ระยะฟักตัว
“อาการตุ่มใสๆขึ้นตามตัวพร้อมกับมีไข้แบบนี้ หมอตรวจดูแล้ว มั่นใจว่าเป็นอีสุกอีใสแน่” หมอให้คำวินิจฉัยพร้อมกับถามคนไข้ว่า “ระยะนี้ได้อยู่ใกล้กับคนที่เป็นอีสุกอีใสหรือเปล่า?”
“เปล่าครับ!” คนไข้ตอบอย่างฉับพลัน
“หมอไม่ได้หมายความว่า ในระยะ 2-3 วันนี้เท่านั้นหรอกนะ เอาเป็นว่า ระยะ 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมาก็แล้วกัน”
คนไข้นึกอยู่สักครู่ แล้วตอบว่า “สักกว่าครึ่งเดือนมาแล้ว เคยไปเยี่ยมหลานที่เป็นอีสุกอีใสอยู่ครั้งหนึ่ง...เอ ทิ้งช่วงตั้งนานหลายวันแล้ว มันเกี่ยวกันด้วยหรือครับ?”
“ครับ มันเกี่ยวกับ ระยะฟักตัว ของโรคด้วย!” คุณหมอตอบ
คุณผู้อ่านอาจคุ้นเคยกับไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเมื่อติดเชื้อจากคนอื่นมาสัก 2-3 วันแล้วก็มีไข้สูงเกิดขึ้นทันที แต่อีสุกอีใส เมื่อติดเชื้อแล้วต้องรอนาน 2-3 สัปดาห์ จึงจะเกิดอาการของโรคขึ้นมา
เราเรียกระยะเวลาตั้งแต่วันที่เริ่มติดเชื้อมาจากคนอื่น จนกระทั่งวันที่เริ่มแสดงอาการของโรคว่า ระยะฟักตัว (Incubation period)
ระยะฟักตัวของโรคแต่ละชนิดจะมีความสั้นยาวไม่เท่ากัน
ไข้หวัด มีระยะฟักตัวโดยเฉลี่ยเพียง 1-3 วัน กล่าวคือ หลังจากเราถูกคนที่เป็นไข้หวัดไอ จาม หรือหายใจรด ถ้าร่างกายเราไม่มีภูมิต้านทาน รอสัก 1-3 วันถัดมา เราก็จะกลายเป็นไข้หวัด
หนองใน มีระยะฟักตัว 2-10 วัน หมายความว่า อาการของโรคหนองในจะแสดงและปรากฏให้เห็นภายหลังการติดเชื้อ(เที่ยว)มาแล้ว 2-10 วัน
ไข้หวัดใหญ่ มีระยะฟักตัวโดยเฉลี่ย 1-4 วัน
อีสุกอีใส 10-20 วัน
หัด 1-11 วัน
หัดเยอรมัน 14-20 วัน
บาดทะยัก 5 วัน – 15 สัปดาห์
บางชนิดก็มีระยะฟักตัวของโรคค่อนข้างยาวนาน เช่น โรคพิษสุนัขบ้า ระยะฟักตัวโดยเฉลี่ย 1-3 เดือน สั้นที่สุดอาจกินเวลาเพียง 10 วัน ยาวที่สุดอาจรอถึง 3 ปีก็ได้
จนบางทีคนไข้อาจลืมเรื่องที่ถูกสุนัขกัดไปแล้วก็ได้
- อ่าน 11,156 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้