ยาพื้นบ้าน
ปัจจุบันมีคนหันกลับมานิยมใช้พืชเป็นยารักษาโรคกันมากขึ้น ซึ่งพืชบางชนิดก็เป็นที่คุ้นเคยกันดีในการประกอบอาหารแต่ละมื้อ เพราะนอกจากใช้ประโยชน์ทางด้านอาหารแล้วยังเป็นยารักษาโรคในตัวอีกด้วย
1.หัวหอมเล็ก ใช้แก้พิษแมลงกัดต่อย โดยใช้หัวหอมตำกับมะขามเปียก ทาบริเวณที่ถูกแมลงกัดต่อย เช่น แมลงป่อง ตะขาบ มดตะนอย จะช่วยให้หายปวดบวมอย่างรวดเร็ว
2.มะนาว ช่วยบรรเทาอาการไอ โดยการบีบน้ำมะนาวลงคอ จะช่วยลดอาการไอได้เป็นอย่างดี และยังช่วยให้หายคอแห้งด้วย
3.กะเพรา ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดและปวดท้อง โดยใช้ยอดกะเพราสด 2-3 ยอด กินแกล้มกับอาหารจะช่วยขับลมและลดอาการท้องอืด ปวดท้องได้ดีมาก
ใช้รักษาหูด โดยให้ขยี้ใบกะเพราที่บริเวณหูดบ่อยๆ จะทำให้หูดหลุดไปได้
ใช้แก้พิษแมลงป่องต่อย โดยโขลกใบกะเพรา 1 กำมือให้ละเอียด และทาบริเวณที่ถูกแมลงป่องต่อย จะลดอาการปวดบวมได้เร็วขึ้น
4.ข่า ใช้แก้ลมพิษ โดยนำหัวข่าล้างน้ำให้สะอาดตำผสมกับเหล้า ทาบริเวณที่เป็นลมพิษ จะทำให้เย็นและหายคันภายในเวลาอันรวดเร็ว
ใช้รักษาเกลื้อน หัวข่าล้างให้สะอาดตำกับเหล้าขาว ทาบริเวณที่เป็นเกลื้อนเช้าเย็น จะหายภายใน 2สัปดาห์
5.ฝรั่ง ใช้รักษาอาการท้องเสีย โดยเลือกใบฝรั่งยอดอ่อนๆ 2-3 ยอดปิ้งไฟให้เหลืองกรอบ ต้มกับน้ำประมาณ 1 แก้ว ดื่มวันละ 3-4 ครั้ง อาการจะดีขึ้น
6.ทับทิม ใช้เป็นยาขับพยาธิ โดยใช้เปลือกสดของรากทับทิมหนัก 60 กรัม ต้มกับน้ำครึ่งลิตร เคี่ยวให้แห้งเหลือครึ่งหนึ่งแล้วปล่อยให้เย็น กินครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะทุกครึ่งชั่วโมงจนหมด ในเช้าวันที่ถ่ายพยาธิให้คนไข้อดอาหาร และหลังกินยาต้มแล้วให้ถ่ายดีเกลือตาม จะได้ผลดีมากโดยเฉพาะพยาธิตัวตืด
หากใครพอมีเวลา อย่าลืมปลูกพืชเหล่านี้ไว้ภายในบริเวณบ้านนะคะ เพราะเมื่อมีบุคคลภายในครอบครัวเกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยดังที่ได้กล่าวมานั้นจะได้หยิบฉวยมาใช้ได้ทันที
ข้อมูลจาก : หนังสือรวบรวมบทความเผยแพร่ สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค)
- อ่าน 8,415 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้