• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

องค์กรแห่งความสุข ด้วยความสุข 8 ประการ

องค์กรแห่งความสุขประดุจฝ่ามือแสนอบอุ่นที่รองรับคนในองค์กรดั่งลูกน้อย ให้ความสุขความอบอุ่น
ลูกน้อยที่อยู่ในฝ่ามือ ไม่ใช่ลูกไก่ในกำมือที่จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด

ฉะนั้นองค์กรแห่งความสุขก็คือองค์กรที่พร้อมจะใช้กุญแจความสุข 8 ประการไขเปิดประตูเพื่อเข้าไปสู่ความสุขอันแท้จริงขององค์กร

องค์กรคืออะไร
องค์กรคือศูนย์รวมของบุคคล ที่รวมกันเป็นหน่วยงานเดียวกัน และดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ เรามาลงเรือลำเดียวกัน เราอยู่กันเป็นหมู่คณะ เหมือนฝูงนกที่บินกันเป็นฝูง เวลานกบินนั้นสวยงาม

ฉะนั้นองค์กรต้องเป็นองค์กรมีชีวิต
เมื่อเราเปิดตาเปิดใจ ยอมรับความคิดใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ ในการดำเนินการองค์กรแห่งความสุข องค์กรย่อมมีชีวิตจริงๆ

องค์กรในอนาคตคือองค์กรที่ต้องพบกับยุคความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่ไม่สิ้นสุด ฉะนั้นต้องเป็นองค์กรที่ตื่นตัวตลอดเวลา มีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา และเป็นองค์กรที่พร้อมจะเรียนรู้ได้ตลอดเวลา

การเดินไปถึงองค์กรแห่งความสุขได้ มีความท้าทาย หรืออันตรายต่างๆ ที่เป็นอุปสรรค... คุณพร้อมที่จะข้ามผ่านความท้าทายนี้ไปหรือยัง

คนในองค์กรคุณพร้อมที่จะเผชิญความเปลี่ยนแปลงหรือยัง
คุณพร้อมที่จะปีนป่ายไปสู่ความเปลี่ยนแปลงด้วยกันหรือยัง
บอกได้เลยว่าคนคือส่วนสำคัญที่จะพาองค์กรไปรอด

คนคืออะไร
คน
(กริยา) คือการกวน กวนให้เข้ากัน นี่แหละความหมายอันลึกซึ้งของคน
คนที่อยู่ในองค์กรต้องกวนให้เข้ากัน เป็นองค์กรเดียวกันให้ได้

มนุษย์หรือคนมีหลากหลายอารมณ์ เมื่อเข้าใจคำว่า มนุษย์ เข้าใจคำว่าคน แล้วพร้อมที่จะรับกับความเปลี่ยนแปลงของคนในองค์กรที่มีหลากหลายอารมณ์หรือยัง

รู้จักนาดำกันหรือไม่ ทุ่งนาที่เป็นนาดำมีความสวย งาม ต้นข้าวทุกต้นเรียงกันเป็นแถวสวยงาม มีความเขียวขจีเหมือนกัน เติบโตเหมือนกัน ผลสุดท้ายเป็นทุ่งนาสีทองเหมือนกัน

ทุ่งนาที่สวยงามเป็นระเบียบจากการปักดำ เกิดขึ้นได้อย่างไร
ถ้าทุ่งนาคือองค์กร การจะทำนาดำให้สวยงาม หนึ่งต้องเตรียมกล้า เตรียมดิน เตรียมพื้นที่

เมื่อเตรียมกล้า เตรียมดิน เตรียมพื้นที่แล้ว จะต้องเตรียมคนที่จะมีทักษะในการหว่านปุ๋ย มาดูแลต้นข้าวนี้ ให้น้ำให้ปุ๋ย ดูแลเรื่องแมลงรบกวนให้ดี เพื่อให้เกิดรวงข้าวสีทอง ทุ่งข้าวสีทอง

การเตรียมองค์กรเฉกเช่นเดียวกัน ถ้าต้องการองค์กรแห่งความสุข จะต้องสร้างขึ้นมาตั้งแต่ต้นกล้า แล้วคุณก็นำคนในองค์กรใส่เข้าไปในทุ่งนา ให้มีความสวยงาม มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ดังที่คุณปรารถนา แต่จะต้องเข้าใจก่อนว่ากำลังทำกับสิ่งที่เรียกว่าคน

วันนี้คนในองค์กรกำลังทำงานหนักและก็เสี่ยง เสี่ยงในที่นี้หมายถึงว่างานที่ทำทุกอย่างท้าทายมาก มีอุปสรรคมาก ไม่มีงานสบาย ไม่ว่าจะเป็นราชการหรือเอกชน ทุกคนพร้อมรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน นั่นคือคำถามที่ทุกคนต้องหาคำตอบ

ทำไมถึงต้องทำงานที่เสี่ยงและหนัก
แล้วคนในองค์กรคุณอยู่ในลักษณะใด โดดเดี่ยว ตัวใครตัวมัน เหมือนเดิม เหมือนอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวกลางทะเลทรายอันอ้างว้าง อยู่ในสนามรบที่พร้อมจะรบราฆ่าฟันกัน ตั้งป้อมเผชิญหน้ากัน โอกาสที่จะปะทะทางความคิดการกระทำก็เกิดขึ้น องค์กรจะมีความสุขได้ไหม
แล้ววันนี้ชีวิตคนในองค์กรเป็นอย่างไร

ทรัพยากรมนุษย์
ทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งที่องค์กรต้องตระหนัก วันนี้เรามีหน่วยงานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เต็มไปหมด เกือบทุกองค์กร แต่รู้ไหมว่าทรัพยากรมนุษย์คืออะไร

ทรัพยากรมนุษย์คือสิ่งที่มีคุณค่า มีเกียรติภูมิ ซึ่งมีอยู่ในตัวมนุษย์ ประกอบด้วยความรู้ความสามารถ ความคิดเห็นต่างๆ ที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ แต่ละคนจะมีทรัพยากรที่ต่างกันมาก ซึ่งแต่ละองค์กรต้องรู้ว่าคนในองค์กรมีทรัพยากรมากน้อยแค่ไหน แล้วนำมาจัดสรร นำมาจัดการ

องค์กรทุกองค์กรถูกตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร เพื่อดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ องค์กรก็มีหน้าที่นั่นคืองานบริการ ไม่ว่าจะราชการหรือเอกชน งานผลิตสินค้า ซึ่งมีคำหนึ่งว่า การสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าหรือผู้รับบริการ นั่นแหละคืองานขององค์กรที่ส่วนใหญ่มุ่งไปตรงนี้หมด

มีหลายองค์กรเสียเวลาไปกับการทำระบบมาตรฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ISO 9000, ISO 18000 ทั้งหมดนี้ เป็นเปลือกทั้งนั้น เป็นเปลือกที่สร้างขึ้นมาเพื่อจะบอกว่าองค์กรชั้นพร้อมแล้วนะที่จะให้บริการที่ดี แต่จริงๆ ไม่ใช่ เหมือนคนแต่งตัวสวย ทุกวันนี้องค์กรเหมือนคนที่รูปร่างไม่ได้มาตรฐาน ร่างกายไม่ได้สัดส่วนที่สวยงาม

เมื่อมีระบบใหม่ๆ เข้ามาก็ต้องเหนื่อยวิ่งตามระบบ เพื่อให้เกิดคำว่า ความพึงพอใจของผู้รับบริการหรือผู้ใช้สินค้า แต่ความเป็นจริงไม่เคยมาโฟกัสสิ่งที่เรียกว่า "คน" ตัวเป็นๆ

มีระบบจัดการที่เรียกว่าการจัดการทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร (Human Resource Management - HRM) ซึ่งก็คือเรื่องการจัดการโดยการสร้างคุณภาพชีวิต หรือความสุขให้เกิดในองค์กร

ปัจจุบัน คำว่าทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource) ไม่พอแล้ว คนที่จะเป็นนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ได้นั้น จะต้องมีหน้าที่สร้างความสัมพันธ์ของคนในองค์กร (Human Relationship) และสร้างความสัมพันธ์อย่างมีความสุขของคนในองค์กร (Happy Relationship) ฉะนั้นต้องมีทักษะการทำงาน ทักษะการใช้ชีวิต ต้องสร้างสมดุล ชีวิตของคนในองค์กรให้เกิด องค์กรต้องการคนที่ดีและมีความสุข องค์กรต้องสร้างทักษะหรือว่าสมดุลของการใช้ชีวิตให้เหมาะสม

วัฒนธรรมองค์กร
"กำแพงเมืองจีน" บอกถึงวิถีอันยิ่งใหญ่ของประเทศจีน เฉกเช่นเดียวกัน วัฒนธรรมองค์กรหรือวิถีแห่งองค์กร บอกถึงความยิ่งใหญ่ขององค์กร

แล้ววันนี้คุณมี "วัฒนธรรมองค์กร" แล้วหรือยัง
วัฒนธรรมที่ดี ที่เหมาะสม จึงเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กรนั้น คนในองค์กรจะต้องร่วมกันสร้างวัฒนธรรมองค์กรขึ้นมา และต้องเป็นวัฒนธรรมของตนเอง ที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนทางธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับมนุษย์มากขึ้น

เมื่อคนสำคัญกับองค์กร จำเป็นจะต้องมีระบบการจัดการ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์หรือคน ให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรให้ได้

การสร้างแนวคิดวัฒนธรรมองค์กรประกอบด้วย

หนึ่ง องค์กรมีตัวตน คนในองค์กรก็มีตัวตน
สอง คนไม่ใช่แค่สิ่งประดิษฐ์ จะต้องมองคนเป็นมากกว่าคน มีเกียรติภูมิ มองที่การทำงานให้เป็นมากกว่าที่ต้องมาทำงาน มองไปรอบตัวเองและมองย้อนกลับอีก และเชื่อว่าผลผลิตที่ดีมาจากคนทำงานที่มีความสุขมากกว่าคนทำงานเพราะเงิน
แล้วจะเกิดองค์กรแห่งความสุขได้อย่างไร

สร้างองค์กรแห่งความสุข
สร้างองค์กรแห่งความสุข หรือที่ทำงานแห่งความสุขให้ได้นั้น จะต้องมี 3 อย่างนี้ เป็นวิสัยทัศน์หรือเป้าหมายสุดท้ายคือ คนทำงานมีความสุข ที่ทำงานน่าอยู่ ชุมชนสมานฉันท์

คนทำงานมีความสุข
ต้องให้คนเป็นบุคลากรที่สำคัญขององค์กร เมื่อไหร่ที่คุณให้ความสำคัญกับคน จะได้คนที่เสียสละ และจงรักภักดีกับองค์กร
ที่ทำงานน่าอยู่ ต้องทำให้เกิดความสุขตาสุขใจในที่ทำงาน ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน
ชุมชนสมานฉันท์ ต้องมีความรักและสามัคคีเกิดขึ้นในองค์กร

จะทำอย่างไรให้เป็นองค์กรแห่งความสุข นั่นคือจะต้องสร้างบทบาทของคนในองค์กรให้เหมาะสม ต้องทำให้ผู้บริหารรับรู้เข้าใจว่าองค์กรแห่งความสุขคืออะไร และพร้อมที่จะสนับสนุน

ความสุข 8 ประการ
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) กำหนด ตัวชี้วัดความก้าวหน้าของมนุษย์ เรียกว่าความสุข 8 ประการซึ่งมีอยู่ 3 ส่วนใหญ่ๆ ความสุขของคน ความสุขของครอบครัว ความสุขของสังคม

1. ความสุขทางกาย (happy body) ความสุขจากการมีสุขภาพดี แข็งแรงทั้งกายและใจ ซึ่งเกี่ยวข้อง กับการรู้จักใช้ชีวิตเป็นสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่

2. น้ำใจงาม (happy heart) ความมีน้ำใจเอื้ออาทรต่อกันและกันในองค์กรเป็นสิ่งที่สำคัญ เชื่อว่าไม่มีใครอยู่ได้คนเดียวในโลกนี้ เราต้องรู้จักการแบ่งปัน และต้องรู้สึกว่าเมื่อคิดถึงคนอื่นก็มีความสุขใจเกิดขึ้น
3. ทางสายกลาง (happy relax) ต้องรู้จักการผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการใช้ชีวิต ต้องนำทางสายกลางมาใช้ ต้องรู้จักปล่อยวางบ้าง เพราะจริงจังแต่ไม่ไหวต้องมีคำว่า "หยุด" เพื่อจะมีสติแล้วคิดเดินต่อไป

4. พัฒนาสมอง (happy brain)
ความสุขจากการได้เรียนรู้ พัฒนาสมองตัวเองจากแหล่งต่างๆ นำไปสู่ความเป็นมืออาชีพและความก้าวหน้าในการทำงาน

คนเราเรียนเพื่อรู้มีปัญญาก้าวหน้าในชีวิต เป็นสิ่งสำคัญ อนาคตก้าวหน้า เงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง ความต้องการต่างๆ ของมนุษย์มันก็เกิดจากการเรียนรู้ พัฒนาตนเอง

5. ศาสนาและศีลธรรม (happy soul) ความศรัทธาศาสนาและศีลธรรมในการดำเนินชีวิต ความสุขของคนทำงานเกิดได้จากธรรมะ จริยธรรม ความซื่อสัตย์ เป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์ทุกคนที่องค์กรต้องสร้าง
องค์กรใดไม่ปลูกฝังความศรัทธาศาสนาและ ศีลธรรมให้เกิดในองค์กร อย่าหวังว่าคนในองค์กรจะซื่อสัตย์ จงรักภักดีและมีน้ำหนึ่งใจเดียว พร้อมที่จะช่วยเหลือองค์กรยามที่องค์กรตกอับ คุณธรรมจริยธรรมเป็นสิ่งที่สำคัญของทุกองค์กร

6. ปลอดหนี้ (happy money)
มีเงินรู้จักเก็บรู้จักใช้ ไม่เป็นหนี้ ถ้าเชื่อว่าหาความสุขด้วยเงินไม่มีวันพอหรอก
เงินสำคัญนะ แต่ไม่ใช่ที่สุด เพราะบางครั้งเงินไม่สามารถตอบสนองความสุขให้คนได้ จริงๆ แล้วความสุขไม่ได้อยู่ที่ไหนหรอก อยู่ที่รู้จักพอ

หนี้ของมนุษย์ที่สำคัญมีอยู่ 2 อย่างคือ หนี้ที่ควรมีกับหนี้ที่ไม่ควรมี
หนี้ที่ควรมี
หนี้ที่ใช้ในการดำเนินชีวิต เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 (อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค) รวมถึงหนี้ความรู้
หนี้ที่ไม่ควรมี หนี้ที่เกิดจากความฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ อยากมีอยากเด่นตามคนอื่น ทั้งๆที่อาจจะไม่มีความจำเป็น

7. สร้างความสุขจากการมีครอบครัวที่ดี (happy family) ครอบครัวที่เข้มแข็งย่อมเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและมั่นคง

ความสุขที่ให้กับคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อเป็นแม่ ญาติผู้ใหญ่คุณ บุตร ภรรยา หรือหลาน คือการสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้ครอบครัว

8. ความสุขที่เกิดจากสังคม (happy society)
สังคมดีจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีความรักความสามัคคี เอื้อเฟื้อต่อคนในชุมชน คนทำงาน ที่พักอาศัย


ความสุขทั้ง 8 สร้างได้ เพื่อให้เกิดความสุขที่ใหญ่ที่สุดคือ การสร้างความสุขในที่ทำงาน (Happy Workplace)

เมื่อสร้างความสุขในที่ทำงานแล้วเกิดอะไรขึ้น ความสุขที่ทุกคนจะได้จากการทำงาน คือความสุขจากการดำรงชีวิตที่เหมาะสม มีผลงานที่ดี มีความมั่นคงในอาชีพ ได้รับค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ดี เกิดความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีคุณค่าต่อองค์กร มีความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและผู้บริหารที่ดีขึ้น มีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น มีความรู้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต นำไปเผยแพร่ต่อครอบครัว ชุมชน และแรงงานที่มีคุณค่าของประเทศ

ที่ทำงานมีความสุข องค์กรได้อะไร

สิ่งที่องค์กรได้จากการมีความสุขในที่ทำงานคือ ผลผลิตสูงสุด การบริการดีขึ้น คุณภาพของสินค้าและบริการดีขึ้น ลดการขาดงาน การเข้างานช้า การลาป่วย ลากิจของพนักงาน มีชุมชนที่เข้มแข็งในองค์กร สภาพแวดล้อมในการทำงานดีขึ้น ลดอัตราการเลิกจ้างงาน ประหยัดค่าใช้จ่ายในการสรรหา ฝึกพนักงานใหม่ ภาพลักษณ์ขององค์กรดีขึ้น และลดความไม่พอใจของผู้ใช้แรงงาน

ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายบริหารกับพนักงานดีขึ้น พนักงานก็จะมีความรักในองค์กรมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่องค์กรต้องการที่สุด

องค์กรแห่งความสุขเป็นเรื่องที่ทุกคนสัมผัสได้ เข้าหาได้ เข้าถึงได้ และทำให้คนทำงานมีความสุข ที่ทำงานน่าอยู่ ชุมชนสมานฉันท์

ความสุขในที่ทำงาน
บริษัทไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด

คุณบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการบริษัทไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชื่อมโยงนโยบายการสร้างคุณภาพชีวิตของพนักงานไปสู่การปฏิบัติ โดยมีเป้าหมาย "สร้างองค์กรให้เติบโต มั่นคงและมีความสุขอย่างยั่งยืน"

แนวคิดว่าความสำเร็จของการทำธุรกิจยุคปัจจุบันก็คือ ดีกว่า เร็วกว่า ถูกกว่า
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิ่งที่ดีกว่า เร็วกว่าและถูกกว่า คือคนดีที่เก่ง
คนดีที่เก่งคือคนที่มีความสุขในการทำงาน
เพราะไลอ้อนฯ เชื่อมั่นว่า ผลงานที่เป็นเลิศย่อมเกิดจากมือของคนที่มีความสุขเสมอ

คนดีคนเก่ง
คนดี
ในความหมายขององค์กรไลอ้อนฯ คือคนที่มีศรัทธาในคุณธรรมและจริยธรรม ที่ดีงาม คิดดี พูดดี ทำดี รู้จักสามัคคี มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ และปรารถนาดีต่อผู้อื่นเสมอ
ส่วนคนเก่งนั้นคือคนที่มีความรู้ มีลักษณะเป็น "พหูสูต" และได้ฝึกฝนจนกลายเป็น "มืออาชีพ"

กลยุทธ์ 3 ประสาน
ที่ผ่านมาใช้กลยุทธ์ 3 ประสาน ประกอบด้วย
1. การพัฒนาองค์กรในรูปแบบ Matrix Organization เพื่อสร้างการทำงานเป็นทีม
2. ประยุกต์แนวคิดความสุข 8 ประการคือ ร่างกาย จิตใจ สังคม ผ่อนคลาย สติปัญญา คุณธรรมจริยธรรม พอเพียง และครอบครัวอบอุ่น
3. สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ ด้วยการยกย่องคนดี ส่งเสริมคนเก่ง นำร่องด้วย (1) 365 วันร่วมกันทำดี (2) ส่งเสริมการเป็นผู้ให้ แบ่งปันความรัก และสร้างมิตรภาพระหว่างกัน (3) ทำดี 24 ชั่วโมง ด้วยการให้พนักงานมุ่งมั่นทำความดีทุกวันจนเกิดเป็นค่านิยมขององค์กร

คนดีต้นแบบ
ในส่วนของการทำดี 24 ชั่วโมงนั้น ได้มีการมอบรางวัล "คนดีต้นแบบ" ที่ได้รับการยกย่อง เช่น
- ฝ่ายประชาสัมพันธ์ "มีน้ำใจงามต่อทุกคน ให้บริการด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ไม่เคยแสดงออกถึงความเหนื่อยทางสีหน้า"Ž
- ฝ่ายผลิต Plant 1 "ใฝ่เรียนรู้ ใฝ่รู้ แม้มีปัญหาทางครอบครัว พ่อแม่หย่าร้างก็ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก พยายามเล่าเรียนจนจบปริญญาตรี และยังส่งเสียน้องให้เรียน เพราะเห็นความสำคัญของการศึกษาพัฒนาตน"
- แผนกบรรจุ Plant 2 "มีความกตัญญูกตเวที เลี้ยงดูมารดา เนื่องจากบิดาเสียชีวิต ทำงานพิเศษหลังเลิกงานประจำเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว และเป็นผู้มีน้ำใจงาม ช่วยเหลือกิจกรรมของบริษัทเสมอมา"
- ฝ่ายการค้า ศรีราชา "มีจิตอาสา ช่วยงานผู้อื่นทำด้วยความขยันขันแข็ง... ทำกระทงขายในวันลอยกระทงและนำรายได้ทั้งหมดบริจาคให้โรงเรียนยากจน"Ž
- ฝ่ายการตลาด "มีเมตตากรุณาต่อสัตว์ ช่วยเหลือสุนัขจรจัดที่ถูกรถชนด้วยการนำส่งโรงพยาบาล แต่สุนัขตายได้นำไปเผาที่วัดจนเสร็จพิธีการ"

การทำกิจกรรมต่างๆ ของไลอ้อนฯ มีตัวชี้วัดที่ประกอบด้วย
1. บรรยากาศของความร่วมมือ
- การประชุมมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- บรรยากาศการประชุมสร้างสรรค์
- มองเป้าหมายเดียวกัน
- ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันแก้ไขปัญหา
2. ดัชนีความสุข
- พบว่าความสุขของพนักงานเพิ่มขึ้นเท่าตัว
3. ผลประกอบการ
- สามารถลดต้นทุน (สะสม) ได้มากขึ้น
- ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 จนถึงปัจจุบัน
- ทรัพย์สินส่วนของผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 785 ล้านบาทในปี พ.ศ.2546 เป็น 1,518 ล้านบาทในปี พ.ศ.2550
4. ประกาศเกียรติคุณ เช่น
- รางวัลดีเด่นด้านความปลอดภัยและสวัสดิภาพแรงงาน
- รางวัลโรงงานสีขาวปลอดสิ่งเสพติด
- รางวัลดีเด่นด้านสวัสดิภาพแรงงาน
- รางวัลดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์
- ชนะการประกวดโครงการประหยัดพลังงาน ประเภทโรงงานควบคุม จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน

นอกจากนี้ คุณบุญฤทธิ์ได้ยกคำกล่าวของ ดร.เทียม โชควัฒนา อดีตประธานกรรมการเครือสหพัฒน์ ว่า "ชีวิตของคนที่เคยทำงานต่างๆ นั้น เปรียบดั่งต้นไม้นานาพันธุ์ บางพันธุ์ก็โตช้า บางพันธุ์ก็โตเร็ว เราต้องมีความอดทนในการสร้างคน แม้จะต้องใช้เวลา 10 ปีก็ยินดี ปลูกต้นไม้ใหญ่ใช้เวลานับ 100 ปี สร้างคนดีใช้เวลา 10 ปี"
Ž
หมายเหตุ เรียบเรียงจากการสัมมนา Happy Workplace Forum เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2551
 

ข้อมูลสื่อ

349-007
นิตยสารหมอชาวบ้าน 349
พฤษภาคม 2551