คุยกับผู้อ่าน
“หมอชาวบ้าน” ขยายตัวออกไปนิดหนึ่งครับ โดยที่กิจการของ “หมอชาวบ้าน” มิใช่การค้ากำไร “หมอชาวบ้าน” จึงไม่ได้กลายเป็นบริษัท แต่ได้ขอยื่นจดทะเบียนเป็น มูลนิธิหมอชาวบ้าน โดยมีศาสตราจารย์นายแพทย์เสม พริ้งพวงแก้ว อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ท่านผู้ใดต้องการบริจาคสมทบเชิญติดต่อประธานหรือบรรณาธิการที่สำนักงานนิตยสาร “หมอชาวบ้าน” นอกจากจัดพิมพ์นิตยสารแล้ว “หมอชาวบ้าน” ยังร่วมกับคณะสงฆ์ในการถวายความรู้แก่พระสังฆาธิการจากต่างจังหวัด อบรมแพทย์ประจำตำบล และมีโครงการเผยแพร่ความรู้ทางวิทยุและโทรทัศน์ เพราะปณิธานของเราคือ การเห็นประชาชนทุกบ้านทั่วประเทศไทยมีความรู้ในการป้องกันและรักษาโรค
กรกฎาคมเป็นเดือนเข้าพรรษา หมอชาวบ้าน สนใจเรื่องพระเป็นพิเศษทั้งในด้านของธรรมะ และในด้านบทบาทของพระสงฆ์ต่อการสาธารณสุขชุมชน ประเทศไทยมีหมู่บ้านทั่วประเทศ ประมาณ 50,000 หมู่บ้าน และมีวัดกว่า 26,000 วัด หรือประมาณหนึ่งวัดต่อสองหมู่บ้าน
ชาวบ้านส่วนใหญ่นั้นยากจนเกินกว่าแม้แต่จะมีหยูกยาสามัญประจำบ้าน และไม่มีทางที่รัฐบาลหรือองค์การกุศลใด ๆ จะไปแจกยาฟรีได้ทั่วถึง แต่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยากล่าวว่า “คุณหมอ เรื่องนี้รับรอง พระทำได้” ท่านว่าพระเป็นตัวหมุนเงินที่เก่งที่สุด เงินที่คนเขามาทำบุญ เงินที่คนมาติดกัณฑ์เทศน์ เงินที่มีคนมาถวายตอนทอดกฐิน หรือทอดผ้าป่า ล้วนแต่จะหมุนไปช่วยชาวบ้านได้ทั้งสิ้น
หมอชาวบ้าน จึงขอเป็นสื่ออาราธนามายังคุณเจ้าทั้งหลายทั่วราชอาณาจักร ขอให้วัดทุกวัดได้เป็นศูนย์กลางช่วยเหลือเกื้อหนุนชาวบ้านผู้ยากไร้ถ้าทำได้ขนาดพระครูสาครสังวรกิจที่ตำบลยกกระบัตร อำเภอบ้านแพ้ว สมุทรสาคร อานิสงส์ใหญ่หลวงย่อมเกิดแก่ชาติและประชาชนไทย
ในฤดูเข้าพรรษาชาวพุทธพยายามถือศีลข้อเดียวบ้าง หลายข้อบ้าง เป็นพุทธบูชา ฉบับนี้จึงว่าด้วยอดเหล้าเข้าพรรษา โรคติดเหล้าและโรคเนื่องจากเหล้าเป็นปัญหาส่วนใหญ่ในสังคมไทย ดังจะเห็นได้ว่าชาติไทยใช้เงินกว่า 35,000 ล้านบาทต่อปี ในการซื้อเหล้าดื่ม
- อ่าน 1 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้