• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ท้องเดินและท้องเสีย

ดิฉันเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ(เรื้อรัง)มานานกว่า 25 ปีแล้ว ไม่อยากให้ใครเป็นเหมือนดิฉัน ลองฟังเรื่องที่ดิฉันจะเล่าให้ฟังดูนะคะ เผื่อท่านจะปลอดภัยจากโรคร้ายที่เป็นชั่วชีวิตนี้บ้าง

ก่อนที่จะเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบแบบเรื้อรังนี้ ดิฉันป่วยเป็นบิดมาก่อน คือมีอาการปวดท้อง อยากนั่งส้วมตลอดเวลา พอไปนั่งเข้าจริงๆอุจจาระมันก็ออกมานิดเดียว เป็นมูกมากปวดเบ่งแทบล้มประดาตาย หน้าเขียวหน้าเหลือง เหงื่อออกซึม อยากนั่งแช่อยู่บนธรณีส้วมอย่างนั้น ทรมานและปวดมวนสิ้นดี!
ไปคลินิก...หมอฉีดยา 2-3 เข็ม ไม่หาย ต่อมาหมอให้กลืนแป้งเป็นชามๆ แล้วเอกซเรย์ บอกว่าลำไส้ใหญ่อักเสบ ฉีดยาอีก กินยาเม็ดเป็นกำมือ แต่มันก็ไม่หายอยู่ดี

อาการหนักถึงขนาดที่ว่า พอกินอาหารเสร็จยังไม่ทันจะดื่มน้ำและล้างมือเลย ก็ต้องวิ่งเข้าส้วม แล้วมันก็ไหลพร่างพรูออกมา หมดไส้หมดพุงนั่นแหละมั้ง มันจึงจะหยุดเดิน!

ไปรักษาที่โรงพยาบาลคริสเตียนมโนรมย์ ชัยนาท (บ้านอยู่ปากน้ำโพ) หมอฝรั่งเอกซเรย์แบบสวนทวารพบแผลในลำไส้มากมาย (หมอพูดกับพยาบาล เพราะเขาสอนกันไปด้วยแล้วบังเอิญดิฉันได้ยิน)
กินยา ฉีดยา กรอกยาทางทวารหนัก พลิกตัวทุก 3 ชั่วโมง อาการค่อยดีขึ้น จึงกลับมาเรียนที่วิทยาลัยครู บ้านสมเด็จเจ้าพระยาตามเดิม หลังจากนอนเตียงนานถึง 23 วัน (และต้องซ่อมการ “ฝึกสอน”)
ทีนี้ดิฉันก็ศึกษาเรื่องโรคของบิดจากห้องสมุดของวิทยาลัยครูเป็นการใหญ่ จึงรู้เรื่องราวของโรคบิดพอสมควร...

บิดมี 2 ชนิด คือ บิดมีตัว และไม่มีตัว บิดมีตัวมันจะมีเชื้อ “อะมีบา” เจ้าสัตว์เชื้อโรคเซลล์เดียวที่แบ่งตัวจาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 8 และเป็นอนุกรม (Series) เช่นนี้เรื่อยๆไป มันจะกัดผนังลำไส้ให้เป็นแผล เมื่อลำไส้มีแผลมันก็จะเกิดการอักเสบ เพราะลำไส้ใหญ่จะบีบตัวย่อยอาหารตลอดเวลา คือมันจะทำงานตามหน้าที่ของมันตลอดเวลาที่มีกากอาหารเหลือจากการย่อยในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ก่อนที่จะถ่ายออกมาเป็นอุจจาระทุกๆเช้า

ดังนั้น ลำไส้ใหญ่จึงทำงานตลอดเวลา เมื่อมันมีแผลอยู่ มันก็อักเสบ เป็นมูก ปวดท้อง และปวดเบ่งอยู่เรื่อย

จากการค้นคว้า บิดนั้นไปกับน้ำและอาหาร คือเข้าทางปากได้ทางเดียวเท่านั้น พวกเราไม่ระมัดระวังเรื่องน้ำและอาหารแล้ว โอกาสที่จะเป็นบิดก็จะมีมากขึ้น

ดังนั้น ท่านผู้อ่านจงระวังเรื่องนี้ให้ดี ไม่อยากให้เป็นเช่นดิฉัน เพราะเมื่อเป็นแล้วเราต้องอดและงดอาหารที่โปรดปรานไปตลอดชีวิต เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ของแข็ง ของเหนียวๆ ที่ย่อยยาก กินมากก็ไม่ได้ Over Eating ได้ง่ายๆ(ชูชกตายเพราะโรคนี้) เพื่อนกินก๋วยเตี๋ยวแห้งชามน้ำชามอย่างเอร็ดอร่อย บางทีเรากินได้แค่ต่อนๆชามเท่านั้น

หมอสั่งว่า บอกญาติพี่น้องบอกลูกหลาน ให้ระมัดระวังเรื่องการกิน ต้องของสุกแล้วและสุกใหม่ๆ ถ้าเย็นก็ควรอุ่นเสีย งดเว้นของดิบ เช่น ของดิบๆสุกๆ อย่างลาบหรือก้อย ผักควรต้มหรือลวกหรือแช่ด่างทับทิมสีอ่อนๆสัก 10-20 นาที ก็จะปลอดภัยได้

และถ้าเกิดปวดท้อง หรือท้องเสียขึ้นมา ก็รีบไปหาหมอเสียแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่เป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังเหมือนดิฉัน

ข้อมูลสื่อ

100-022
นิตยสารหมอชาวบ้าน 100
สิงหาคม 2530
ปัทมา