• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

โบร์ดินไม่โดปยา

 

                                              

โอลิมปิกกรุงโซลคราวนี้ คนคงจำได้แม่นว่า เบน จอห์นสัน แชมป์วิ่ง 100 เมตร โดปยาเหมือนกับที่โอลิมปิกมิวนิว ขึ้นชื่อเรื่องนักกีฬาอิสราเอลถูกผู้ก่อการร้ายชาวอาหรับฆ่าหมู่ และนอกจากเบน จอห์นสันแล้ว ก็ยังมีนักกีฬาโอลิมปิกคราวนี้อีกอย่างน้อย 8 คน ที่ถูกจับได้ว่าโดปยา เชื่อกันว่า การใช้ยาโดประบาดไปในหมู่นักกีฬาจำนวนมาก แต่ก็ยังมีนักกีฬาบางคนที่ได้เหรียญทองมาด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง (คือ ไม่ใช้ยา) เยลินโด โบว์ดิน เป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้น

โบร์ดินลงแข่งขันวิ่งมาราธอนครั้งนี้อย่างม้านอกสายตา ไม่มีใครกะเก็งมาก่อนว่า นักวิ่งผู้ไม่มีชื่อเสียงใด ๆ มาก่อนคนนี้ จะเป็นผู้ชนะในการวิ่งซึ่งเต็มไปด้วยดาราระดับแนวหน้า อย่างเช่น อาห์เหม็ด ซาเลท์ จูมาร์ อิกังกา อิบราฮิม ฮุสเซ็น โจเซฟ คิปแซง และทาเคยูกิ นากายามา เป็นต้น สถิติดีที่สุดของโบร์ดินคือได้เหรียญบรอนซ์จากการแข่งขัน กรีฑาแชมป์โลกที่กรุงโรม เมื่อปีกลาย แต่โบร์ดินก็ซุ่มซ้อนอย่างหนักมาเป็นเวลา 3 ปี โดยเฉพาะปีนี้เขาสู้อดใจไม่ลงแข่งในรายการสำคัญ ๆ ต่าง ๆ เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับโอลิมปิก

เมื่อการแข่งขันเริ่มต้น เหตุการณ์ทำท่าจะเป็นไปอย่างที่เกจิหลายคนทำนาย คือนักวิ่งจากทวีปแอฟริกาที่เป็นเหล่าตัวเต็ง ออกวิ่งนำหน้า โดยมีจูมาร์ อิกังกา และจอห์นสัน บูราชาวแทนซาเนียเป็นผู้นำ ตามด้วยนักวิ่งจากเคนยา คืออิบราฮิม ฮุสเซ็น และโจเซฟ คิปแซง จนเลยครึ่งทางไปแล้วนั่นแหละ โบร์ดินถึงได้วิ่งขึ้นไปสมทบกับกลุ่มผู้นำพร้อมกับ ทาเคยูกิ นากายามา จากญี่ปุ่น เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 32 กลุ่มผู้อันประกอบด้วยอิกังกา นากายามา ซาเลห์ โบร์ดิน และวากิอิฮูริ นั่งวิ่งชาวเคนยาอีกผู้หนึ่งที่เร่งฝีเท้าตีจากคนอื่น ๆ ไป โดยมีชาร์ลี สเปดดิงก์ นักวิ่งอังกฤษผู้ได้เหรียญทองแดง จากโอลิมปิกคราวที่แล้วตามติด โบร์ดินมีอาการจุกตับตั้งแต่วิ่งได้ครึ่งทาง และเมื่อวากิอิฮูริกับซาเลห์เร่งฝีเท้าอีกครั้งตอนเหลือระยะทาง 5 กิโลเมตร โบร์ดินเริ่มมีตะคริวที่ขา แต่ก็สู้อุตส่าห์กัดฟันโขยกตามไปในใจเขานึกว่าของเพียงเหรียญทองแดงก็พอแล้ว แต่เมื่อเหลือระยะทางอีก 1 กิโลเมตรจะถึงเส้นชัย ซาเลห์ซึ่งวิ่งนำอยู่อ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด โบร์ดินก็ไม่รอช้า เขาแซงขึ้นหน้าไปทันที และเข้าเส้นชัยไปเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีวากิอิฮูริตามมาเป็นอันดับสอง และซาเลห์ ซึ่งโดนพิษภัยความร้อนเล่นงานเสียจนงอมเข้าเป็นที่สาม

โบร์ดินบอกว่า 4-5 กิโลเมตรสุดท้ายเข้าต้องทนกับความเจ็บปวดจากตะคริวที่ขาสุดจะพรรณนา และ 2 กิโลเมตร หลังเหมือยอยู่ในสมรภูมิศึก แต่เมื่อเขาเอาชนะความเจ็บปวดได้ ก็สามารถแซงนักวิ่งจากแอฟริกาได้ทั้งคู่ ความรู้สึกของเขาเมื่อเขาเส้นชัยคือ “ไม่เชื่อว่าตัวเองทำได้”
เขาเอาธงชาติอิตาลีพาดไหล่และวิ่งฉลองชัยไปรอบสนาม 1 รอบ พอวิ่งเสร็จ เขาก็หันมามองทางโค้ช น้ำตาคลอ พร้อมกับพูดว่า “ได้โปรดขอน้ำให้ผมสักแก้ว”
และเมื่อโบร์ดินยืนบนแป้นชัย ฟังดนตรีบรรเลงเพลงชาติอิตาลี น้ำตาเขาก็ไหลพรากออกมานองสองแก้ม

โบร์ดิน ซึ่งเป็นนักต่อต้านการใช้ยาโดปในนักกีฬาผู้หนึ่ง ได้กล่าวคำพูดที่คงจะเป็นอมตะตลอดไปว่า
พวกคุณเชื่อได้เลยว่าเหรียญทองเหรียญนี้ไม่มียาโดปใดๆเจือปน ผมต้องการให้ทุกคนรู้ว่า คุณสามารถเป็นแชมป์โอลิมปิกได้ โดยไม่ต้องยาช่วยขอเพียงแต่ให้คุณมีความตั้งใจและอุทิศกายใจอย่างจริงจังเท่านั้น”

หมายเหตุผู้รายงาน : เกือบลืมบอกไปว่า โบร์ดินอายุ 29 ปี เป็นชาวอิตาลี มีอาชีพเป็นนักสำรวจ สถิติวิ่งมาราธอนของเขาคราวนี้คือ 2 : 10 : 32 ดีมากสำหรับสภาพอากาศร้อนและชื้นคราวนี้

 

ข้อมูลสื่อ

118-025
นิตยสารหมอชาวบ้าน 118
กุมภาพันธ์ 2532
ไขข่าววิ่ง
นพ.กฤษฎา บานชื่น