ปัญหาโรคเลือดจางในหญิงมีครรภ์
สาเหตุการตายของมารดาและทารก สามารถป้องกันและแก้ไขได้ ถ้ามารดาให้ความสนใจและมาฝากครรภ์กับเจ้าหน้าที่ตามสถานบริการสาธารณสุข
นายมารุต บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงว่า งานพัฒนาคนเป็นสิ่งที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ คือ งานอนามัยแม่และเด็ก เนื่องจากยังมีอัตราตายของมารดาและทารกจากการคลอดสูง โดยมีอัตราตายของมารดาประมาณ 0.3 ราย ต่อการคลอด 1,000 ราย ทารกมีอัตราตายประมาณ 20-30 ราย ต่อการคลอด 1,000 ราย
การตายของมารดาส่วนใหญ่เกิดจากความดันเลือดสูง ขณะตั้งครรภ์เสียเลือดมากในระยะคลอด เกิดการอักเสบในระยะหลัง ส่วนสาเหตุการตายของทารกส่วนใหญ่เนื่องจากไม่ได้รับการดูแลระหว่างมารดาตั้งครรภ์ การคลอดที่ยังไม่พร้อม ทำคลอดโดยผู้ไม่มีความรู้ หรือรู้มากเกินไปโดยให้ยาเร่งคลอดมากเกินขนาด
จะเห็นได้ว่าสาเหตุการตายของมารดาและทารกนั้นสามารถป้องกันและแก้ไขได้ถ้ามารดาให้ความสนใจและมาฝากครรภ์กับเจ้าหน้าที่
กระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงปัญหานี้ จึงได้จัดโครงการปีทองของเด็กไทยขึ้นระหว่างปี 2533-2534 เพื่อกระตุ้นมารดาระยะตั้งครรภ์ให้เกิดความตื่นตัว รวมทั้งให้เกิดความร่วมมือในการดูแลตนเองอย่างถูกต้องในระยะตั้งครรภ์ เพื่อเด็กที่เกิดมาจะได้สมบูรณ์และแข็งแรง
แพทย์หญิงเฉลิมสุข บุญไทย รองอธิบดีกรมอนามัย ชี้แจงว่า ปัจจุบันตรวจพบมารดาที่มาฝากครรภ์ มีภาวะเลือดจางในระยะ 3 เดือนแรกร้อยละ 63 ในระยะ 4 เดือนก่อนคลอดร้อยละ 78 ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอหรือเป็นโรคเลือดโดยกำเนิด หรือเสียเลือดจากพยาธิปากขอในภาคใต้ เป็นผลให้เด็กที่เกิดมามีน้ำหนักตัวน้อย การเจริญเติบโตไม่สมวัย
สำหรับวิธีแก้ไขปัญหานี้ แพทย์หญิงเฉลิมสุข กล่าวว่า สามารถทำได้โดยกระตุ้นให้มารดาตระหนักถึงความสำคัญของการฝากครรภ์ ในการฝากครรภ์นั้นมารดาจะได้รับการตรวจครรภ์ ตรวจเลือด หากพบภาวะเลือดจางก็จะรีบให้การรักษาและแก้ไขสาเหตุ เพื่อให้เด็กที่เกิดมามีน้ำหนักตัวและสติปัญญาในระดับปกติเกิดรอดอย่างปลอดภัย เจริญเติบโตสมวัย สูงใหญ่กว่าเดิม ได้รับการพัฒนาตามศักยภาพเต็มที่ เป็นกำลังสำคัญของชาติในการพัฒนาทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
- อ่าน 5,399 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้