• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

โรคหัดหลบใน โรคที่ไม่มีในโลก

โรคหัดหลบใน โรคที่ไม่มีในโลก


หัด เป็นโรคที่รู้จักกัน แพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณย่าคุณยาย ท่านจะรู้จักและสามารถให้การวินิจฉัยโรคหัดได้ดี อาจจะดีกว่า หมอหนุ่มหมอสาวที่เพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ เสียด้วย
หัดเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ติดต่อได้โดยทางเดินหายใจ คนที่เป็นหัดส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก จะมีอาการไข้สูง ตัวร้อนมาก ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ตาแดง ๆ และอาจมีอาการท้องเสียด้วย เด็กจะมีไข้อยู่ประมาณ 3-4 วัน แล้วจะมีผื่นขึ้น ผื่นมักจะขึ้นที่หน้าก่อน แล้วจึงขึ้นตามลำตัว แขนขา เต็มตัวไปหมด แม้กระทั่งในปาก อาจมีผื่นได้

ลักษณะผื่น เป็นผื่นสีแดง นูนเหนือผิวหนังเล็กน้อย ค่อนข้างกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5 มิลลิเมตร มักไม่ใหญ่กว่านี้ แต่ผื่นอาจขึ้นติดกัน ทำให้เป็นปื้นใหญ่ได้
ผื่นเหล่านี้จะคงอยู่ประมาณ 3-5 วัน แล้วก็ค่อย ๆ ลอกหลุดไปจนหมดโดยไม่มีแผลเป็น
ในขณะที่เด็กกำลังมีไข้สูง ไอ น้ำมูกน้ำตาไหลเปรอะไปหมด จนกระทั่งถึงตอนที่มีผื่นขึ้น ระยะนี้แหละที่เชื้อไวรัสจะออกมาปนกับน้ำมูกน้ำลาย แพร่เชื้อไปให้เด็กคนอื่น ๆ ต่อไป
หลังจากที่ผื่นขึ้นแล้ว อาการไข้ของเด็กจะลดลงอย่างรวดเร็ว เด็กจะกลับเป็นปกติโดยที่ไม่ต้องให้ยารักษาเลย ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อน

มาจะกล่าวบทไปถึงคุณย่า คุณยาย พอท่านเห็นผื่นขึ้นเท่านั้น ท่านก็จะร้องว่า
 
อ้อ ! ! น้องหนูออกหัด รีบเอายาเขียวมาให้น้องหนูกินเร็ว...กินยาเขียวกระทุ้งให้หัดออกมาเยอะ ๆ ไม่งั้น...หัดหลบใน...ละก็ แย่แน่”

ความจริงแล้ว ที่แย่แน่ ๆ จนกลายเป็น “พูดคนละภาษา” ก็อยู่ตรงที่ “หัดหลบใน” นี่เอง
เพราะในโลกนี้ ไม่มีโรคที่เรียกว่า “หัดหลบใน” หัดน่ะ... ไม่กะล่อนปล้อนปลิ้น ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมเล่น “หลบใน” หรอกครับ ถ้าเป็นหัดจริง ผื่นของหัดจะขึ้นมาให้เห็นเต็มที่เสมอ ไม่มีการขึ้นขยักขย่อน ต้องรอถูกกระทุ้งด้วยยาเขียวจึงจะยอมออกมาหรอกครับ

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคหัดนี้ เกิดขึ้นเพราะอาการของโรคหัดในระยะแรกที่มีไข้ มีอาการไอ น้ำมูกน้ำตาไหลน่ะ เป็นอาการที่เหมือนกับโรคอีกตั้งหลายอย่าง เช่น ปอดบวม ไข้เลือดออก หลอดลมอักเสบ และแม้กระทั่ง โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสอื่น ที่ทำให้ผื่นขึ้นคล้าย ๆ หัด แต่ไม่ใช่หัด โรคเหล่านี้บางอย่างมีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้ เช่น ปอดบวม 
พอเด็กเป็นไข้ มีอาการเหมือนหัด คุณย่าคุณยายท่านก็คิดว่าเป็นหัด แต่ไม่ยอมออกผื่นเสียที จนในที่สุดเด็กก็ตายไป ท่านก็เลยคิดว่าเด็กเป็นหัด แล้วหัดหลบในเด็กจึงตาย
กลายเป็นความเข้าใจผิดกันมาตลอด บางคนเข้าใจผิดอย่างลึกซึ้งมาก

เด็กออกหัด ห้ามพาไปหาหมอเชียว หมอฉีดยาให้แล้วหัดจะหลบในนะ”

บางคนยิ่งกว่านั้นอีก “ยาลดไข้ก็ห้ามกินนะ หัดหลบเชียวล่ะ” อนุญาตให้กินแต่ยาเขียว

ความจริงยาเขียวคืออะไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง หมอเขาไม่รู้หรอก แต่ก็เชื่อว่าไม่มีอันตรายอะไร น่าจะกินได้ ถ้ากินเพียงแค่ซองสองซองแล้วเด็กไม่ดีขึ้น ก็ควรพาไปให้หมอตรวจ จะได้รักษาอย่างอื่นกันต่อไป  ไม่ใช่กินยาเขียว ซองก็แล้ว สองซอง สามซองก็แล้ว หัดก็ยังไม่ยอมออก เลยหาว่าหัดนี้ดื้อจริงแฮะ กระทุ้งยาเขียวต่อไป อย่างนี้ละก็แย่แน่ ๆ เพราะเด็กอาจเป็นโรคอื่น ๆ ไม่ใช่ดื้อยาเขียว พอผื่นขึ้น อาการไข้ของเด็กจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่เด็กบางคนไข้ไม่ยอมลด
อย่ากระทุ้งด้วยยาเขียวต่อไปเลยครับ ทั้งนี้เป็นเพราะโรคแทรกซ้อนน่ะครับ
ระหว่างที่เด็กออกหัด ภูมิต้านทานของเด็กจะลดต่ำลงมาก ทั้งนี้เป็นผลจากเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของหัดน่ะแหละครับ ดังนั้น เด็กจึงมีโรคแทรกซ้อนได้ง่าย เช่น เป็นปอดบวมแทรกเข้ามา หรือเป็นโรคตาแดงตาแฉะ โรคหูน้ำหนวก โรคหลอดลมอักเสบ เป็นต้น ถ้ายังเอาแต่กระทุ้งด้วยยาเขียว เด็กจะแย่เอานะครับ

หัดนั้นเป็นครั้งเดียว เด็กคนไหนออกหัดแล้วจะไม่เป็นหัดอีกตลอดชีวิต ข้อนี้คุณย่าคุณยายท่านก็ทราบ
แต่บางครั้งท่านก็ปวดหัวเหมือนกันว่า ทำไมน้องหนูถึงออกหัดเป็นครั้งที่สองได้ หรือจะเป็นเพราะว่า ครั้งแรกขึ้นไม่เต็มที่ ก็เลยมีครั้งที่สอง ไม่ใช่หรอกครับ แต่เป็นเพราะเชื้อไวรัสที่ทำให้เด็กมีอาการไข้และออกผื่นนั้น มีอยู่หลายชนิดและทำให้เกิดโรคต่างชนิดกัน แต่อาการมี่ส่วนคล้ายคลึงกัน คล้าย ๆ หัด
ยกตัวอย่างเช่น หัดเยอรมัน (หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “เหือด” นั่นแหละ) ก็ทำให้มีไข้แล้วขึ้นผื่นได้เช่นเดียวกับหัด แต่อาการจะน้อยกว่าหัด ผื่นก็น้อยกว่า และไม่ใคร่เหมือนกันนัก

หรืออย่างโรค “ส่าไข้” หรือฝรั่งเรียกว่า เอ็กแซนเธมซูบิตุ้ม (Exanthemsubitum) ก็ทำให้มีผื่นขึ้นอีกนั้นแหละ และแถมทำให้เด็กชักขณะมีไข้สูงได้บ่อย ๆ เสียด้วย ต่างจากหัดที่โรคส่าไข้ จะมีผื่นขึ้นเมื่อตัวหายร้อนแล้ว เด็กคนไหนออกหัดไปเรียบร้อยแล้ว เด็กคนนั้นจะมีภูมิต้านทานต่อโรคหัดไปชั่วชีวิต รับรองไม่ออกหัดอีก แต่ไม่รับรองว่าจะไม่เป็นหัดเยอรมัน หรือส่าไข้อีก

ก่อนจบวันนี้ขอกระซิบเบา ๆ ไม่กล้าบอกดัง ๆ เพราะอะไร อ่านต่อไปก็จะรู้นะครับ ในปัจจุบัน มีวัคซีนป้องกันโรคหัดได้แล้วนะครับ ฉีดเข็มเดียว ป้องกันได้ 3 โรค คือ หัด หัดเยอรมัน และคางทูม
แต่...แหม!  ราคาแพงเป็นบ้าเลย ฉีดเข็มเดียว... 160 บาทแน่ะครับ (ถ้าฉีดตามคลินิกหมอก็อาจแพงกว่านี้)ถึงไม่กล้าบอกดัง ๆ


 

ข้อมูลสื่อ

21-016
นิตยสารหมอชาวบ้าน 21
มกราคม 2524
อื่น ๆ
รจน์ วิพากษ์