• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

แปรงสีฟันไฟฟ้า

แปรงสีฟันไฟฟ้า


ถ้าหากคุณจำเป็นต้องเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าสักชิ้นหนึ่งซึ่งมักจะมีราคาแพง คุณจะมีหลักการเลือกอย่างไรให้คุ้มกับเงินที่ต้องเสียไป ก่อนอื่นให้พิจารณาถึงความจำเป็นของผู้ที่จะใช้แปรงชนิดนี้ การเสียเงิน 2-3 พันบาทสำหรับการซื้อความสะดวกในการแปรงฟันอาจจะฟุ่มเฟือยเกินไป แต่หากเป็นการจ่ายเพื่อชดเชยความสามารถในการใช้มือซึ่งสูญเสียไปอย่างถาวร อันได้แก่คนที่มือพิการจากเหตุใดก็ตาม หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้เช่นนี้แล้ว จึงจะนับว่าคุ้มค่าในการบริโภค “สิ่งจำเป็น ราคาแพง” เมื่อได้ใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนแล้วว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีไว้ ลำดับต่อไปก็มาดูว่า จะเลือกกันอย่างไรดี

แปรงสีฟันไฟฟ้า เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่ค่อยแพร่หลายนักในบ้านเราจึงไม่เป็นที่คุ้นเคย ทำให้มีข้อมูลไม่เพียงพอในการประกอบการตัดสินใจเมื่อถึงคราวจำเป็นต้องหามาใช้ ทั้งนี้คงเนื่องมาจากความที่มีราคาแพง ประกอบกับทัศนคติของคนส่วนมากที่เห็นความสำคัญของการรักษาอนามัยในช่องปากน้อยเกินไป แปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป คงแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทตามแบบวิธีการทำงานของมัน ดังนี้

1. แปรงสีฟันที่เคลื่อนไหวเฉพาะส่วนหัวแปรงในลักษณะบิดไปมาตามแนวแกนของด้ามแปรง แปรงสีฟันประเภทนี้เป็นชนิดแรกที่ได้รับการประดิษฐ์ขึ้นมาโดยเลียนแบบสูตรวิธีการแปรงฟันที่ทันตแพทย์มักแนะนำให้คนไข้ทำ โดยการแปรงปัดจากโคนฟันตรงขอบเหงือกขึ้น-ลงไปหาปลายฟัน

2. แปรงสีฟันที่เคลื่อนไหวเฉพาะส่วนขนแปรงแต่ละกระจุก ในลักษณะของการหมุนรอบแนวแกนของขนแปรงเป็นรูปวงกลม โดยบางกระจุกหมุนทวนเข็มนาฬิกา บางกระจุกก็หมุนตามเข็มนาฬิกาสลับกันไป แปรงชนิดนี้เพิ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อนในประเทศสหรัฐอเมริกา

แปรงสีฟันชนิดแรกนั้นนับวันจะสูญเสียตลาดให้กับแปรงสีฟันชนิดหลังมากขึ้นทุกที เนื่องจากประสิทธิภาพต่ำกว่ามาก (สู้มือคนยังไม่ได้ด้วยซ้ำไป) ส่วนแปรงประเภทหลังได้ยินว่าผู้ผลิตกล้าท้าพิสูจน์ว่าสามารถทำงานได้ดีกว่ามือคนหลายเท่าทีเดียว

ถ้าตรงนี้คุณคงได้คำตอบเรียบร้อยแล้วว่าจะเลือกซื้อแปรงสีฟันประเภทใดดี แต่สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ไม่ควรละเลย คือ การศึกษาคู่มือการใช้และการบำรุงรักษาให้ละเอียดก่อน

ข้อมูลสื่อ

164-009
นิตยสารหมอชาวบ้าน 164
ธันวาคม 2535