• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ฟันหลอจากการดูดนมขวด

ฉบับที่แล้ว ได้กล่าวถึงสาเหตุ ที่ทำให้เด็กฟันหลอ อุปนิสัยไม่ดี ไม่อยากกินอาหาร และทำไมฟันล่างไม่ผุ ฉบับนี้มาว่ากันด้วยเรื่องของการป้องกันไม่ให้เกิดฟันหลอ

การป้องกัน
โดยปกติธรรมชาติได้สร้างอวัยวะต่าง ๆ มาอย่างพอเหมาะกับการทำหน้าที่ต่าง ๆ ในกรณีนี้ก็เช่นกัน เมื่อฟันน้ำนมเริ่มงอกขึ้นมาในปาก ตั้งแต่ฟันซี่แรก ได้แก่ฟันหน้าล่าง ก็แสดงให้ทราบถึงสภาวะที่ร่างกายสมควรได้รับอาหารเสริม ตั้งแต่อายุ 4 เดือนเป็นต้นไป

ต่อจากนั้น ฟันน้ำนมจะค่อยๆงอกเพิ่มขึ้นจนถึงฟันกราม ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับการบดเคี้ยวอาหาร เมื่องอกครบทุกซี่แล้ว เมื่ออายุประมาณ 1 ขวบขึ้นไป เด็กจะมีความพร้อมในการกินอาหารทุกชนิด ไม่เฉพาะเพียงอาหารเหลวเท่านั้น

ในขณะเดียวกัน อวัยวะเกี่ยวกับการกลืนก็สมบูรณ์ขึ้น และพร้อมที่จะดื่มน้ำ นม และเครื่องดื่มอื่นๆได้ดีแล้ว การที่ยังคงการดูดนมขวดเป็นเวลานานๆหลังจากระยะเวลานี้แล้วไม่เป็นการสนับสนุนการพัฒนาการอวัยวะต่างๆของเด็กตามวัย จึงควรหัดให้เด็กเริ่มดื่มน้ำจากถ้วยได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบขึ้นไป โดยเฉพาะนม และควรหยุดให้นมขวดโดยสิ้นเชิงเมื่อเด็กอายุ 1 ขวบครึ่ง

ในระยะแรกของการหยุดนมขวด อาจเริ่มต้นโดยการให้นมที่เจือจางลงในขวด แต่ให้นมถ้วยที่มีรสชาติปกติ เพื่อกระตุ้นให้เด็กยอมดื่มนมจากถ้วยมากขึ้น และลดความอยากดูดนมขวดเพราะไม่อร่อย แล้วค่อยๆเจือจางมากขึ้นในขวด จนเด็กไม่ต้องการดูดนมขวดในที่สุด

อย่างไรก็ดี ต้องไม่ลืมว่า สุขลักษณะของการดูดนมขวดที่ถูกต้องจะต้องให้ดูดน้ำเปล่าตามทุกครั้ง โดยเฉพาะเวลาก่อนหลับ เพื่อช่วยล้างคราบนมให้น้อยลง ทั้งนี้ควรหัดให้เป็นนิสัยตั้งแต่เด็กยังเป็นทารก และแม้จะโตขึ้นมาแล้ว ตราบใดที่ยังดูดนมขวดอยู่ ต้องให้ดูดน้ำตามเสมอ

น้ำที่ใส่ขวดดูดตามนี้ก็เช่นกัน ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเป็นน้ำผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำตาลชนิดต่างๆ และแม้นว่ามีการให้ดูดน้ำหวานใดๆก็ตามก่อนนอน ก็ควรให้ดูดน้ำสะอาดเปล่าๆตามด้วยอย่างสม่ำเสมอ

ดังเป็นที่ทราบกันดีกว่า น้ำตาลเป็นผลเสียต่อฟันอย่างชัดเจน จึงไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องให้นมหวานหรือนมที่มีรสชาติต่าง ๆ โดยการดื่มนมจืดปกติจะมีความหวานจากน้ำตาลนมเล็กน้อยดีอยู่แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการหัดเด็กตั้งแต่ยังเล็ก ๆ โดยต้องไม่เอาความหวานมาล่อให้เด็กเสพติดจนเป็นนิสัย

ทั้งนี้เป็นที่ยืนยันได้ว่าร่างกายของคนปกติ ถ้าได้รับอาหารเพียงพอจะไม่ขาดน้ำตาลแต่อย่างใด เพราะร่างกายมีระบบการย่อยอาหารที่จะเปลี่ยนแปลงอาหารแป้งและแม้กระทั่งโปรตีน และไขมัน ให้เป็นน้ำตาลและเป็นพลังงานต่อร่างกายในที่สุด

ทั้งนี้การจะป้องกันโรคฟันผุ ยังต้องอาศัยการดูแลสุขภาพในช่องปากอย่างถูกต้องด้วย เช่น การทำความสะอาดฟัน การแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ การตรวจเช็กรอบโรคฟันผุตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อให้การบำบัดรักษาได้ทันท่วงที ก็จะสามารถป้องกันไม่ให้บุตรหลานของเราต้อง “ฟันหลอ” ก่อนวัยอันควร ในเด็กเล็กก่อนวัยเรียนที่กำลังน่ารักเหล่านี้

ข้อมูลสื่อ

102-011
นิตยสารหมอชาวบ้าน 102
ตุลาคม 2530
ทพ.ประทีป พันธุมวนิช