• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

สำส่อน

สำส่อน

ครั้งที่แล้วได้พูดจากันถึงคำว่า “เที่ยว” คำที่มีความหมายคล้ายๆ กันอีกคำหนึ่งก็คือ คำว่า “สำส่อน”
ในขณะนี้ คำนี้กำลังฮิตคู่กับโรคเอดส์ เรามักจะได้ยินได้เห็นคำเตือนภัย เช่น “ป้องกันโรคเอดส์ด้วยการเลิกยาเสพติด และเลิกสำส่อนทางเพศ” ที่ให้เลิกยาเสพติดก็เพราะว่าผู้ติดยาเสพติดนิยมใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดยาด้วยกัน ขณะนี้พบว่า ผู้ที่ฉีดยาเสพติดมีอัตราการติดเชื้อเอดส์ (มีเชื้อเอดส์แฝงอยู่ในเลือดและร่างกาย) สูงถึงร้อยละ 40 (40 คนใน 100 คน) เนื่องจากเข็มฉีดยาที่เปื้อนเลือดคนที่เป็นเอดส์ สามารถแพร่ติดต่อให้คนอื่นๆ ที่ใช้เข็มอันเดียวกันนี้ได้ง่ายมาก การไม่ริหรือเลิกเสพยาเสพติดจึงเป็นหนทางป้องกันโรคเอดส์ได้ดียิ่งทางหนึ่ง

ส่วนพฤติกรรมสำส่อนทางเพศนั้นก็เป็นบ่อเกิดของโรคเอดส์และกามโรคทุกชนิด คำว่า “สำส่อน” นั้นยังมีการตีความได้ต่างๆ กันไป โดยทั่วไปหมายถึง การซ่องเสพกามารมณ์เละเทะ ไม่เลือกใครเป็นใคร กลุ่มคนที่มีพฤติกรรมเช่นนั้นชัดๆ ก็คือ กลุ่มคนที่มีอาชีพเป็นโสเภณี ที่ต้องค้าประเวณีกับลูกค้าไม่เลือกหน้าแทบทุกวัน วันละหลายๆ คน กลุ่มนี้จึงมีโอกาสติดเชื้อกามโรคและเชื้อเอดส์ได้มากกว่าคนทั่วไป

ในเวลานี้พบว่า โสเภณีมีอัตราการติดเชื้อเอดส์ประมาณร้อยละ 10 กล่าวคือ ในโสเภณีทุกๆ 10 คนจะมีเชื้อเอดส์อยู่ 1 คน (บางแห่ง เช่นที่เชียงใหม่ โสเภณีมีอัตราการติดเชื้อเอดส์สูงถึงร้อยละ 48) บรรดานักเที่ยวทั้งหลาย ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศสูงกลุ่มหนึ่ง ในเวลานี้จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคเอดส์อย่างน่าเป็นห่วง กล่าวคือ เที่ยวผู้หญิงเพียง 10 คนก็อาจติดเชื้อเอดส์ได้แล้ว (ในที่บางแห่ง เที่ยวเพียง 2-3 ครั้งก็อาจติดเอดส์แล้ว) นับเฉพาะชายนักเที่ยวที่ไปตรวจตามศูนย์กามโรคต่างๆ แพทย์ได้ทำการตรวจเลือดคนเหล่านี้ พบว่าใน 100 คนมีเชื้อเอดส์อยู่ 1-10 คน

การสำส่อนทางเพศจึงเป็นสาเหตุของการติดโรคเอดส์ที่สำคัญอีกทางหนึ่ง ไม่แพ้การฉีดยาเสพติด ดังนั้น หากเลิกพฤติกรรมสำส่อนลงได้ ก็ย่อมจะช่วยป้องกันโรคเอดส์ รวมทั้งกามโรคทุกชนิดได้ ถ้าเลิกไม่ได้ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยเข้าช่วย อาจลดความเสี่ยงลงได้ (แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เพราะถุงอาจฉีกขาดหรือรั่วซึมได้) บางคนอาจบอกว่าไม่กลัวเอดส์เพราะไม่มีพฤติกรรมสำส่อนอย่างที่ว่ากัน คือ เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับโสเภณีเลย แต่ก็ยังยุ่งกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาอยู่บางครั้งบางคราว

เขาคิดว่า พฤติกรรมแบบนี้ไม่จัดว่าเป็นเรื่อง “สำส่อน” แต่ในทางแพทย์ ก็ยังถือว่าสำส่อนอยู่ดี หากแต่จะมีดีกรีน้อยกว่ากันเท่านั้น เพราะการกระทำเช่นนี้ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดโรคได้เช่นกัน

คำว่า “ไม่สำส่อน” ในภาษาหมอ หมายถึง การมีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตนเพียงคนเดียว (ผัวเดียวเมียเดียว) การไม่ล่วงละเมิดผิดศีลข้อ 3 จึงเป็นวิธีป้องกันโรคเอดส์ที่ดีสำหรับคนทั่วไป (ที่ไม่ได้ติดยาเสพติด) ข้อดีของโรคเอดส์ อย่างน้อยๆก็มีส่วนทำให้ผู้คนได้ยึดมั่นในศีลข้อนี้กันมากขึ้น จึงมีผู้กล่าวกันเล่นๆว่า พระเจ้าได้สร้างเชื้อเอดส์เพื่อลงโทษมนุษย์ที่ประมาทมัวเมา (ติดยาเสพติด สำส่อน) ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด ใช่ไหมครับ!

ข้อมูลสื่อ

128-007
นิตยสารหมอชาวบ้าน 128
ธันวาคม 2532
พูดจาภาษาหมอ
ภาษิต ประชาเวช