คนไทยขาดเหล็กร้อยละ 54
ธาตุเหล็กจำเป็นแก่ร่างกาย ถ้าขาดธาตุเหล็กจะรบกวนระบบของร่างกายหลายอย่าง เช่น ไม่มีแรง อ่อนเพลีย ขี้เกียจ สมองเฉื่อย โลหิตจาง ถ้าเด็กขาดเหล็กตั้งแต่ยังเล็กมากจะกระทบกระเทือนสมอง คือทำให้โง่ และถึงจะให้เหล็กตามหลังก็ไม่หายโง่ การขาดเหล็กจึงมีผลกระทบต่อทั้งพลังทางกายและพลังทางปัญญาของประเทศอย่างมาก
จากการตรวจตัวอย่างประชากรทั่วประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะหญิงจันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณจาก
กระทรวงสาธารณสุขและคณะ ภายใต้สถาบันวิจัยสาธารณสุขไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ พบว่าประชาชนไทยโดยเฉลี่ยร้อยละ 27 มีโลหิตจาง ประชาชนในภาคใต้มีอัตราการมีโลหิตจางสูงกว่าภาคอื่น ๆ คือสูงกว่าร้อยละ 30 นายแพทย์ สกริมชอว์ ผู้เชี่ยวชาญโภชนาการโลกกล่าวว่า ถ้าตรวจพบสภาวะโลหิตจางด้วยอัตราส่วนเท่าใด ให้เอา 2 คูณ จะเป็นอัตราการขาดเหล็กในประชากรนั้น ที่เป็นดังนี้ก็เพราะมีคนที่ขาดเหล็กโดยไม่มีโลหิตจางอยู่อีกประมาณเท่าตัว ในกรณีของเราที่พบว่าประชากรร้อยละ 27 มีโลหิตจางจึงหมายความว่าประมาณร้อยละ 54 ของคนไทยขาดธาตุเหล็ก นั่นหมายถึงกว่า 30 ล้านคน อันเป็นจำนวนไม่ใช่น้อย
แล้วควรทำอย่างไร
นายแพทย์สกริมชอว์ว่าอย่าไปตรวจให้เสียเวลา ให้กินเหล็กเลย!
ใครกิน และกินอย่างไร
คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ขาดเหล็ก คือ
1.หญิงวัยประจำเดือนทุกคน
2.หญิงที่กำลังตั้งครรภ์
3.หญิงที่กำลังให้นมลูก
วิธีกิน คือกินยาเม็ดเฟอร์รัสซัลเฟตขนาดมาตรฐาน 2 เม็ดต่อสัปดาห์ ควรกินหลังอาหารมื้อใดมื้อ
หนึ่ง ถ้าสัปดาห์ไหนลืม ไม่ต้องกินควบ ยังคงกิน 2 เม็ดเท่าเดิม (ความคิดเรื่องกินยาควบหลังลืมกินยา เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะอาจเกิดพิษจากการกินยามากเกินขนาด)
คนที่ไม่ควรกินยาเหล็ก คือคนที่มีเหล็กมากเกินในร่างกายอยู่แล้ว ซึ่งในคนไทย ได้แก่ คนที่เป็นโรค
ธาลัสซีเมียที่รุนแรง มีอาการแคระแกรน พุงโต เนื่องจากตับม้ามโต มีอาการซีดและมีดีซ่าน ผู้ที่เป็นพาหะของธาลัสซีเมียก็ขาดเหล็กได้เหมือนคนปกติ
นี้เป็นคำแนะนำเบื้องต้นไปก่อน สำหรับรายละเอียดมากกว่านี้ คณะผู้เชี่ยวชาญ จะได้นำเสนอต่อไป
- อ่าน 1 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้