• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

9 ข้อสงสัยในยุทธจักรการออกกำลังกาย

9 ข้อสงสัยในยุทธจักรการออกกำลังกาย


ในบรรดาคำแนะนำแล้ว ยุทธจักรการออกกำลังกายดุเหมือนจะมีการแนะนำที่ผิดๆกันมากที่สุด ดังตัวอย่างต่อไปนี้ เช่น



 

1. ถ้าต้องการให้ไขมันหน้าท้องลดลงต้องออกกำลังกายท่านี้ ถ้าต้องการให้สะโพกหายไปต้องออกกำลังกายท่านั้น

........ไม่จริง......เป็นการลดไขมันทั่วของร่างกาย เราไม่สามารถที่จะลดไขมันเฉพาะที่ได้ ถ้าจะให้ไขมันหน้าท้องลดลงที่อื่นๆก็ลดลงด้วย

 

 

 

2. ถ้าจะรักษาร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าสมบูรณ์แข็งแรง เราออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2 ครั้งก็พอ

........ไม่จริง......กล้ามเนื้ออันใด ถ้าอยู่เฉยๆ 3 วัน จะเสียความแข็งแรงสูงสุดไปหนึ่งในห้าและการไม่เคลื่อนไหวของส่วนต่างๆของร่างกายยังเป็นผลเสียต่อการหมุนเวียนของเลือด การหายใจ การย่อยอาหาร และระบบประสาทอีกด้วย


สรุปว่าเราต้องใช้กล้ามอันหนึ่งๆทุก 48 หรือ72 ชั่วโมงถ้าเราหวังจะรักษาความสมบูรณ์แข็งแรงของมันไว้ การออกกำลังกายทุกวันเป็นของดี และพึงปรารถนา แต่ถ้าออกเพียงอาทิตย์ละ 3 วัน โดยไม่ต้องติดต่อกัน ( เช่นวันเว้นวัน )ก็พอเพียงสำหรับร่างกายแล้ว

 


3.เหงื่อออกมากๆทำให้ลดน้ำหนักได้ไหม

........ไม่จริง......เมื่อเหงื่อออกก็มีประโยชน์เพียง ช่วยลดความร้อนของร่างกายเท่านั้น เมื่อดื่มน้ำแก้กระหายลงไปน้ำหนักก็คืนมา คนเราจึงแข็งแรงได้ด้วยการออกกำลังกาย แต่มิใช่ด้วยออกเหงื่อ

 

 

 

 

 

 

4. ท่านเสียพลังงานมในหารวิ่งเหยาะๆ( Jogging) มากกว่าที่เสียไปด้วยการเดินในระยะทางเท่ากัน

........ไม่จริง......เราจะเสียพลังงานไปเท่ากันไม่ว่าจะวิ่งเหยาะๆหรือเดิน ถ้าทำในระยะทางเท่ากัน เพราเป็นพลังงานที่ต้องเคลื่อนที่น้ำหนักตัวไปในระยะทางที่เท่ากัน แต่ถ้าท่านวิ่งเหยาะๆนาน 30 นาที จะเสียพลังงานมากกว่าเมื่อท่านเดินไป 30 นาที เพราะการวิ่งนั้นได้ระยะทางมากกว่าการเดินในระยะทางเท่ากัน.


 

 



5. ถ้าการหายใจของท่านไม่กลับคืนสู่อัตราปกติ ( หายเหนื่อย ) ภายใน 5 นาที ที่ท่ายจบการออกกำลังกาย แปลว่า ท่านออกกำลังกายมากเกินไป

........จริง...... การหายใจควรจะกลับเป็นปกติภายใน 5 นาที หลังจากหยุดออกกำลังกายแล้ว พร้อมกับหัวใจก็ไม่ควรเต้นแรง และท่านก็ควรรู้สึกสบาย ถ้าออกกำลังกายมากเกินไป อาจทำให้นอนหลับยากและเพลียไปถึงวันรุ่งขึ้น
การออกกำลังกายที่ให้ผลดี ควรมีลักษณะที่ไม่หักโหมเกินไป หรือทำให้รู้สึกไม่สบายและเพลียมาก แต่เป็นแบบที่พอสมควรรู้สึกสนุกสบายและทำให้สดชื่นขึ้น สมดังพระราชดำรัสที่ทรงกล่าวทางโทรทัศน์เมื่อ 4 ตุลาคม 2525 ว่า
การออกกำลังกาย ถ้าน้อยเกินไปจะทำให้ร่างกายและจิตใจ เฉา แต่ถ้าออกกำลังกายมากเกินไปก็จะทำให้ร่างกายและจิตใจช้ำ "

 



6. การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง

........จริง......การออกกำลังกายช่วยให้เลือดสูฉีดแรงหมุนเวียนไปทั่วร่างกาย จึงมีผลทำให้เรารู้สึกสบายตัว
ถ้าเรายืนนานๆบางทีเราจะเห็นว่าเท้าชักจะบวม แต่พอเรานั่งลงและยกปลายเท้าให้สูงจะรู้สึกสบายขึ้น เพราะว่าเวลายืนหรือนั่ง เราไม่มีกำลังพอที่จะบีบหลอดเลือดดำในขาและเท้าให้กลับไปยังหัวใจได้เพียงพอ การเดินจะทำให้เลือดสูบฉีดหมุนเวียนดีขึ้น และในขณะที่กล้ามเนื้อเคลื่อนไหว มักจะบีบหลอดเลือดดำบริเวณนั้นทำให้เลือดกลับไปที่หัวใจสะดวกขึ้น เป็นผลทำให้เกิดความรู้สึกสบาย

 

 

 

7. การออกกำลังกายกล้ามเนื้อแรงๆ ทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นได้มาก


........ไม่จริง......การออกกำลังกายประเภทยืดกล้ามเนื้อควรทำช้าๆ เบาๆ มีเวลาพอให้กล้ามเนื้อหย่อนคลายหรือ
ปล่อยตามสบาย “
กล้ามเนื้อที่ตึงอยู่แล้ว ถ้าไปการออกกำลังกายแรงๆ กลับไม่ดี กล้ามเนื้อมันจะกลับตึงมากขึ้นแทนที่จะยืดหยุ่น

ตัวอย่างการการออกกำลังกายประเภทยืดกล้ามเนื้อ คือ การยืนตัวตรงแล้วก้มโค้งที่เอว เอาปลายนิ้วมือจรดที่ปลายนิ้วเท้า ควรทำช้าๆ ถ้ารู้สึกว่ากล้ามเนื้อนั้นตึงจงอยู่ในท่านั้นหลายๆวินาทีแล้วจึงผ่อนคลาย ควรทำเช่นนี้หลายๆครั้ง

 

 

 

8.การการออกกำลังกายแต่ละครั้งหรือแต่ละวัน ควรทำอย่างน้อยที่สุด 20 นาที

........จริง......เพราะในร่างกายของเรานั้นมีกล้ามเนื้ออยู่ 400กว่ามัด ซึ่งทำหน้าที่และรับผิดชอบในการเคลื่อนไหวของข้อ การทรงตัว การหายใจ การขับถ่าย ฯลฯ และการที่เราจะการออกกำลังกายด้วยการยืดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั้งหมดนี้ทำไม่ได้ใน 4-5 นาที.

 


 


9.จะใช้เวลานานสักเท่าไหร่กว่าจะรู้สึกแข็งแรงกระปรี้กระเปร่าหลังจากการออกกำลังกายเป็นประจำแล้ว

 ....เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ส่าท่านทรุดโทรมหรือไม่

แข็งแรงแค่ไหน เมื่อเริ่มต้นการการออกกำลังกาย บางตำราก็ว่า 20 วัน แต่คำถามนี้ยังไม่มีคำตอบตายตัว การแข็งแรงชั่วครั้งชั่วคราวจะมีประโยชน์อะไร ถ้าจะให้ดีเราต้องมีแผนการให้แข็งแรงอยู่เป็นระยะยาว หมายความว่าต้องออกกำลังกายเรื่อยไปจนกว่าร่างกายจะไม่ไหว การการออกกำลังกายเมื่อเราเริ่มต้นไปพักหนึ่งแล้ว
ร่างกานก็จะ”เข้าที่” ( Conditioned ) และหลังจากนั้นการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อทุกๆชนิดก็จะดูเป็นของง่ายขึ้น

ไม่ว่าท่านจะอายุเท่าไหร่ จงเริ่มการออกกำลังกายเท่าที่เหมาะสมให้เป็นประจำอย่างถูกต้องได้แล้วตั้งแต่พรุ่งนี้ มันเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพของท่านโดยให้ผลตอบแทนสูงมาก

ข้อมูลสื่อ

46-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 46
กุมภาพันธ์ 2526
พ.ต.นพ.สุพจน์ ขวัญมิตร