• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เด็กสี่ขวบ ถึงห้าขวบ


                                       

 

 

 

 

350. นิสัยในการขับถ่าย
เด็กวัย 4-5 ขวบนี้ ส่วนใหญ่ไปเข้าห้องน้ำอุจจาระปัสสาวะและทำความสะอาดตัวเองได้แล้ว แต่มีบางครั้งเด็กเล่นเพลินอยู่ข้างนอกจนเผลอฉี่รดกางเกงเพราะวิ่งเข้าบ้านไม่ทัน บางคนฉี่รดกางเกงแล้วก็ปล่อยเลยตามเลยไม่ยอมเข้าบ้าน เล่นต่อจนกางเกงแห้งไปเอง แม้จะเป็นเช่นนี้คุณแม่ก็ไม่ควรดุว่าเด็กนัก พอโตขึ้นเรื่องแบบนี้ก็จะหายไปเอง เด็กอนุบาลบางคนรังเกียจห้องน้ำที่เฉอะแฉะ และไม่สะอาด จึงทนอั้นเอาไว้ไม่ยอมเข้า ในที่สุดจึงฉี่ราด ห้องน้ำที่สะอาดและสวยงาม จะช่วยจูงใจให้เด็กชอบทำธุระในห้องน้ำ เด็กผู้ชายวัยนี้ยังฉี่รดที่นอนกันมาก แม้ตัวจะโตขึ้นแค่นิสัยในด้านนี้ ยังเหมือนเด็กวัย 3-4 ขวบ (ดูหัวข้อ 312 ฝึกขับถ่าย หมอชาวบ้าน ฉบับที่ 99 หน้า 62-63)

นิสัยฉี่รดที่นอนนั้น เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็หายภายในวัย 6 ขวบ บางคนก็ฉี่รดที่นอนจนถึงชั้นประถมสี่ และยิ่งถูกบ่นว่าก็ยิ่งหายช้า ถ้าเด็กตื่นขึ้นมาทุกเช้าและถูกคุณแม่ต่อว่าที่ฉี่รดที่นอนเพราะโตจนอายุตั้ง 5 ขวบแล้วยังไม่รู้จักระวังเด็กก็ไม่หายจากอาการนี้ เพราะโรคฉี่รดที่นอนนี้ยิ่งกลัวก็ยิ่งฉี่

เด็กบางคนที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ บางครั้งจะทำกางเกงเปื้อนอุจจาระโดยไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้ชาย สาเหตุมีหลายประการ หากเป็นเช่นนี้บ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เด็กเคยเข้าห้องน้ำ ทำธุระได้เองมาก่อนต้นเหตุอาจเกิดจากปัญหาครอบครัวหรือเกิดขึ้นเนื่องจากเด็กถูกตีเมื่อทำเลอะเทอะ จึงไม่กล้าอุจจาระ และอั้นเอาไว้จนกระทั่งถ่ายออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

 

 

351.เลือกอาหาร
เมื่อเด็กเลือกกินแต่อาหารที่ตนชอบ ก็ไม่ควรจะกล่าวหาว่าเด็กเอาแต่ใจตนเอง และถือเป็นเรื่องใหญ่โตประดุจดังเรื่องผิดศีลธรรม และไม่ใช่ความผิดของแม่ที่ไม่ได้หัดให้ลูกชอบอาหารทุกอย่างที่วางตรงหน้า คนเรามีสิทธิ์ที่จะชอบกินของที่ตนชอบ และไม่อยากกินของที่ตนไม่ชอบ ผู้ใหญ่ยังเลือกกินอาหารที่ตนชอบแล้วทำไมเวลาเด็กเลือกอาหารบ้างจึงมีความผิดเล่า

จริงอยู่ผู้ใหญ่มักบังคับให้เด็กกินโน่นกินนี่ เพราะคิดในแง่ของ “โภชนาการ” และกลัวว่าเด็กจะได้อาหารไม่ครบทุกหมู่ อย่างไรก็ดี เราสามารถให้อาหารอื่นทดแทนได้ เช่น เด็กไม่ชอบกินผักสด ก็ให้กินผักต้ม ไม่ยอมกินผักต้มก็ให้ผลไม้แทน ไม่ชอบกินเนื้อก็ให้กินปลา ไม่ชอบกินไข่ก็ให้กินนม เป็นต้น
รสนิยมในด้านดนตรี ศิลปะและวรรณกรรมของคนเรายังแตกต่างกัน รสนิยมในด้านอาหารก็เป็นเรื่องนานาจิตตังเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเด็กวัย 4-5 ขวบนี้ อัตราการเติบโตไม่สูงนัก จึงกินอาหารได้ไม่มาก ควรปล่อยให้กินของชอบมาก ๆ ดีกว่าบังคับให้กินของที่เด็กเกลียดและพาลกินให้นิดเดียว เมื่อเด็กโตขึ้นอยู่ในวัย 14-15 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ร่างกายเติบโตเร็ว เด็กจะเลือกกินน้อยลงมีอะไรก็กินได้และกินเก่ง
หากคุณแม่เข้มงวดกับลูกมากเกินไป และบังคับให้เด็กกินทุกอย่างที่จัดให้ เด็กเห็นคุณแม่เอาจริงเอาจังมาก จะคิดว่าโต๊ะอาหารคือสถานที่ต่อกรกับคุณแม่ บางครั้งจะแกล้งสไตร๊ค์ไม่กินอาหาร ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ของที่ตนเกลียด ควรทำโต๊ะอาหารให้ควรทำโต๊ะอาหารให้เป็นสถานที่รื่นรมย์ของครอบครัว เมื่อทุกคนร่วมกินอาหาร กันด้วยความเพลิดเพลิน ก็จะช่วยให้ลืมความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างพ่อแม่ลูกด้วย

 

 

 

 

352. เรื่องของตัวเองต้องทำเอง
เมื่อเด็กสามารถช่วยตัวเองได้มากขึ้น คุณแม่ก็สบายใจขึ้น อย่างไรก็ตาม การดูแลเด็กนั้นไม่ควรมองจากด้านความสะดวกสบายของคุณแม่หรือพี่เลี้ยงเพียงอย่างเดียว การที่เด็กทำอะไรได้เองจะทำให้เด็กเกิดความมั่นใจ และรู้สึกพึ่งตนเอง ความสำคัญของการปล่อยให้เด็กช่วยตัวเองอยู่ที่ผลทางจิตใจมากกว่าความสามารถทางกาย เพราะฉะนั้น เวลาที่เด็กติดกระดุมเสื้อได้ช้า เราต้องไม่ใจร้อนยื่นมือไปช่วย คุณแม่ที่ชอบทำงานเร็ว ๆ มักรำคาญเมื่อลูกทำอะไรช้า จึงรีบจัดการทำให้ ลูกก็เลยทำเองไม่เป็นหากคนรอบด้าน ไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย เด็กวัย 4-5 ขวบก็สามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้หลายอย่างทีเดียว

เด็กวัยนี้เข้าห้องน้ำได้เอง และทำความสะอาดได้เอง แต่ช่วงแรก คุณแม่ต้องคอบตรวจผลงานสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะหลังจากเด็กถ่ายอุจจาระ เด็กอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันเองได้แล้ว บางคนก็สระผมเองได้ด้วย แต่ผู้ใหญ่ควรช่วยขัดสีฉวีวรรณให้เป็นครั้งคราว โดยเฉพาะบริเวณซอกหู ซอกขา และเท้า รวมทั้งแผ่นหลังซึ่งเด็กเอื้อมมือไม่ถึงด้วย การสวมเสื้อผ้า เด็กก็สามารถทำได้เอง ถ้ากระดุมอยู่ด้านหน้าและไม่เล็กจนเกินไป เสื้อผ้าเด็กวัยนี้ไม่ควรเป็นเสื้อผ่าหลัง เพราะเด็กใส่เองไม่ได้ รองเท้าถุงเท้าเด็กก็สวมเองได้ ยกเว้นรองเท้าที่ต้องผูกเชือก เด็กวัยนี้บางคนยังผูกเชือกไม่เป็น
การล้างมือก่อนกินอาหาร เด็กจะทำตามผู้ใหญ่ หากบ้านไหนผู้ใหญ่ล้างมือก่อนทุกครั้ง เด็กก็จะทำเป็นนิสัยไปด้วย เด็กวัยนี้กินอาหารได้เองโดยไม่ต้องป้อน และควรเริ่มสอนมารยาทในการกินอาหารได้แล้ว
เด็กสั่งน้ำมูกเอง และล้างปากด้วยวิธี กลั้วคอเป็นภายในช่วงอายุ 5 ขวบนี้

หลังจากเล่นของเล่นหรืออ่านหนังสือเสร็จแล้ว ควรสอนให้เด็กเก็บเข้าที่เดิม ดังนั้น ชั้นหนังสือเด็ก และกล่องของเล่นควรอยู่ประจำที่ด้วย อย่างไรก็ดี นิสัยในการเก็บงำของนี้ ค่อนข้างจะเป็นลักษณะเฉพาะตัวของเด็ก ถ้าเด็กไม่ทำก็อย่าเข้มงวดจนเกินไป เพราะจะทำให้เด็กเกิดอารมณ์ต่อต้าน และไม่ยอมทำเอาเสียเลย
โดยทั่วไปแล้ว เด็กจะช่วยตัวเองได้มากหากพ่อแม่อดทนปล่อยให้เด็กทำเอง เด็กที่ไปโรงเรียนอนุบาลจึงพัฒนาด้านนี้เร็ว เพราะอยู่ห่างจากพ่อแม่ และต้องพยายามทำทุกอย่างด้วยตนเอง
 

ข้อมูลสื่อ

118-018
นิตยสารหมอชาวบ้าน 118
กุมภาพันธ์ 2532