• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ซื้อสุขภาพ

เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจปนน่าเวทนาที่ปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยนิยมใช้วิธีซื้อสุขภาพแทนการสร้างสุขภาพด้วยตนเองตามวิถีธรรมชาติ ดังจะเห็นได้จากความนิยมในการกินอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินต่างๆ โดยทำตามกระแสบริโภคนิยมที่รับมาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว

บางคนกินวิตามินเป็นกำๆ หลังอาหารแต่ละมื้อก็ต้องมีวิตามินหรืออาหารเสริมเพราะกลัวว่าร่างกายจะได้รับไม่พอหรือคิดว่ากินเสริมให้มากไว้ก่อนจะทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วย โดยลืมคำนึงว่าการได้รับสารอาหารที่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มหรือร่างกายมีเพียงพอแล้วนั้นอาจเกิดโทษตามมาได้

ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจ ซึ่งเริ่มจากทางซีกโลกตะวันตกอย่างอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ผู้คนจะใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบเพราะมีการแข่งขันกันมาก เวลาในการดูแลตนเองมีน้อย วิถีชีวิตต่างๆ ก็ยังเสี่ยงต่อสุขภาพ จึงเป็นโอกาสให้เกิดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากมาย

ตลาดของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีทั้งที่วางขายทั่วไปและใช้ระบบขายตรงซึ่งจะแข่งขันกันเพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยจะพยายามสร้างความรู้สึกให้คนกลัวความเจ็บป่วย กลัวว่าร่างกายจะเสื่อมถอย นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของความสวยความงามอีกด้วย จนทำให้หลายๆ คนต้องสรรหาวิตามินหรืออาหารเสริมมากมายมากินโดยไม่จำเป็น ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตมีรายได้และผลตอบแทนจากกระแสสุขภาพนี้มากมายมหาศาล

การกินวิตามินหรืออาหารเสริมต่างๆ ควรคำนึงถึงความเหมาะสมเฉพาะบุคคล ไม่ใช่กินตามกระแส บางคนกินวิตามินเกือบทุกชนิดพ่วงด้วยอาหารเสริมอีกหลายตัวเลยไม่ค่อยกล้ากินอาหารตามปกติเพราะกลัวอ้วน กลายเป็นว่าต้องใช้ชีวิตกับอาหารแบบเม็ดไปเลย บางคนแข็งแรงดีแต่กินเป็นกำๆ เสริมกับอาหารตามปกติ อย่างนี้ก็มากเกินไป

การใช้วิตามินหรืออาหารเสริมโดยทั่วไปแล้วมักใช้ กับผู้ที่ขาดสารอาหารจริงๆ ซึ่งอาจเกิดจากการเจ็บป่วย การกินอาหารได้น้อยกว่าปกติ เด็ก ผู้สูงอายุ หรือสตรีมีครรภ์ที่จำเป็นต้องได้สารอาหารเพิ่ม เป็นต้น ดังนั้นคนทั่วไปที่กินอาหารได้ครบ 5 หมู่ จึงไม่จำเป็นต้องใช้

วิตามินหรืออาหารเสริมไม่ว่าชนิดใดๆ ถ้าร่างกายได้รับมากเกินไปจะเกิดโทษได้ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะเกิดพิษต่อระบบไหนของร่างกาย เช่น
วิตามินซี กินมากไปอาจทำให้ผิวหนังแห้ง เกิดโรคผิวหนัง ปัสสาวะเป็นกรดมากเกินไป
วิตามินเอ ได้รับมากไปอาจเกิดสมองบวม ผิวแห้ง ผมร่วง ปวดศีรษะ
วิตามินบี 6 กินมากไปอาจทำให้ปลายประสาทเสื่อม เกิดโรคเหน็บชา
วิตามินดี ได้มากไปจะทำให้แคลเซียมในเลือดสูง ตกตะกอนในไต ทำให้ไตพิการ หรือเกิดนิ่ว
ฯลฯ

ส่วนผู้ที่กินวิตามินหรืออาหารเสริมเพื่อผิวพรรณและความสวยงามซึ่งปัจจุบันนี้มีกระแสแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจเสี่ยงต่อการแพ้หรือพิษจากการได้รับมากเกินไป นอกจากนั้นก็ยังต้องใช้เป็นเวลานานและต่อเนื่อง โอกาสเกิดพิษต่อร่างกายก็จะมากขึ้น

การใช้เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงภายนอกจะปลอดภัยกว่ามาก และไม่ต้องสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
สุขภาพเป็นสิ่งที่ต้องสร้างด้วยวิถีของการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ไม่ควรหวังพึ่งพาแต่วิตามินหรืออาหารเสริมเท่านั้น ให้ยึดหลักความจำเป็นพื้นฐานตามปัจจัยสี่ มีการกินอยู่อย่างถูกสุขอนามัย พยายามกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ โดยแต่ละมื้อให้มองดูอาหารบนโต๊ะว่ามีครบทั้งแป้ง น้ำตาล โปรตีนจากพืชหรือสัตว์ ไขมัน ผักผลไม้ แล้วหรือยัง

นอกจากอาหารแล้ว การดื่มน้ำสะอาดมากๆ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ทำจิตใจให้เบิกบานก็จะช่วยส่งเสริมสุขภาพได้ดี พยายามเดินสายกลาง ทุกอย่างต้องไม่มากไปหรือน้อยไป เมื่อปฏิบัติได้ตามนี้แล้ว เราก็จะมีสุขภาพที่ดีได้โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทอง และไม่ต้องใช้ชีวิตแบบเกาะกระแสให้เกิดความเสี่ยงต่อร่างกายโดยไม่จำเป็น

ควรระลึกอยู่เสมอว่า...
"สุขภาพดีนั้นต้องสร้างด้วยตนเอง ไม่ใช่ซื้อหามา"

ข้อมูลสื่อ

350-005
นิตยสารหมอชาวบ้าน 350
มิถุนายน 2551
นพ.พินิจ ลิ้มสุคนธ์