• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ให้น้ำเกลือ ให้เลือด ให้โปรตีน ให้กันทำไม

ให้น้ำเกลือ ให้เลือด ให้โปรตีน ให้กันทำไม

 “คุณหมอครับ ผมไม่มีแรงเลยให้น้ำเกลือผมหน่อยได้ไหมครับ”

“คุณหมอขา อิฉันไม่มีเรี่ยวมีแรงเลย ขอโปรตีน”

“คุณหมอครับ ลุงเหนื่อยเหลือเกิน ให้เลือดลุงเป็นไรหมอ”

“ตี๋ เอายาแทนน้ำเกลือสักเม็ดซิ”

“อาเฮีย เอายาแทนเลือดให้สักชุดซิ’

และอีกหลายๆ คำถามคำ ขอร้อง หรือคำสั่งที่คนไทยโดยเฉพาะในชนบทเรามีให้ หมอ เภสัชกรและคนขายยาได้ฟังกัน ด้วยความเชื่อว่าไอ้เจ้าน้ำเกลือ โปรตีน หรือเลือดนี้มันเป็นของวิเศษวิโสที่ใครๆ ควรจะใฝ่หามาใส่ตน

น้ำเกลือคืออะไร

น้ำเกลือ คือ น้ำ (น้ำธรรมด๊า ธรรมดาที่เราดื่มกินกันทุกวี่ทุกวันนั่นแหละ) ผสมกับเกลือ (เกลือธรรมด๊า ธรรมดาที่เราใส่ผัด ใส่แกงกินกันทุกวี่ทุกวัน) และอาจมีน้ำตาล (ธรรมด๊า ธรรมดาที่ได้มาจากข้าว และน้ำตาลอาหารที่เรากินกัน ทุกวี่ทุกวันอีกนั่นแหละ) ไม่ได้มีอะไรวิเศษวิโสที่ตรงไหน ดังนั้น ถ้าใครอยากจะให้น้ำเกลือตัวเองก็หว่านหมูเลย เอาน้ำมาเติมน้ำตาล เติมเกลือ จะเอารสชาติขนาดไหนก็ตามใจเถิด ดื่มเข้าไปให้หายอยาก รับรองว่าเหมือนกันเปี๊ยบ แต่ก็อย่างว่าแหละ บอกกันตรงๆ อย่างนี้ ก็คงจะไม่ค่อยจะเชื่อกันคงจะยังมีคนที่ชอบไปเสียเงินทีละร้อยสองร้อย เพื่อให้เขาเอาไอ้เข็มแหลมๆ มาแทงให้เจ็บตัว เพื่อให้ได้น้ำตาลใส่เกลืออยู่นั่นเอง ก็ต้องถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของผู้นั้นก็แล้วกันที่เป็น “โรคหลงน้ำเกลือ” ช่วยไม่ได้จริงๆ

โปรตีนล่ะ วิเศษอย่างไร

อ๋อ! โปรตีนนะหรือ ถ้าจะเทียบกันมันก็แค่เศษเนื้อติดกระดูกนั่นแหละ จะต่างกันก็ไม่กี่น้ำหรอก เพราะไอ้เจ้าโปรตีนน้ำเหลืองๆ กระปุกละสองสามร้อยบาทนั้น มันก็เป็นโปรตีนที่ย่อยแล้ว มีปริมาณไม่มากมายอะไร ถ้าจะเสียเงินขนาดนั้น เพื่อจะเอาโปรตีนกันจริงๆ ละก็ขอแนะนำให้ไปซื้อไก่ย่างอย่างอร่อยๆ หรือจะเอาหมูหันอย่างดีๆ มานั่งกินเล่นให้มันอร่อยลิ้นอิ่มท้องดีกว่าเยอะแยะ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดละก็ หาพวกพืชตระกูลถั่ว โดยเฉพาะถั่วเหลืองมากินทุกวันๆ จะได้โปรตีนเป็นเดือนๆ ปีๆ เลย เพราะราคาถูกแล้วก็ไม่ต้องไปเบียดเบียนชีวิตใครด้วยแค่น้ำเต้าหู้ (น้ำถั่วเหลือง) กินวันละแก้วสองแก้ว ก็มีโปรตีนเยอะแยะแล้ว

แล้วทีนี้ เจ้าเลือดเทียมที่เขาให้ๆ กันละเป็นอย่างไร

ก็ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่ามันเลือดเทียม แต่จะให้ถูกต้องละก็ควรจะเรียกว่า เลือดปลอมมากกว่าเพราะว่าที่ให้ๆ กันอยู่ทุกวันนี้นะมันเป็นเลือดปลอมเสียส่วนใหญ่ คือ มันเป็นน้ำเหลืองถุงละ 30 กว่าบาทแล้ว ก็เอาวิตามินบี 12 หลอดๆ ละ 1 บาท ที่มีสีแดงๆ ใส่เข้าไป แล้วดูสีเหมือนเลือด จิ้มเข้าไปในเนื้อให้มันเจ็บๆ แล้วก็ล้วงกระเป๋าเอาไปสองร้อย สามร้อยบาท รวยไปเป็นแถวๆ ใครยังอยากโดนต้มอยู่ก็เชิญนะครับ และโดยความจริงแล้ว ไม่ใช่ว่าคนเราอยู่ดีๆ จะไปให้เลือดกันได้ง่ายๆ ถ้าเราไม่ได้เสียเลือด เช่น จากอุบัติเหตุ หรือจากการตกเลือด จากสาเหตุอื่นๆ แล้วไปให้เลือดเข้า จะทำให้ปริมาณเลือดมากเกินปกติกลับจะเป็นอันตรายเสียด้วยซ้ำ

ถ้าอย่างนั้นเขาทำน้ำเกลือ โปรตีน และเลือดเทียมมาทำไมกันล่ะ

เขาทำมานั้นมีประโยชน์ ถ้าเราใช้ให้ถูกต้อง

น้ำเกลือนั้น เขาให้สำหรับผู้ที่ขาดน้ำ ขาดเกลือ ขาดน้ำตาล เช่น ในรายที่ต้องมีการเสียเลือดมากๆ จะขาดน้ำเกลือ และน้ำตาล อาจทำให้ช็อคได้ หรือคนที่หมดสติไป ให้อาหารทางปากไม่ได้ ก็ต้องให้ทางเส้นเลือดโดยให้น้ำเกลือ และอาจให้โปรตีนเมื่อมีอาการขาดโปรตีน แต่สำหรับผู้ที่กินอาหารทางปากได้ก็ไม่จำเป็น จะเห็นว่าเมื่อคนไข้เริ่มกินอาหารได้ หมอก็จะหยุดให้น้ำเกลือ นอกจากมีความจำเป็นอย่างอื่นๆ เช่น ขาดน้ำดังกล่าวมาแล้ว

ส่วนเลือดนั้น ก็ใช้เมื่อมีการขาดเลือด และจากการเสียเลือดไปจริงๆ เช่น จากอุบัติเหตุ และการตกเลือดซึ่งต้องใช้เลือดจริงๆ และไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ เหมือนกับที่เขาต้มกันอยู่ทุกวันนี้ ต้องมีการตรวจเลือดว่าหมูเลือดนั้น เข้ากันได้หรือเปล่า จึงจะให้ได้ ซึ่งมักจะมีในโรงพยาบาลใหญ่ๆ เท่านั้น ส่วนหมอตามบ้าน ตามร้านต่างๆ นั้น ก็เป็นเลือดเทียม หรือเลือดปลอมเสียเป็นส่วนใหญ่นั่นแหละ

ทีนี้ก็มาถึงยาแทนน้ำเกลือ ยาแทนเลือด ซึ่งที่ซื้อขายกันตามร้านขายก็เป็นขบวนการต้มมนุษย์ ที่หลอกขายคนที่เป็น “โรคหลงน้ำเกลือ” เป็น “โรคหลงน้ำเลือด” โดยซ้ำเติมความหลงให้มากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เรียกง่ายๆ ว่า โง่ 2 ต่อเลย คือ โง่จากการหลงว่า น้ำเกลือหรือเลือดจำเป็นสำหรับตน ซึ่งไม่จริง และโง่ที่หลงว่ายาแทนน้ำเกลือ หรือแทนเลือดนั้นมีจริง ซึ่งก็ไม่จริงเหมือนกัน ส่วนมากก็หลอกขายพวกวิตามิน หรือไม่ก็ยาบำรุงเลือดธรรมดา ธรรมดา ซึ่งราคาร้อยละไม่กี่บาท แต่ถ้าขายคนหลงน้ำเกลือหลงเลือดก็ต้องขายแพงๆ หน่อย ไม่อย่างงั้นมันไม่ขลัง กินแล้วมันไม่ซู่ซ่าถึงใจ

ใครที่เป็น “โรคหลงน้ำเกลือ” เป็น “โรคหลงน้ำเลือด” อยู่ก็รีบรักษาตัวเองเสีย ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องฉีดยา ไม่ต้องเสียเงิน เพียงแต่ทำความเข้าใจเรื่องน้ำเกลือ เรื่องเลือดเสียให้ถูกต้อง ให้มันหายโง่ หายอวิชชา แล้วก็จะไม่ต้องถูกมนุษย์กินคนต้มตุ๋น หลอกกินไส้กินพุง (เสียเงินหมดไส้หมดพุง) กันอีกต่อไป

แต่ถ้าใครยังกลัวว่า “หมอให้น้ำเกลือให้เลือด” จะรวยช้า ก็เชิญไปบริจาคทรัพย์กันให้มากๆ นะครับ ท่านจะได้รวยเร็วๆ

ใครที่มีอาการอ่อนเพลียโปรดทราบ !

ถ้าท่านรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ร่วมกับมีอาการ ซีดโลหิตจาง (เปลือกตาซีด) เล็บซีด ฝ่ามือซีด ควรกินยาบำรุงโลหิตที่ชื่อว่า ยาเม็ด เฟอร์รัส ซัลเฟต (เม็ดละ 5 สตางค์) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2-3 ครั้ง เป็นเวลา 2-4 อาทิตย์ หน้าก็จะมีเลือดฝาดขึ้น และเรี่ยวแรงก็จะกลับคืนมา ไม่ต้องถูกหลอกให้น้ำเกลือให้เลือดเทียมให้หมดตัว และเจ็บตัวเปล่าๆ

ข้อมูลสื่อ

7-009
นิตยสารหมอชาวบ้าน 7
พฤศจิกายน 2522
อื่น ๆ
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี