• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เทียนดอกพอกแก้ฝี

เทียนดอกพอกแก้ฝี

 

พูดถึงฝีบางคนรู้สึกอายที่จะบอก กลัวคนอื่นจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นฝีมะม่วงที่เกิดจาการติดเชื้อในทางเพศสัมพันธ์ แต่ฝีที่ว่าต่อไปนี้ ไม่น่าจะเป็นเรื่องน่าอาย บางคนเป็นที่ก้นหรือแม้เป็นที่หน้าผาก เราก็ยังเคยเห็นกันไม่น้อย

สาเหตุของการเกิดฝีบริเวณต่างๆบนผิวหนังของคนเรานั้น เกิดจากเชื้อโรคจำพวกแบคทีเรีย ที่ติดอยู่ตามผิวหนังแทรกตัวเข้าไปในผิวหนัง เช่น เมื่อผิวหนังบริเวณใดถูกกระแทกให้ช้ำ เจ้าวายร้ายนี้ก็ผ่านเข้าไปในผิวหนังไปทำลายเนื้อเยื่อผิวหนัง ก็จะทำให้เกิดอาการอักเสบ ซึ่งการอักเสบนี้อาจทำให้เกิดอาการบวม ปวดๆ คันๆ บริเวณฝี หรือทำให้รู้สึกมีไข้ขึ้นเล็กน้อย

แต่น่ายินดีที่ร่างกายของคนเราเหมือนของวิเศษ เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามา อย่างในกรณีนี้ร่างกายก็จะส่งบรรดาเม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับแบคทีเรีย หลังการต่อสู้กันย่อมมีการตามด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งแบคทีเรียและเม็ดเลือดขาวที่ตาบทับถมกันก็คือ หนอง นั้นเอง

เล่าสาเหตุการเกิดฝีเสียนาน มาฟังผู้ที่ได้เคยนำยาสมุนไพรใช้รักษาฝีกันดีกว่า
เมื่อประมาณ 6 เดือนที่ แล้วอาจารย์ สุลักษณ์ ศิวลักษ์ นักคิดนักเขียนคนดังของเมืองไทย ก็เกิดเป็นฝีขนาดจะต้องผ่าออก แต่อาจารย์ไม่อยากผ่า จึงหันมาใช้ยาสมุนไพร ลองมาฟังเรื่องราวของท่านกันเลยครับ

นี่......มันค่อยๆ บวมขึ้นทาเอง ทีแรกก็เล็กๆตรงฐาน กดดูแข็งๆแต่ก็ไม่เจ็บอะไร เป็นตรงตันขาด้านข้างขาซ้ายนี่ไง “ อาจารย์พูดพร้อมกับเปิดตำแหน่งของฝี

โอ้โฮ้......ถ้าใครเห็นขนาดของฝีแล้งคงตกใจ เพราะมีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ มีสีออกแดงๆ อาจารย์เล่าต่อไปอีก

ไปหาหมอโรงพยาบาลเลิดสิน หมอบอกว่าเป็นฝีไม่มีหัว ไม่มีทางรักษา ปล่อยทิ้งไว้ให้แก่กว่านี้ แล้วผ่าคว้านออก หมอก็ให้กินยาจำพวกปฏิชีวนะ กินประทังเอาไว้ .......”ดูอาจารย์มีอารมณ์หงุดหงิดกับฝีมาก

โครงการฯเห็นว่าสมุนไพรที่ใช้รักษาฝีไม่มีหัวอย่างนี้ คือ เทียนดอก จึงบอกตำรับยาให้อาจารย์ลองใช้ดูวันละ 2 เวลา เช้าและเย็น  พอเวลาผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ก็ไปติดตามผลการใช้ยาจากอาจารย์

ใช้ได้ดีนี่.....ยุบหายไปหมด วันแรกๆดูจะไม่ยุบจริง พอนานวันประมาณ 1 อาทิตย์ก็ยุบหายไปหมด” อาจารย์พูดคราวนี้ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมาก

ถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านคงอยากจะรู้ซิว่า ตำรับยานั้นทำอย่างไรไม่ยากครับ
เพียงแต่ใช้ต้นเทียนดอก ใช้ดอกและใบหรือทั้งต้น มาโขลกตำให้ละเอียด ( ข้อระวัง : ต้นเทียนดอกมีสีที่ติดนานล้างออกยากเวลาโขลกตำควรหาถุงมือหรือถุงพลาสติคใส่กันไว้ ) แล้วใส่น้ำตาลทรายแดงเล็กน้อยพอให้ยาเหนียว เวลาตำต้นเทียนดอกจะมีน้ำออกมามาก คั้นน้ำออกมาบ้างก็ได้ แล้วเอากากมาตำต่อจะได้สะดวกในการตำ

เมื่อตำจนละเอียดค่อยนำกากาและน้ำที่ได้มาผสมกันพอกตรงแผลฝี ( ต้นเทียนตำแล้ว 1 แก้วน้ำ ใส่น้ำตาลทรายแดงประมาณ หนึ่งในสี่ ( ¼ ) ช้อนชา ) เปลี่ยนยาเช้าเย็น นอกจากใช้รักษาฝีไม่มีหัวแล้ว ยังใช้รักษาเล็บขบ เล็บช้ำได้ผลดีอีกด้วย อย่างกรณีคุณ เพ็กฮวง แซ่ตั้ง พ่อค้าขายผักในตลาดสด ตรอกจันทร์ ยานนาวา กรุงเทพ ฯเขาเล่าให้ฟังว่า

“เล็บหัวแม่เท้าของผมมัน ขบตำเข้าเนื้อปวดเอามาก จนลุกเดินไม่ค่อยไหว “
น่าเห็นใจครับ อาชีพค้าขายอย่างนี้ลุกเดินไม่ไหวลำบากแน่

ตอนนั้นปวดที่เท้า ไม่รู้จะกินยาอะไรดีเลยกินยากฤษณากลั่น แล้วกินน้ำมนต์ของพระที่มีอยู่ แต่ไม่ได้ผลอะไร “ ดูแกอายนิดๆที่กินยาผิดประเภท และยังมีความเชื่อเรื่องบางอย่างอยู่

“ ใช้ยาอะไรรักษาจึงหายละครับ “

พอดีคนข้างบ้านเขาแนะนำให้ใช้ต้นเทียนตำผสมน้ำตาลทรายแดงพอกตรงฝี ไม่นึกเลยพอพอกตอนเย็นรุ่งเช้ายุบหายเกือบหมด เล็บที่ขบก็ไม่หมดออกด้วย

หลังจากได้คุยกันต่อ ก็ได้ความว่าเป็นตำรับเดียวกับที่กล่าวไว้ข้างต้น
คราวนี้ บ้านใครที่มีที่มีทางพอปลูกต้นไม้ ให้เจริญหูเจริญตาก็หันมาปลูกต้นเทียนดอกกันดีไหม เป็นทั้งไม้ประดับดอกก็สวยหลากสี หาไม่ยากที่สำคัญมีประโยชน์ใช้เป็นยาอีกด้วยแล้วทีนี้เราก็สามารถพึ่งตนเองในการรักษาได้สบาย.

 

ข้อมูลสื่อ

45-007
นิตยสารหมอชาวบ้าน 45
มกราคม 2526
อื่น ๆ
โครงการสมุนไพร