• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เมื่อข้าพเจ้าใช้ห้องพักในโรงพยาบาลเป็นห้องนั่งกรรมฐาน (ตอนที่ 3)

ดิฉันรู้ตัวจริงๆว่า มิได้แสดงอาการใดๆที่เป็นการเสแสร้งเฉยจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าผู้อื่น หรือเมื่ออยู่คนเดียว ซึ่งดิฉันรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร การมีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ อันเกิดจากการเพียรพยายามมีสติกำหนดรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ที่ช่วยยกระดับจิตของดิฉันให้อยู่เหนือความทุกข์ได้โดยอัตโนมัติ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ ยังไม่ได้ปฏิบัติธรรม ก็เชื่อแน่ว่าต่อหน้าคนอื่น ดิฉันคงแสร้งทำเหมือนไม่รู้สึกเจ็บปวดต่อความทุกข์ที่ได้รับ เพื่อมิให้ผู้อื่นเดือดร้อนใจและพลอยกลุ้มใจไปด้วย และหากยามใดที่อยู่คนเดียว ก็คงต้องร้องไห้ หม่นหมองใจ ครุ่นคิด ทำไมเราช่างอาภัพอับโชคเสียนี่กระไร จิตเศร้าหมองย่อมเป็นอันหวังได้แน่นอน

ผลของการปฏิบัติธรรม นอกจากช่วยตนเองได้แล้ว ดิฉันยังได้มีโอกาสปลอบใจสามีให้คลายทุกข์อันเนื่องจากการเจ็บป่วยของดิฉัน สามีดิฉัน เป็นคนค่อนข้างจริงจัง เป็นผู้หนึ่งร่วมกับหมออื่นๆในการตัดสินใจว่าควรจะรักษาดิฉันอย่างไร ตลอดเวลาของการเจ็บป่วยนี้ ดิฉันสังเกตรู้ว่าเขาว้าวุ่นในมาก มีอาการเครียดบ่อย พูดน้อยมาก บางเรื่องบางอย่างต้องซักถามกันนาน รู้สึกว่าเขาไม่ปกติเท่าที่ควร ก็รู้อยู่ว่าเขานั้นรักและห่วงใยเรามาก

ดิฉันต้องปลอบใจเขาว่า “อย่าคิดอะไร คิดเสียว่าดิฉันกำลังใช้หนี้ ดิฉันปฏิบัติธรรม ดิฉันมีสติกำหนดรู้อยู่ตลอดเวลา จึงไม่ทุกข์ ไม่เดือดร้อนใจ ไม่เจ็บปวด ขอให้เบาใจเถิด อย่าได้กังวลใจเลย ไม่มีใครมานอนเป็นเพื่อนก็อยู่ได้อย่างสบาย และรู้สึกเป็นสุขจริงๆที่ได้อยู่คนเดียว จะได้ปฏิบัติธรรมให้เข้มแข็งขึ้น”

สามีดิฉันคงเห็นแล้วว่าดิฉันคลายทุกข์ได้จริงๆอย่างไม่เสแสร้ง และมีจิตใจไม่หวั่นไหว เขาก็เริ่มสบายใจ เชื่อมั่นขึ้น และเขาได้เอ่ยปากพูดกับดิฉัน และพูดกับใครๆทั้งที่เขาไม่เคยพูดมาก่อนว่า ที่เขาอนุญาตให้ดิฉันไปปฏิบัติธรรมกับคุณแม่สิริบ่อยๆ ด้วยความเต็มใจบ้าง ไม่เต็มใจบ้าง หากแต่เพราะเกรงใจดิฉัน ไม่กล้าปฏิเสธตรงๆ

แต่ขณะนี้เขาแน่ใจแล้วว่า ธรรมะปฏิบัติที่ดิฉันได้บำเพ็ญเพียรมา ส่งผลเห็นทันตา ทั้งกับตัวดิฉันและครอบครัว เขาจึงให้ความสนใจมากขึ้น ได้นำมาปฏิบัติด้วยการนั่งนอน ทำสมาธิ จนหลับไปทุกคืน ตลอดเวลาที่ดิฉันเจ็บป่วย เมื่อดิฉันออกจากโรงพยาบาลเพียง 18 วัน เขาก็แสดงความเต็มใจอนุญาตให้ดิฉันมาปฏิบัติ และช่วยอาจารย์มันตา ที่วัดอัมพวัน

ในระหว่างรับการฉายแสงจำนวน 20 ครั้งนั้น ด้วยเกรงว่าดิฉันจะเหงา หมอที่ผ่าตัดได้บอกอนุญาตให้ดิฉันกลับบ้านได้ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่หยุดงาน ในขณะนั้นดิฉันไม่มีความรู้สึกอยากกลับบ้านเลย เพราะดิฉันกำลังใช้ห้องพักเป็นห้องกรรมฐานเสียแล้ว และได้ใช้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ จากการเจ็บป่วยที่ผ่านมา แม้ว่าดิฉันจะสามารถมีสติกำหนดรู้สภาวะต่างๆที่เข้ามาเยือนทวารทั้งหก คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จนกระทั่งรู้ว่าจิตนั้นพ้นทุกข์ เจ็บปวดก็เป็นเพียงที่กาย ใจไม่ได้รู้เห็นด้วย

แต่กระนั้นดิฉันก็ยังคิดว่า การปฏิบัติธรรมของดิฉันยังไม่เพียงพอ และยังต้องปฏิบัติต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ชีวิตนี้สั้นเหลือเกิน จะประมาทวันเวลามิได้เลย เพราะสายทางแห่งการปฏิบัติธรรมนั้นยาวมาก ต้องฟันฝ่าอุปสรรค ต่อสู้กับกิเลส ตัณหา อุปาทานในตัวเรานานัปการ เพียงปล่อยกายปล่อยจิตนิดเดียว กิเลสก็เข้าแล้ว จึงตั้งจิตอธิษฐาน จะเพียรพยายามปฏิบัติต่อไปอย่างเข้มแข็ง ขออย่าได้มีมารใดๆมาผจญด้วยเลย

เมื่อลุกเดินได้คล่อง ดิฉันได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมะครบถ้วนตามที่คุณแม่สิริสอน คือ เดินจงกรม นั่งสมาธิ และกำหนดอิริยาบถต่างๆ พยาบาลบางคนนำยามาให้เห็นดิฉันปฏิบัติก็มาคุยด้วย และขอเรียนรู้ ดิฉันก็ช่วยสอนให้ ดิฉันได้มีโอกาสไปเยี่ยมพยาบาลซึ่งป่วยอยู่ห้องข้างเคียง ได้พูดคุยแนะนำแนวทางการปฏิบัติให้ และเขาก็มาฝึกต่อที่ห้องดิฉัน เพื่อนฝูงบางคนที่สนใจธรรมะอยู่ก่อนแล้ว เมื่อมาเยี่ยมดิฉัน แทนที่จะคุยเรื่องการป่วยก็คุยกันเรื่องธรรมะปฏิบัติและฝึกกันในห้องนั้น ห้องพักของดิฉันจึงกลายเป็นห้องกรรมฐานจริงๆ

ดิฉันได้เล่าให้เพื่อนสนิทที่มาเยี่ยมถึงความอัศจรรย์ของธรรมะปฏิบัติที่ทำให้ดิฉันพ้นทุกข์ได้ เพื่อนก็ขอร้องให้ดิฉันช่วยแนะนำน้องสาวของเพื่อนเขา ซึ่งเป็นมะเร็งที่ปากมดลูก เข้าโรงพยาบาลเป็นครั้งที่สองแล้ว ดิฉันรับปากและขออนุญาตพยาบาลแต่งตัวเดินออกไปด้วยกัน

เมื่อเห็นสภาพของเขา ดิฉันรู้ว่าตนเองโชคดีกว่าเขาพันเท่า สภาพจิตของเขาขณะนั้น ขาดความเชื่อมั่น ท้อแท้ เบื่อหน่าย ใบหน้าเศร้าหมอง เขารู้สึกว่า การเป็นโรคนี้ ทำให้เขาว้าเหว่ เดียวดาย และต้องตายในที่สุด ดิฉันให้กำลังใจให้เขาต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่เข้ามาเบียดเบียน และใช้เวลาอยู่กับเขา 1 ชั่วโมง สาธิตและให้เขาปฏิบัติตามไปด้วย เริ่มแต่ทำความรู้สึกกับการจับแก้ว ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม กำหนดการกินยา กำหนดการเอนตัวลงนอนจนถึงการสร้างจังหวะ คือ เพื่อรวมจิตรวมสติให้อยู่กับการเคลื่อนไหวของมือแทนการเดินจงกรม น่าประหลาดใจมาก จิตของเขารับรู้รวดเร็ว น่าอัศจรรย์

ทั้งที่เขาไม่เคยปฏิบัติ เขาสามารถกินยาได้ ทั้งๆที่เขากลืนยาไม่ลง เขาสามารถค่อยๆเอนตัวลงนอนได้และลุกนั่งเองได้ โดยไม่ต้องให้คนอื่นเข้ามาผยุงช่วยเช่นทุกครั้งไป เขาดีใจมาก มองดิฉันเหมือนพระมาโปรด เขาถามดิฉันว่าเคยปฏิบัติกับใคร ดิฉันบอกว่าดิฉันปฏิบัติกับคุณแม่สิริ เขาบอกว่าชื่อนี้เขาเคยได้ยิน แต่เขาไม่มีโอกาสมาปฏิบัติ ถ้าเขาหายดีแล้ว เขาจะขอมาปฏิบัติด้วย ดิฉันก็รับปากและให้ความหวังแก่เขาด้วยความเต็มใจ เสียดายที่เรามีเวลาพบกันน้อยนัก ห้องพักของเราก็อยู่ไกลกันมาก
 

ข้อมูลสื่อ

108-022
นิตยสารหมอชาวบ้าน 108
เมษายน 2531
ธรรมโอสถ
พอ.(พิเศษ)ทองคำ ศรีโยธิน