• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

จัดฟันสวย... แบบเจ็บๆ

เจ็บๆในที่นี้หมายถึงสวยแบบบาดใจ แต่ถ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจ จะกลายเป็นเจ็บตัวและเจ็บใจไปเลยก็ได้
ทุกวันนี้เราสามารถพบเห็นวัยรุ่นหนุ่มสาว และคนทำงานทั่วไปมีอะไรแว๊บๆ แปลกปลอมอยู่ ในปากสารพัดสี ไม่ว่าจะเป็นสีเงิน จากเหล็ก สีชมพู แดง เขียว ขาวจากยางตรงบริเวณฟัน เป็นต้น

นักเรียน นักศึกษาในหลายสถาบันจะเห็นมีกลุ่มฟันเหล็ก ฟันสารพัดสีจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งที่ใส่เพื่อสุขภาพ และใส่เพื่อแฟชั่น
สำหรับชาวต่างประเทศ ไม่ได้มองการใส่เหล็กหรือวัตถุใดๆ ในปากเป็นสิ่งแปลกประหลาด เพราะว่าในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาจะมีคนมากกว่าร้อยละ ๙๐ มีประสบการณ์ในเรื่องนี้กันมาแล้วทั้งนั้น

การใส่วัตถุแปลกปลอมที่พูดถึงนี้ ในทางการแพทย์ คือขั้นตอนของการจัดฟัน
เชื่อว่าในสมัยคุณปู่ คุณย่า คงจะหาคนที่จัดฟันกันยากสักหน่อย เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. ๒๕๔๘ นี้ ซึ่งคงจะมีแต่ฟันสีเข้มจากการกินหมากกินพลูเสียมากกว่า คนในสมัยนี้จึงมีภาษีดีกว่าคนโบราณ คือสวยด้วยแพทย์หรือทันตแพทย์ จัดฟันนั่นเอง
เรามาทำความรู้จักเรื่องการ "จัดฟัน" เพื่อสุขภาพกันดีกว่า การจัดฟันอาจจะมีอาการเจ็บหรือ รำคาญจากเครื่องมือจัดฟันบ้างโดยเฉพาะวันแรกๆ ของการติดเครื่องมือหรือใส่ลวด แต่ต่อมาก็มักจะชินและอาจจะลืมไปเลยก็ได้ ว่ากำลังจัดฟันอยู่โดยเฉพาะเด็กๆ

สำหรับผู้ที่พยายามหาวัตถุแปลกปลอมมาใส่ปากเพื่อแฟชั่น บางรายอาจจะเจ็บตัว เจ็บใจ และได้โรคในช่องปากเป็นของแถมจาก แฟชั่นจัดฟันโดยขาดความรู้ความ เข้าใจ

การจัดฟันให้ประโยชน์อะไรบ้าง
การจัดฟันเพื่อสุขภาพ มีประโยชน์หลักๆ ดังนี้
๑. ทำให้มีการบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น
ฟันซ้อนเก ฟันห่าง หรือฟันไม่สบกัน อาจทำให้การบดเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เมื่อกลืนลงไปจึงเพิ่มการทำงานของกระเพาะอาหาร หลังจากจัดฟันแล้วทำให้การบดเคี้ยวดีขึ้น เคี้ยวอาหารได้ละเอียดทำให้รู้สึกอร่อยกับอาหาร กระเพาะอาหารก็ทำงานน้อยลง
๒. ทำความสะอาดง่าย
ฟันที่เรียบสวยไม่ซ้อนเก การแปรงฟันจะง่ายขึ้น ทำความสะอาดง่าย ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคฟันผุ หรือโรคเหงือก และช่วยขจัดความกังวลและเกิดความมั่นใจในเรื่องกลิ่นปากได้
๓. ฟันสวยงาม
ฟันซ้อนเก ฟันห่าง หรือ เรียงตัวไม่ดี หลังจัดฟันแล้ว ฟันจะเรียงตัวกันสวยงาม อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้มีความ มั่นใจในการพูดคุย เป็นการเสริมบุคลิกภาพ และรอยยิ้มที่ชวนประทับใจ

ควรจัดฟันเมื่อใด
เวลาใดที่ควรจัดฟันนั้นขึ้นกับปัญหาของแต่ละบุคคล อาจเริ่มต้นได้ตั้งแต่เด็กๆ จนถึงผู้สูงอายุ ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความผิดปกติของการสบฟันนั้นๆ และสภาพในช่องปาก
ปกติแล้วฟันแท้ของคนเราเริ่มโผล่ขึ้นมาเป็นซี่แรกโดยไม่ต้อง ขึ้นแทนฟันน้ำนมเลยคือฟันกรามแท้ซี่แรกในช่วงอายุ ๖ ขวบหลังจากนั้น คือช่วงอายุ ๗-๘ ขวบ ฟันแท้หน้าล่างจะค่อยๆ ขึ้นแทนฟันน้ำนม ตามด้วยฟันแท้หน้าบน และจะทยอยกันขึ้นอย่างที่เราเรียกว่ามีการผลัดฟัน ถ้าหากมีการขึ้นของฟันที่ไม่ถูกต้องเช่น ฟันน้ำนมถูกถอนไปก่อนกำหนด หรือฟันน้ำนมไม่ยอมหลุดทำใหฟันแท้ ขึ้นซ้อนผิดที่ผิดทาง เป็นต้น หรือในผู้ใหญ่ ที่ถูกถอนฟันไปเพราะฟันผุ หากไม่ได้รับการใส่ฟันปลอม ก็อาจทำให้ฟันล้มเอียง ห่างหรือซ้อนเกได้ ถ้าตรวจพบว่ามีฟันซ้อน เกมาก มีฟันขึ้นไม่ได้ มีการสบฟันที่ผิดปกติ หรือขากรรไกรไม่สมดุล จึงควรพบทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อรับการตรวจและคำแนะนำ

                                           

ความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นในเด็กเล็ก เช่น ขากรรไกรบน-ล่างไม่สมดุลกัน ฟันหน้าล่างคร่อมฟันหน้าบน อาจเริ่มรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันความผิดปกติที่จะมีมากขึ้น ในขณะที่ยังมีการเจริญเติบโตของใบหน้าและขากรรไกร การจัดฟันในเด็กเล็กมักจะเป็นการใส่เครื่องมือเพื่อกระตุ้นให้การเจริญเติบโตของ ขากรรไกรบนและล่างได้สัดส่วน

เด็กบางรายที่มีความเคยชิน บางอย่าง เช่น ดูดนิ้ว แกะเล็บ กัดริมฝีปาก หายใจทางปากเป็นประจำ หรือมีการกลืนที่ผิดปกติ อุปนิสัยเหล่านี้จะมีผลต่อการเรียงตัวของฟัน หรืออาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของใบหน้าและขากรรไกรที่ผิดปกติ ทำให้ต้องมารับการจัดฟันเร็วขึ้น เพื่อป้องกันหรือแก้ไขความผิดปกติเหล่านั้น
จะเห็นได้ว่าอายุไม่ใช่ตัวกำหนดว่าควรจัดฟันที่อายุเท่าใด อย่างไรก็ตามกรณีเด็กที่มีปัญหาขากรรไกรไม่สมดุล อายุที่เหมาะสมในการจัดฟันในเด็กผู้ชายคือ ๑๓-๑๔ ปี และในเด็กผู้หญิงคือ ๑๑-๑๒ ปี เนื่องจากจะเป็นช่วงเวลาที่เด็กมีการเจริญเติบโตของขากรรไกรสูงสุด หรืออาจจะให้ทันตแพทย์จัดฟันดูได้ตั้งแต่จากระยะที่มีทั้งฟันแท้และฟันน้ำนม อยู่เพื่อประเมินช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ถ้าเด็กมีความผิดปกติที่ฟันอย่างเดียวก็อาจรอให้เด็กมีอายุมากขึ้นจนมีฟันแท้ขึ้นครบเป็นต้น

ผู้ใหญ่จัดฟันได้หรือไม่
อายุไม่ใช่ข้อห้ามสำหรับการ จัดฟัน สุขภาพของฟันและช่องปากต่างหากที่เป็นตัวบ่งชี้ ผู้ใหญ่วัย ๓๐ปี ๔๐ ปี สามารถจัดฟันได้ แต่ต้องมีการดูแลสุขภาพช่องปาก อย่างดี

ผู้ใหญ่บางคนต้องจัดฟัน อันเนื่องมาจากการถูกถอนฟันออกไปเป็นระยะเวลานานๆ แล้วไม่ได้ใส่ฟันปลอม ทำให้ฟันที่อยู่ข้างเคียงกับซี่ที่ถูกถอนไปล้มเข้าไป ในช่องว่างของฟันที่หายไป เมื่อจะใส่ฟันก็ใส่ไม่ได้ ต้องจัดฟันโดยตั้งฟันที่ล้มขึ้นเพื่อจะได้ใส่ฟันได้ หรือบางคนมีฟันซ้อนเกและทำความสะอาดไม่ดีเท่าที่ควรจนเริ่มเป็นโรคเหงือกและได้รับการแนะนำให้มาจัดฟัน เป็นต้น

การจัดฟันในผู้ใหญ่จะต่างจากการจัดฟันในเด็ก เนื่องจากการจัดฟันคือการเคลื่อนฟันจากตำแหน่งเดิมที่ฟันเคยอยู่ ดังนั้นการเคลื่อนฟันในเด็กจะง่ายกว่า เร็วกว่าเนื่องจากเด็กจะมีกระบวนการทำลายกระดูกและสร้างกระ-ดูกได้ดี แต่ในผู้ใหญ่กระบวนการสร้างกระดูกจะช้ากว่าเดิม เพราะฉะนั้นการจัดฟันในเด็กถ้าทำได้จะดีกว่าการจัดฟันในขณะเป็นผู้ใหญ่ ผลที่ได้จากการจัดฟันก็จะ อยู่ตัวมากกว่าในผู้ใหญ่

นอกจากนี้ ในกรณีที่ต้องมีการแก้ไขโครงสร้างของขากรรไกรที่ไม่สมดุล เช่น ขากรรไกรบนยื่นขากรรไกรเล็ก หรือขากรรไกรล่างยื่น การจัดฟันชนิดที่ต้องเลื่อนหรือ กระตุ้นขากรรไกรให้โตช้าหรือเร็วทำได้เฉพาะตอนเป็นเด็กในขณะที่ยังมีการเจริญเติบโตของใบหน้า และขากรรไกรเท่านั้น ในผู้ใหญ่ทำไม่ได้เพราะไม่มีการเจริญเติบโตมาช่วยแล้วการจัดฟันในผู้ใหญ่ที่มีขากรรไกรบนและล่างไม่สมดุลหรือเป็นความผิดปกติที่โครงสร้าง ใบหน้าและขากรรไกรจึงต้องมีการผ่าตัดเข้ามาร่วมด้วย

ทำไมต้องถอนฟันเพื่อจัดฟัน

การจัดฟันอาจจะมีการถอน ฟันบางซี่ร่วมด้วยในกรณีที่มีฟันซ้อนเก ฟันยื่น หรือกรณีขากรรไกร บนและล่างผิดปกติ
การถอนฟันจะทำให้มีที่ว่าง เพียงพอสำหรับการแก้ไขความผิดปกติได้ ในบางรายอาจมีฟันเก หรือยื่นทั้งบนและล่างจึงจำเป็นจะต้องถอนฟันซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ฟันกรามน้อยซี่แรกซ้ายขวาของขากรรไกรบนและล่างรวม ๔ ซี่ และใช้ช่องว่างจากการถอนฟัน เพื่อมาขยับฟันที่เกอยู่ให้เรียบได้ อย่างไรก็ตามฟันที่จะถอนอาจเป็นฟันซี่อื่นได้ ขึ้นกับดุลพินิจของทันตแพทย์จัดฟันและสภาพปัญหาในช่องปากและทันตแพทย์ จัดฟันจะปิดช่องที่เกิดจากการถอนฟันโดยไม่ต้องใส่ฟันปลอม
       

ขั้นตอนก่อนการจัดฟัน
๑. ทันตแพทย์จัดฟันจะซักถามถึงเหตุผลในการจัดฟันของ ผู้ป่วยเพื่อประเมินประกอบกับ การตรวจในช่องปากโดยดูด้วยตาเปล่า และแจ้งขั้นตอนการรักษาคร่าวๆ ให้ผู้ป่วย
๒. หากผู้ป่วยสนใจที่จะรับการรักษา ทันตแพทย์จัดฟันจะซักประวัติโรคประจำตัว เอกซเรย์ฟัน กระดูกขากรรไกร และใบหน้า พิมพ์ฟัน ถ่ายรูปฟัน และใบหน้าของผู้ป่วยเพื่อเป็นข้อมูลในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างละเอียด และเพื่อเก็บไว้เปรียบเทียบผลก่อน-หลังการรักษา
๓. ทันตแพทย์จัดฟันจะ อธิบายแผนการรักษา ทางเลือกประเมินระยะเวลา ผลข้างเคียงของการจัดฟันและค่าใช้จ่าย ตลอด จนเปิดโอกาสให้ผู้ป่วย และผู้ปกครอง (กรณีผู้ป่วยเด็ก) ได้ซักถามข้อสงสัยต่างๆ
๔. ก่อนการจัดฟันหากผู้ป่วย มีฟันผุฟันคุด หรือเหงือกอักเสบจะต้องทำการอุด ถอน และรักษาโรคเหงือกให้เรียบร้อยเสียก่อน

ระยะเวลาการจัดฟัน
ระยะเวลาของการจัดฟันขึ้น อยู่กับความรุนแรงของปัญหา ตลอดจนการเจริญเติบโตของผู้ป่วย รวมถึงความร่วมมือของผู้ป่วยด้วย โดยปกติการจัดฟันในเด็ก จะใช้เวลาประมาณ ๒ ปีหรือเร็วกว่า ส่วนผู้ใหญ่อาจใช้เวลา ๒-๓ ปี โดยเฉลี่ย
หลังจัดฟันเสร็จแล้วผู้ป่วยจำเป็นต้องใส่เครื่องมือคงสภาพฟันเพื่อมิให้ฟันที่เรียงตัวสวยงามนั้นเคลื่อนกลับสู่สภาพเก่า จึงต้องทิ้งระยะเวลาให้ฟันนั้นมีการปรับสภาพในตำแหน่งใหม่นั้นๆ โดยระยะเวลาในการใส่เครื่องมือคงสภาพฟันนั้น ทันตแพทย์จัดฟัน จะให้คำแนะนำเป็นรายๆไป โดยปกติถ้ายังสามารถใส่เครื่องมือคงสภาพฟันได้เรื่อยๆ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าฟันยังไม่เคลื่อน หรือซ้อนเกกลับไปอีก
        

การจัดฟันประสบความสำเร็จได้อย่างไร
ความสำเร็จในการจัดฟัน ไม่ได้ขึ้นกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อยู่ที่ความร่วมมือของผู้ป่วย และทันต-แพทย์จัดฟัน ความร่วมมือของผู้ป่วยจัดฟันคือ
๑. แปรงฟันและเครื่องมือจัดฟันให้สะอาด เศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ที่หมักหมม อาจทำให้ฟันผุ เหงือกอักเสบ (โรคปริทันต์) ฟันด่าง และทำให้มีกลิ่นปาก
๒. งดอาหารประเภทกรอบ แข็ง เหนียว เพราะจะทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุดง่าย ทำให้การจัดฟันเสร็จช้า
๓. ความร่วมมือของผู้ป่วยใน การใส่ยางคล้องฟัน หรือเครื่องมือ เสริม จะช่วยทำให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่คาดไว้
๔. ควรไปพบทันตแพทย์จัดฟันเพื่อปรับเครื่องมือตามนัด การผิดนัดทำให้การจัดฟันไม่ประสบผลที่ดี


ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการจัดฟันได้แก่
๑. การแปรงฟันไม่สะอาดจะทำให้เกิดฟันผุ เหงือกอักเสบ และเกิดฟันด่างขาวได้
๒. การเจริญเติบโตของขากรรไกรดีหรือไม่ ขึ้นกับกรรมพันธุ์ เป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่ยากแก่การควบคุม ดังนั้นแม้ว่าจะมีการวางแผนการรักษาอย่างละเอียด รอบคอบ การจัดฟันก็อาจไม่สามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้
๓. สำหรับฟันซี่ที่เคยได้รับอุบัติเหตุมาก่อน อาจมีรอยร้าวที่มองไม่เห็น ฟันที่ผุมาก หรือฟันที่มีวัสดุอุดลึกอาจจะมีรอยทะลุโพรงประสาทแล้ว แต่ยังไม่เกิดอาการ การเคลื่อนฟันอาจทำให้ฟันเหล่านี้ ปรากฏอาการขึ้น เช่น ปวด หรือเปลี่ยนสี กรณีนี้การรักษาคลองรากฟันเป็นสิ่งจำเป็น
๔. การละลายตัวของราก ฟันอาจเกิดขึ้นได้ โดยทั่วๆ ไปปลายรากฟันอาจสั้นลงเล็กน้อยระหว่างหรือหลังการจัดฟัน
๕. การจัดฟันไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับการเกิดปัญหาข้อต่อ ขากรรไกร อย่างไรก็ตาม หากเคยมีประวัติปวดข้อต่อขากรรไกร หรือขากรรไกรค้าง ควรแจ้งให้ทันตแพทย์จัดฟันทราบทันที

เครื่องมือที่ใช้จัดฟันมีกี่แบบ
เครื่องมือที่ใช้จัดฟันมี ๒ แบบ คือ ชนิดถอดได้ และชนิดติดแน่น
๑. เครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ ผู้ป่วยสามารถถอดออกเองได้ มี ๒ ชนิด คือ ใช้เคลื่อนฟัน และใช้เคลื่อนตำแหน่งของขากรรไกรเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโต
ข้อดี สามารถถอดออกได้ขณะกินอาหารและขณะแปรงฟัน การดูแลทำความสะอาดฟันทำได้ง่ายกว่าเครื่องมือชนิดติดแน่น
ข้อเสีย เครื่องมือจะทำงานเมื่อเครื่องมืออยู่ในปากเท่านั้น แต่ถ้าผู้ป่วยไม่ใส่ การจัดฟันจะไม่ได้ผล นอกจากนี้เครื่องมือจัดฟันชนิด ถอดได้จะใช้ได้เฉพาะการเคลื่อนฟันอย่างง่ายจึงไม่เหมาะที่จะใช้ในรายที่มีฟันซ้อนเกหลายๆซี่

๒. เครื่องมือจัดฟันชนิดติดแน่น
เครื่องมือชนิดนี้จะติดแน่นกับตัวฟัน ซึ่งอาจะเป็นสเตนเลส (สีโลหะ) หรือเซรามิก (สีฟัน) โดยผู้ป่วยไม่สามารถถอดเครื่องมือชนิดนี้ออกเองได้ เครื่องมือชนิดนี้จะใช้เมื่อต้องการเคลื่อนฟันหลายๆ ซี่พร้อมกัน ผู้ป่วยจะกินอาหารโดยมีเครื่องมือชนิดนี้อยู่ในปากด้วย





การแปรงฟันขณะจัดฟัน
การจัดฟันด้วยเครื่องมือชนิดติดแน่นจะทำให้การทำความ สะอาดฟันยุ่งยากกว่าปกติ เนื่องจากจะมีเศษอาหารเกาะติดได้ง่าย ถ้าไม่พิถีพิถันในการทำความ สะอาดฟันอาจเผลอยิ้มโดยมีเศษอาหาร เช่น ผักติดอยู่ที่ฟันและเครื่องมือได้
การแปรงฟันเพื่อสุขภาพของช่องปากขณะจัดฟันนี้ อาจ ใช้แปรงสีฟันธรรมดา หรือแปรงสีฟันสำหรับจัดฟันซึ่งมีลักษณะพิเศษคือมีร่องตรงกลางก็ได้ นั่นคือ วางร่องแปรงทับไปบนเครื่องมือจัดฟัน แล้วหมุนแปรงเป็นวงกลม หมุนซ้ำแล้วซ้ำอีก ในบริเวณเดิมจึงปัดขนแปรงออก หรือขยับแปรงไปมาเบาๆ โดยแปรงซ้ำที่เดิมซี่ละประมาณ ๖ ครั้ง ซึ่งถ้าจะให้แปรงได้สะอาดทั้งปาก ควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๓ นาที นอกจากนี้อาจต้องใช้แปรงซอกฟันหรือไหมขัดฟันช่วยเสริมเพื่อให้มั่นใจว่าได้กำจัดเศษอาหาร จากบริเวณซอกฟันได้หมด
ถ้าผู้ป่วยแปรงฟันได้ดีในระหว่างการจัดฟัน เวลาจัดฟันเสร็จ ถอดเครื่องมือออก ฟันก็จะขาวสดใสเหมือนเดิม แต่ถ้าแปรงฟันไม่ดีพอ ฟันก็จะผุได้ เพราะฉะนั้นในระหว่างที่ใส่เครื่องมือจัดฟันอยู่ควรจะตั้งใจดูแลฟันให้สะอาด แปรงอย่างน้อยวันละ ๓ ครั้ง และแปรงให้ได้ทุกครั้งหลังกินอาหารก็ยิ่งดี

การจัดฟันจำเป็นจะต้องเป็นทันตแพทย์เฉพาะทางหรือไม่
จำเป็นมาก เนื่องจากทันตแพทย์จัดฟัน คือทันตแพทย์ที่เรียน มาเฉพาะทางจัดฟัน นั่นคือหลังจากจบปริญญาทางทันตแพทย์แล้ว จะต้องเรียนต่อด้านทันตกรรมจัดฟันเฉพาะทางอีกประมาณ ๓ ปี ได้วุฒิบัตรทางทันตกรรมจัดฟัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความรู้ความสามารถที่จะจัดฟันให้ผู้ป่วย ได้ผลดีที่สุด ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจ จัดฟันควรมีการซักถามหรือสืบประวัติของทันตแพทย์ที่จะให้การรักษาเราซะหน่อย ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้นว่าจะไม่เจ็บตัวและเจ็บใจฟรีแน่

ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน
การจัดฟันด้วยเครื่องมือติดแน่น ใช้เวลาประมาณ ๒ ปีโดยเฉลี่ย ทั้งนี้ขึ้นกับความรุนแรงของปัญหา การเจริญเติบโตของขากรรไกรผู้ป่วย รวมถึงความร่วมมือของผู้ป่วย เพราะการจัดฟันต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ป่วยเป็นหลัก การรักษาความสะอาดของฟัน การดูแลเครื่องมือจัดฟัน และการใส่ยางดึงฟันตามที่ทันตแพทย์ จัดฟันแนะนำ เป็นต้น
สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน ก็ขึ้นกับความรุนแรงของปัญหา รวมถึงชนิดของเครื่องมือจัดฟันที่ใช้ ระยะเวลาในการรักษา และสถานพยาบาลที่ไปใช้บริการ
โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายประมาณ ๒๕,๐๐๐-๓๕,๐๐๐ บาท ในโรงพยาบาลของรัฐ และอาจจะสูงกว่านี้ตามคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชน

แฟชั่นจัดฟัน ปลอดภัยหรือไม่
การจัดฟันในปัจจุบันถือว่าเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง จะเห็นได้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้อยากที่จะจัดฟันมากขึ้น บางคนมาพบทันตแพทย์เพราะต้องการให้ติดเครื่องมือ จัดฟัน
แต่การทำเป็นแฟชั่นแบบเป็นเครื่องประดับนั้นไม่ควรทำ เพราะอาจเกิดโทษ ถ้าดูแลรักษาความสะอาดไม่ดีพอ
สำหรับบางคนที่ไปซื้อลวดจัดฟันแฟชั่นแบบร้อยเป็นลูกปัดที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไปนั้น อาจเกิดอันตรายมากขึ้นไปอีกจากลวดที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเป็นสนิม หรือเกี่ยวปากเป็นแผลทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ซึ่งเป็นเรื่องไร้ประโยชน์และเกิดโทษกับร่างกายด้วย

 


 

ข้อมูลสื่อ

312-004
นิตยสารหมอชาวบ้าน 312
เมษายน 2548
ผศ.ทพญ.สุวรรณี ลัภนะพรลาภ