผมเจอคุณลุง อายุ ๗๐ กว่าปีท่านหนึ่ง ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะท้าย เคยผ่าตัดและให้ยาเคมีบำบัดมาเรื่อยๆ จะมาเดินเล่นกับกลุ่มเพื่อนๆ ๕-๖ คนเป็นประจำ และออกไปทัศนาจรที่ต่างจังหวัดกับเพื่อนกลุ่มนี้ทุก ๒-๓ เดือน คุณลุงยังชอบว่ายน้ำอยู่ประจำ แม้หลังป่วยก็ยังมีเรี่ยวแรงว่าย คุณลุงเป็นคนมีอารมณ์ขัน รับรู้ว่าเป็นมะเร็งระยะท้าย ก็ทำใจยอมรับ และยิ้มรับกับความตาย คุณลุงได้มาที่สวนจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต มีชีวิตยืนยาวได้กว่า ๓ ปี หลังทราบว่าเป็นมะเร็งระยะท้าย ที่สำคัญคือมีชีวิตที่มีคุณภาพและมีความสุขท่ามกลางแรงใจของญาติมิตรและบรรยากาศในสวนสาธารณะ

ที่น่านับถือคือ ท่านได้อุทิศร่างให้ทางโรงพยาบาล เพื่อการศึกษาทางการแพทย์

สวนสาธารณะในบ้านเรา จึงกลายเป็นสวนสุขภาพ ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านสุขภาพ และแหล่งเสริมพลังสร้างสุขสำหรับผู้ป่วยไข้และประชาชนทุกกลุ่มวัย
 

ข้อมูลสื่อ

390-004
นิตยสารหมอชาวบ้าน 390
ตุลาคม 2554
นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ