วิ่ง...หนีโรค

โรค หมายรวมถึง ความเจ็บไข้ ความเจ็บป่วย ความบกพร่องหรือผิดปกติทางร่างกายและจิตใจ
โลก หมายถึง แผ่นดิน โดยปริยายคือหมู่มนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์ชอบอยู่โลกอันศิวิไลซ์

แต่โรคนี้ซิใครๆก็อยากจะหนีทั้งนั้นและคงจะไม่มีใครอยากเจอโรคเข้ากับตัวเองเป็นแน่ ทุกๆคนก็อยากจะหนีบางคนก็หนีพ้น บางคนก็หนีไม่พ้น ขึ้นกับองค์ประกอบหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพ ชีวภาพ หรือสิ่งแวดล้อมอะไรต่างๆนานา รวมทั้งพฤติกรรมส่วนบุคคล อันได้แก่ บริโภคนิสัยที่ไม่ถูกต้อง ขาดการออกกำลังกาย เป็นต้น

มีหลายๆคนทีเดียวที่สามารถหนีโรคได้สำเร็จ ด้วยวิธีการปฏิบัติที่ต่างๆกัน และวิธีหนึ่งซึ่งใช้กันมากคือ การออกกำลังกายด้วยการวิ่ง

วิ่ง...หนีโรค ยังไงล่ะครับ
“วิ่งคุยกัน” ฉบับนี้ขอพาคุณผู้อ่านไปพบกับพ่อพิมพ์ของชาติ ผู้คว้ารางวัลครูดีเด่น ประจำปี 2529 จากงานวันประถมศึกษาแห่งชาติ กลุ่มโรงเรียนสะเดียง จังหวัดเพชรบูรณ์ และผลของความพยายาม ความเพียร ความอดทน ความมานะ เอาจริงเอาจัง ด้วยความสม่ำเสมอ

อาจารย์ใส หันธนู
อาจารย์ 2 ระดับ 5 โรงเรียนบ้านไร่เหนือ อ.เมือง เพชรบูรณ์ คือตัวอย่างและวิธีการหนึ่งของการวิ่งหนีโรค ซึ่งอาจารย์ใส เล่าให้ฟังว่า เริ่มวิ่งตั้งแต่ 1ตุลาคม 2527 ตอนนั้นอายุ 45 ปี ศึกษาจากหนังสือ วิ่ง...สู่วิถีชีวิตใหม่ ของคุณหมออุดมศิลป์ ศรีแสงนาม และคู่มือวิ่งเพื่อสุขภาพ ของคุณหมอกฤษฎา บานชื่น โดยเริ่มอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอก่อน

ก่อนที่จะวิ่งผมมีน้ำหนักตัวถึง 70 กิโลกรัม ส่วนโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นประจำและติดถึงขั้นเรื้อรังคือ โรคพิษสุราเรื้อรัง และติดบุหรี่แบบมวนต่อมวนทีเดียว

สุรานั้นถ้าลองได้ดื่มเข้าไปแล้วมักจะติดลมต่อไปอีก 5-7 วัน ทีเดียว หลังจากดื่มเหล้า ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สามารถไปสอนหนังสือได้จะถูกผู้บังคับบัญชาไล่ออกหลายครั้ง

ช่วงอากาศหนาวจัดหรือร้อนจัดจะไอเรื้อรังไม่หยุด ต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นประจำ
ระบบขับถ่ายก็ไม่ดี ท้องผูกเป็นประจำ และถ้าวันไหนดื่มจัดจะปวดหลังและถ่ายออกมาเป็นเลือด เรียกว่าริดสีดวงระยะเริ่มต้นเชียวละ

กลางคืนมักนอนไม่หลับ สมองเครียด คิดไปร้อยแปดพันเก้า เงินเดือนก็ไม่เหลือให้ทางบ้านเลย มอบให้กับสิ่งเสพติดหมด ไปไหนมาไหนพี่น้องไม่อยากพูดจาด้วย จนเพื่อนฝูงเปลี่ยนนามสกุลให้ใหม่ว่า “ญาติระอา” ทีเดียว

ผมก็มาคิดๆเอาว่าถ้ามัวหมกมุ่นอยู่กับสิ่งเสพติดพวกนี้คงต้องตายแน่ๆ
กลัวตายครับ!

จึงเริ่มออกกำลังกายตามคำแนะนำในหนังสือคู่มือวิ่งเพื่อสุขภาพ และ วิ่ง...สู่วิถีชีวิตใหม่อย่างเคร่งครัดเรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน ทำให้ผมเริ่มมีชีวิตใหม่ เป็นคนใหม่ หน้าที่การงานก็เจริญก้าวหน้า ผู้บังคับบัญชาเชื่อถือไว้วางใจ

ผมถือว่าการวิ่งเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล ชุบชีวิตใหม่ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ทีเดียว

ปัจจุบันกิจวัตรประจำวันที่ผมทำอย่างสม่ำเสมอ ตื่นประมาณตี 4 ครึ่ง ทำธุระส่วนตัว อุ่นเครื่องประมาณ 10 นาที และวิ่งอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ใน 1 อาทิตย์ผมวิ่งรวมประมาณ 60 กิโลเมตร ครบ 1 เดือนจะวิ่ง 40 กิโลเมตร สักครั้ง

ความสมบูรณ์ของร่างกายในขณะนี้ไม่ว่าจะตรวจปอด หัวใจ เลือด ฯลฯ สมบูรณ์แข็งแรงเต็มที่ 100% หมอที่ตรวจยังบอกว่า อายุ 48 แล้ว แต่แข็งแรงกว่าคนอายุ 30 เสียอีก

แล้วคุณละจะไม่หนีโรคบ้างหรือ วิธีใดก็ได้ที่คุณสะดวก ปลอดภัยสำหรับคุณ ไม่ทดลองก็ไม่รู้จริงมั้ยครับ

ทดลองปฏิบัติเสียแต่วันนี้ แล้วคุณจะรู้ว่า ตัวคุณก็สามารถหนีโรคได้เหมือนกับที่คนอื่นๆเขาหนีกันได้
หรือคุณจะทดลอง วิ่ง...หนีโรคก็ได้ครับ

ลองปฏิบัติดูซิครับ!
“เพราะคนเราจะมีกำลังก็ต่อเมื่อได้ออกกำลัง” เป็นสัจธรรมที่เที่ยงแท้แน่นอน