• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

จะแปรงฟันเมื่อไรดี?

“แปรงฟัน วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน”
“จงแปรงฟัน หลังอาหารทุกมื้อ”
“แปรงฟัน หลังอาหารตอนเช้าและก่อนนอน”
“แปรงฟันวันละครั้ง”

ในฐานะที่เป็นผู้สนใจ ในการดูแลสุขภาพในช่องปาก ท่านคงจะเป็นประชาชนอีกคนหนึ่งที่อาจจะสับสนเกี่ยวกับการแปรงฟัน และไม่แน่ใจว่าจะแปรงฟันเมื่อไรดี และวันละกี่ครั้ง

ในการสำรวจทันตสุขภาพของประชาชนคนไทย ในท้องถิ่นต่างๆ มักจะมีคำถามหนึ่งในเรื่องการแปรงฟัน ซึ่งคำตอบที่ได้รับ กว่าร้อยละ 90 แปรงฟันทุกวัน แต่จำนวนครั้งที่แปรงฟันแตกต่างกัน ตั้งแต่ 1-5 ครั้ง

แปรงฟันวันละ 1 ครั้ง มีตั้งแต่ก่อนนอน, ตอนเช้าก่อนอาหารเช้า, ตอนเช้าเฉยๆ, หลังอาหารเย็น
แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง เช่น เช้าและก่อนนอน, หลังอาหารเช้าและเย็น, ก่อนนอนและหลังอาหารเช้า
แปรงฟันวันละ 3 ครั้ง ได้แก่ หลังอาหารทุกมื้อ, ก่อนอาหารเช้า หลังอาหารกลางวันและก่อนนอน
แปรงฟันวันละ 5 ครั้ง คือ เช้าเมื่อตื่นนอนใหม่ๆ หลังอาหารทั้ง 3 มื้อ และก่อนนอนตอนกลางคืน

เป็นที่น่าสังเกตว่า ชาวบ้านสับสน ทั้งความถี่และระยะเวลาที่เหมาะสมในการแปรงฟัน ทั้งๆที่เป็นเรื่องง่ายๆ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าข้อแนะนำมีมากเกินไป และแหล่งข้อมูลจากที่ต่างๆกัน ไม่ได้ระบุชัดเจนเพียงพอ

ในฐานะที่เป็น “หมอชาวบ้าน” ลองมาทำความเข้าใจ ถึงเหตุและผลของการแปรงฟันซึ่งอาจใช้เป็นข้อสรุป ให้การแปรงฟันอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ก่อนอื่น เราต้องยอมรับกันก่อนว่า วัตถุประสงค์ของการแปรงฟัน ก็เพื่อทำความสะอาดของอวัยวะในปาก ที่สำคัญ คือ เหงือกและฟัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันโรคเหงือกอักเสบและโรคฟันผุ

ความสกปรกที่สำคัญในปากของคนเรา ได้แก่ คราบจุลินทรีย์ ซึ่งประกอบไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์มากมายหลายชนิด ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในปาก มาสะสม ทับถมกันอยู่บนตัวฟัน ขอบเหงือกและรากฟันที่ไม่มีเหงือกหุ้มห่อ โดยเชื้อจุลินทรีย์เหล่านี้จะดำรงชีพอยู่ได้ด้วยอาหารที่ผ่านในปาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตกค้างอยู่ตามซอกมุมอับต่างๆ และที่สำคัญได้แก่ น้ำตาลเป็นอาหารสำคัญของเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรคฟันผุ

การแปรงฟัน จึงมีเป้าหมายอยู่ที่การกำจัดคราบจุลินทรีย์ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว เนื่องจากในปากของเรามีเชื้อจุลินทรีย์มากมาย การเกิดคราบจุลินทรีย์จึงเป็นไปได้รวดเร็วมาก แม้ภายหลังการแปรงฟัน เพียง 5-10 นาที คราบจุลินทรีย์ก็เริ่มก่อตัวใหม่อีกแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะแปรงฟันวันละ 5 ครั้ง ก็ไม่สามารถกำจัดคราบจุลินทรีย์โดยสิ้นเชิงได้

ถ้าเช่นนั้น การแปรงฟันก็ไม่มีประโยชน์หรืออย่างไร
ไม่ใช่เช่นนั้นแน่ ความรู้จากการศึกษาวิจัยทางทันตแพทยศาสตร์แสดงถึงผลดีจากการแปรงฟัน ในการป้องกันโรคเหงือกอักเสบอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอธิบายได้ว่า การแปรงฟันโดยใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนปลายมน โดยในขณะที่แปรงฟัน ให้ปลายขนแปรงกระทบขอบเหงือกอย่างเบาๆและสม่ำเสมอ จะเป็นการกระตุ้นให้เลือดมาเลี้ยงเหงือกดีและสามารถต่อสู้กับสารพิษ และความระคายเคืองจากคราบจุลินทรีย์ที่จ้องคอยทำร้ายเหงือกอยู่นั้น ซึ่งจะมีผลให้เหงือกแข็งแรง อันเป็นการป้องกันโรคเหงือกอักเสบที่ได้ผลดีในคนปกติทั่วๆไปนั้น ดังนั้น ต้องไม่ลืม “แปรงฟัน-แปรงเหงือก

ในส่วนของการป้องกันโรคฟันผุ เป็นที่น่าแปลกใจว่า การศึกษาวิจัย ไม่สามารถยืนยันถึงประสิทธิภาพของการแปรงฟันได้ชัดเจนเท่ากับการป้องกันโรคเหงือกอักเสบ ยกเว้นว่าจะต้องแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ จึงจะได้ผลในการป้องกันป้องกันโรคที่เชื่อถือได้ ทั้งนี้เนื่องจาก ฟลูออไรด์จากยาสีฟันจะไปทำปฏิกิริยาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับส่วนประกอบทางเคมีของฟัน และมีผลต่อเชื้อจุลินทรีย์และคราบจุลินทรีย์ในปากด้วย

ดังนั้น ถ้าจะหวังผลในการป้องกันโรคฟันผุจากการแปรงฟันจะต้องอาศัยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ควบคู่ไปกับการแปรงฟันด้วย

การแปรงฟันโดยใช้แปรงขนอ่อน แบบที่ให้ผลในการป้องกันโรคเหงือกอักเสบนั้น ยังได้ผลดีต่อฟันด้วย โดยไม่เป็นการทำลายชั้นเคลือบฟันให้สึกจากการแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันที่มีลักษณะแข็ง

นอกจากนี้ การแปรงฟันด้วยความถี่ที่พอเหมาะ ก็เป็นการป้องกันการสึกของฟันได้อีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้เนื่องจาก การแปรงฟันทุกครั้งขนแปรงจะกระทบกระแทกชั้นเคลือบฟันซึ่งแม้จะแข็งแกร่งเพียงใด ถ้าถูกกระทบกระทั่งมากเกินไป ก็อาจสึกกร่อนได้ ยิ่งถ้าแปรงฟันไม่ถูกวิธี ก็จะยิ่งทำลายเคลือบฟันได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น การแปรงฟันบ่อยเกินไป จึงไม่ใช่สิ่งที่ดี และสำหรับในกรณีนี้ อาจให้ผลเสียต่อฟันด้วย

อย่างไรก็ดี ผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรงที่อยู่ในระยะกำลังรักษาอยู่ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้แปรงฟันบ่อยครั้งขึ้นเป็นกรณีพิเศษ ก็ต้องแปรงฟันด้วยความระมัดระวัง และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในกรณีนี้ทันตแพทย์จะแนะนำแปรงสีฟันขนอ่อนพิเศษด้วยเพื่อป้องกันการทำลายเคลือบฟันนั่นเอง

แล้วจะแปรงฟันเมื่อไหร่ดี
การแปรงฟัน วันละ 1-2 ครั้งควรจะเพียงพอสำหรับผู้ที่เหงือกและฟันปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทักษะและความสามารถในการแปรงฟันให้ถูกวิธีของแต่ละคนว่ามีมากน้อยเพียงใด

ถ้าท่านมั่นใจว่าสามารถแปรงฟันได้ถูกวิธีและนานเพียงพอ ( ครั้งละ 2-3 นาที ) ท่านก็อาจแปรงฟันวันละครั้งเดียวได้ แต่ถ้าท่านไม่แน่ใจ อาจจะเป็นด้วยความรีบร้อน ง่วงนอนหรือไม่ตั้งใจเท่าที่ควร ท่านก็ควรจะแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง

ไม่ว่าจะแปรงฟันวันละ 1-2 ครั้งก็ตาม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการแปรงฟัน ที่สำคัญได้แก่ ตอนก่อนนอน ทั้งนี้ เนื่องจากในเวลานอนหลับ ร่างกายของคนเราจะทำงานน้อยลง รวมทั้งต่อมน้ำลายจะหลั่งน้อยลงด้วย อำนาจการชะล้างจากน้ำลายก็ลดลงตามส่วน นอกจากนี้ ระยะเวลาที่นอนของแต่ละคน ก็นานถึง 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นเศษอาหาร รวมทั้งคราบจุลินทรีย์ที่สะสมบนฟัน ในปาก ก็มีโอกาสปล่อยสารพิษมาทำลายเหงือกและฟันได้เป็นเวลานานด้วย

การแปรงฟันในระยะเวลาก่อนนอนจึงเท่ากับเป็นการทำความสะอาดฟัน กระตุ้นเหงือก และลดโอกาสที่เชื้อจุลินทรีย์จะมาทำลายสุขภาพในช่องปากด้วย และยิ่งในกรณีที่ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ในการป้องกันโรคฟันผุนั้น การแปรงฟันในช่วงเวลาก่อนนอนนี้ จะเปิดโอกาสให้ฟลูออไรด์ทำปฏิกิริยากับฟันและเชื้อจุลินทรีย์ ได้เต็มที่โดยไม่ถูกรบกวนเป็นเวลานานเท่ากับเวลานอนของท่านด้วย

ถ้าจะต้องแปรงฟันครั้งที่ 2 ควรแปรงฟันตอนเช้าเพื่อความสะดวก เนื่องจากอุปกรณ์การแปรงฟันมีครบบริบูรณ์ในบ้านมากกว่า ปัญหาอยู่ที่ว่า จะแปรงก่อนหรือหลังอาหารเช้าดี ซึ่งส่วนใหญ่มักจะแปรงฟันตอนตื่นนอน ก่อนอาหารเช้าโดยอ้างถึงความรู้สึกไม่สะอาดในปากภายหลังนอนมานาน 6-8 ชั่วโมง

แต่แท้จริงแล้ว ในช่วงเวลาดังกล่าว ถ้าก่อนนอนได้รับการแปรงฟันดีแล้ว และไม่ได้รับอาหารหรือเครื่องดื่มใดเพิ่มที่จะเป็นอาหารสำหรับเชื้อจุลินทรีย์ในปากแล้วก็ไม่มีโอกาสที่จะเกิดความสกปรกได้ นอกจากนี้ การแปรงฟันตอนตื่นนอน แล้วภายหลังกินอาหารเช้า ฟลูออไรด์ในยาสีฟันซึ่งเคลือบและทำปฏิกิริยากับฟันจะถูกลบล้างโดยอาหารเช้าทีกินตามมาภายหลังทันทีทันใด เป็นการลดโอกาสที่ฟลูออไรด์จะต่อสู้โรคฟันผุไปด้วย

การแปรงฟันในตอนเช้า จึงควรแปรงหลังอาหารเช้า เพื่อกำจัดเศษอาหารในปากไม่ให้เชื้อจุลินทรีย์ใช้ในการสร้างคราบจุลินทรีย์ได้มากนัก ประกอบกับเป็นการเพิ่มโอกาสให้ฟลูออไรด์จากยาสีฟันทำปฏิกิริยาได้เต็มที่ต่อไปอีก 4-5 ชั่วโมง จนถึงเวลาอาหารกลางวัน และแม้จะเสียความรู้สึกที่ไม่ได้แปรงฟันทันทีตอนตื่นนอนเช้าก็อาจช่วยโดยการดื่มน้ำสะอาด 1-2 แก้ว ก่อนอาหารเช้า ก็ยังอาจช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานคล่องตัวขึ้นอีกด้วย

เพื่อสุขภาพและอนามัยในช่องปาก ในการป้องกกันโรคฟันผุและเหงือกอักเสบควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า และก่อนนอน โดยต้องไม่ลืม “แปรงฟันแปรงเหงือก”

 

ข้อมูลสื่อ

105-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 105
มกราคม 2531
ทพ.ประทีป พันธุมวนิช