บอกเล่าเก้าสิบ

ในระยะนี้มีข่าวที่น่ายินดีเกี่ยวกับการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่อยู่ 2-3 เรื่องด้วยกัน

เรื่องแรก บริษัทการบินไทย ได้ประกาศห้ามผู้โดยสารทุกคนสูบบุหรี่ในเครื่องบินโดยสารภายในประเทศ

เรื่องที่สอง คณะรัฐมนตรีได้มีมติในที่ประชุมเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ คัดค้านการนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศ

เรื่องที่สาม เกี่ยวกับกรณีที่พ่อค้าและนักการเมืองสหรัฐอเมริกาบีบบังคับให้ไทยรับบุหรี่ของเขาเข้ามาขายในประเทศ ในขณะนี้ได้มีบุคคลและองค์กรต่างๆ ในประเทศนั้น เช่น กลุ่มสมาคมแพทย์สตรีของสหรัฐฯ กลุ่มคณะกรรมาธิการต่อต้านการสูบบุหรี่ของรัฐนิวเจอร์ซี่ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยรัฐต่างๆ เป็นต้น ได้มีจดหมายประท้วงไปยังสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ให้ยุติการกระทำที่ไร้จริยธรรมและคุณธรรมดังกล่าว

นอกจากนี้สันนิบาตต่อต้านยาสูบแห่งเอเซียแปซิฟิก ได้จัดประชุมเรื่องบุหรี่และสุขภาพ เมื่อวันที่ 10-12 มิถุนายนนี้ ที่ไต้หวัน ผู้แทนจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ (รวมทั้งประเทศไทยโดยศาสตราจารย์นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ กรรมการอำนวยการโครงการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่) ได้ร่วมกันทำจดหมายถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คัดค้านการบีบให้ประเทศในแถบนี้เปิดตลาดรับบุหรี่อเมริกัน

การเคลื่อนไหวทั้งในและนอกประเทศเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า หากเรายืนหยัดในความถูกต้องเป็นธรรม ก็ย่อมได้รับความเห็นใจและการสนับสนุนจากบุคคลหลายๆฝ่าย รวมทั้งกลุ่มพลังที่ใฝ่ธรรมในประเทศที่ก่อ “สงครามเศรษฐกิจ” ที่อธรรมในครั้งนี้

การคัดค้านบุหรี่ต่างประเทศ ถือได้ว่าเป็นการต่อสู้เพื่อ “เอกราช” แห่งประเทศ เชื่อว่า มติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ ประกอบกับแนวร่วมพลังธรรมทั้งในและนอกประเทศ ย่อมนำพาให้ประเทศเรารอดพ้นจากการตกเป็น “อาณานิคม” ของบุหรี่ต่างประเทศได้ เฉกเช่นในอดีตที่ไทยเคยรอดพ้นจากเงื้อมมือของจักรวรรดินิยมตะวันตกมาแล้ว!