• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ฉันเป็นลิง วิ่งหากล้วย

ฉันเป็นลิง วิ่งหากล้วย

ท่าลิง (The Monkey)

น้องตืออ้วนจ้ำม่ำสมชื่อ แถมซนด้วย ชอบรื้อค้นสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะผ่านวันเกิดปีแรกมาไม่กี่วันนี่เอง ตั้งแต่กระเป๋า กระป๋อง กล่อง ลิ้นชัก ตู้ น้องตือจะไม่ปล่อยให้ผ่านไป จะต้องเปิดออกพิสูจน์ว่าในนั้นมีอะไร และไม่เคยพลาด เขาใช้ความพยายามง่วนอยู่คนเดียว หมุนซ้ายที ขวาที จนสำเร็จทุกครั้งไป

พี่เอื้อเห็นดังนั้นจึงทำของเล่นเฉพาะกาลให้เจ้าตือจอมซน ทำด้วยกระเป๋าต่างขนาดหลายๆ ใบ เอามาใส่ซ้อนกันไปหลายๆ ชั้น แล้วยกให้น้องตือ ตือชอบมาก ค่อยๆ รูดซิปเปิดหยิบกระเป๋าออกมาทีละชั้นอย่างเพลิดเพลิน บางครั้งพี่เอื้อใช้กระป๋องพลาสติกแทนกระเป๋า แล้วแถมใส่เม็ดมะขามไปในกระป๋องอีกด้วย น้องตือสนุกใหญ่ เขย่าไปด้วย เปิดฝาไปด้วย เพลินไปอีกแบบ

ของเล่นราคาแพง รูปทรงสีสันสดสวยเป็นที่ต้องตาต้องใจผู้ใหญ่ อาจไม่ถูกใจเด็ก คุณแม่ควรจะสังเกตว่าลูกชอบทำอะไร แล้วดัดแปลงของที่มีอยู่ในบ้านให้เด็ก จะได้ของเล่นที่ถูกใจลูก และประหยัดเงินแม่ นอกจากเป็นนักค้นตัวเซียนแล้ว ตือยังพบวิธีเป็นตี๋ใหญ่โดยบังเอิญตอนปีนชั้น เจ้าตือมันเขี้ยวชอบกัดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า และพบว่าเมื่อไปกัดคนอื่นเข้ามักได้ชัยชนะทุกที เขาเลยจำเอาวิธีนี้ไปใช้เผด็จศึกเวลาอยากได้อะไร

ครั้งหนึ่งน้องตือเกิดมันเขี้ยวกัดหมับเข้าที่ไหล่คุณแม่ คุณแม่ร้องลั่นด้วยความเจ็บ น้องตือติดใจเสียงร้องนี้ จึงกัดเล่นเป็นประจำ แล้วหัวเราะชอบใจเมื่อคุณแม่โวยวายส่งเสียงดัง น้องตือติดใจลองไปกัดพี่เอื้อบ้าง พี่เอื้อไม่โวยวายเหมือนคุณแม่ แต่ตีน้องตือเบาๆ แล้วบอกว่า “ไม่ได้ ทำอย่างนี้ไม่ได้” พร้อมทั้งสั่นหน้าด้วย น้องตือผิดหวัง แต่ก็ลองดูใหม่ พี่เอื้อก็ไม่ทำอย่างคุณแม่อีก น้องตือไม่สนุก จึงเลิกกัดพี่เอื้อ

เด็กวัยนี้ชอบทดลอง และถ้าพบว่าวิธีไหนสามารถทำให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ก็จะนำมาใช้อยู่เสมอ การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ผู้ใหญ่ตกเป็นของเล่นของเด็กได้ ผู้ใหญ่จะต้องทำใจแข็งและไม่ตามใจเด็ก อีกทั้งไม่ละเลยการบอกกล่าวหรือทำโทษเด็กเมื่อทำผิด

เกมเสียงร้องของสัตว์ก็เป็นเกมโปรดของเด็กๆ เหมือนกัน เริ่มด้วย “หมาเห่ายังไงคะ” พี่เอื้อถาม

“โฮ้ง โฮ้ง” เด็กๆ ตอบ

“แล้วไก่ละ”

“เอ้ก เอ้ก”

“เป็ดว่าไง”

“ก้าบ ก้าบ”

“แมวล่ะคะ”

“เหมียว เหมียว”

“หนูตัวเล็กๆ ร้องยังไงคะ”

“จี๊ด จี๊ด”

“ลิงล่ะคะ”

เด็กๆ ตอบไม่ได้ ใบเตยผู้น่ารักบอกว่า ล ลิงไต่ราว เด็กอีกคนต่อ ว แหวนลงยา แล้วเด็กๆ ก็ท่องต่อไปเรื่อยๆ จนถึง ฮ นกฮูกตาโต้ เด็กๆ ทำเสียงสูงพร้อมทั้งเอานิ้วทำเป็นวงรอบตาทั้งสองข้างอย่างชอบใจ เมื่อจบเกมเสียงร้องของสัตว์ พี่เอื้อชวนเด็กๆ ฝึกโยคะท่าลิงต่อ

“ลิงร้องเจี๊ยก เจี๊ยก ลิงชอบกินกล้วย วันนี้ลิงจะวิ่งหากล้วยนะคะ ยืนตรงๆ ค่ะ ” (ภาพที่ 1)

“ทีนี้โน้มตัวไปข้างหน้า เอาฝ่ามือวางแตะพื้น” (ภาพที่ 2) พี่เอื้อทำให้ดู เด็กๆ ทำตาม คนตัวอ่อนทำได้ คนตัวแข็งทำไม่ได้ ต้องงอเข่าเล็กน้อยเพื่อให้มือแตะพื้นได้

เอ้า ตอนนี้เราวิ่งไปหากล้วยกันนะคะ (ภาพที่ 3)

เจอหรือยัง เจอแล้วหยิบขึ้นมาเลยค่ะ ลุกขึ้นช้าๆ จนอยู่ในท่าตรง (ภาพที่ 4)

พักค่ะ (ภาพที่ 5)

ลิงบางตัวทำท่าจะปอกกล้วยกิน พี่เอื้อต้องรีบบอกว่า “ก่อนกินกล้วยต้องล้างมือก่อนค่ะ” น้องโบว์บอกเพื่อนๆ ต่อว่า “ต้องล้างมือก่อน”

ท่าลิงจะช่วยให้กระดูกสันหลังอ่อน กล้ามเนื้อหลังและขาแข็งแรง และช่วยลดไขมันที่หน้าท้องด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อมูลสื่อ

130-025
นิตยสารหมอชาวบ้าน 130
กุมภาพันธ์ 2533
โยคะ
วุฒิโกมล