• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ตัวอย่างผู้อดยาเสพย์ติดโดยใช้เอ็นดอร์ฟินส์

  
ใน 2 ตอนแรก ผู้เขียนได้เล่าถึง ประวัติความเป็นมาของเอ็นดอร์ฟินส์....ฝิ่นภายใน และฤทธิ์ของมัน ซึ่งมีคุณสมบัติ คล้ายกับฝิ่นธรรมดาหลาย ๆ อย่าง
ผู้เขียนได้กล่าวถึงประโยชน์ของเอ็นดอร์ฟินส์ไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะในแง่ ที่มีผู้นำมารักษายาเสพย์ติด และต่อไปนี้ คือตัวอย่างของผู้ติดยาคนหนึ่งซึ่งได้รับการบำบัดโดยอิงหลักการของ “ ฝิ่นภายใน “
ในหนังสือ “รันเนอร์ส เวิร์ลด์ “ ฉบับเดือน มีนาคม ปีที่ผ่านมามีคำสัมภาษณ์สิงห์ขี้ยาคนหนึ่ง ซึ่งกลับตัวได้โดยใช้การวิ่ง มีข้อความบางตอน น่าสนใจ ผู้เขียนขอถอด และย่อมาให้ดังนี้

 

เริ่มด้วยการ “ ลองยา “ หาความสนุก
บ๊อบบี้ ริชาร์ดสัน (ชื่อสมมติ) เริ่มทดลองยาตั้งแต่ยังเรียนมัธยมปลาย อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้ “ ติดยา “ ต่อมาเขาเข้ารับราชการทหารไปรบเวียตนามที่นั่นเขาเริ่มใช้ยามากขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่า“ผมชอบมัน “ ยาที่ใช้มีตั้งแต่ บาร์บิตูเรท กัญชา และยาฝิ่น แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น “ ติดยา “เสียทีเดียว
เมื่อเขากลับมาจากสงครามเวียตนามทุกสิ่งเปลี่ยนไป เขาเริ่มรู้สึกว่าชีวิตครอบครัวและการงานไม่มีความหมายเขาลองใช้ยา บาร์บิตูเรทเป็นประจำและหันเข้าหาแอลกอฮอล์ พอ ถึง พ.ศ. 2514 เขาก็หย่าขาดจากเมีย ทั้งที่ลูกสาวเพิ่งเกิด ทิ้งงานและหันมาค้ายาเสพย์ติด

 

 

ก้าวหน้าไปหาเฮโรอีน
ปีต่อมา เขาฉีดเฮโรอีนให้แกตัวเองเป็นครั้งแรก และก็ติดมันอย่างงอมแงม เมื่อครั้งเขาใช้บาร์บิตูเรท เขามีความรู้สึกซึมเซา เมายา แต่เฮโรอีนทำให้เขาล่องลอยไปในสวรรค์ชั้นวิมานแมน ในเวลาไม่ช้าไม่นาน เขาต้องจ่ายค่าเฮโรอีนให้แกตัวเองถึงวันละ พันกว่าบาท และเริ่มค้า เฮโรอีน จนถูกตำรวจบุกเข้าจับถึงในบ้าน แต่โชคดี ที่รอดตะรางมาได้ เพราะหลักฐานอ่อน
ชั่วเวลา 2-3 เดือนต่อมาเขาต้องขายบ้านเพื่อนำมาซื้อเฮโรอีน ซึ่งเขาต้องใช้มันหนักข้อขึ้นทุกที แต่พอมาถึงระยะนี้ เขาไม่แคร์อะไรอีกแล้ว พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าราคาถูก และดำรงชีพอยู่ได้จากเงินขายบ้านและการขู่กรรโชก เขาตกเป็นทาสของเฮโรอีนอย่างถอนตัวไม่ขึ้น นาน ๆที เขาจะหยุดใช้มัน เพราะเงินขาดมือหรือเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อ “การพักผ่อนชั่วคราว“ หรือบางทีก็หันไปใช้ยาอื่น เป็นการ “หลอกตนเอง“ ว่า เขาไม่ได้เป็นทาสของเฮโรอีน แต่ทุกครั้งเขาต้องกลับมาหา”มัน” ในที่สุด

 

 

ชีวิตคนจรหมอนหมิ่น
ชีวิตของเขาในช่วง 7-8 ปี ต่อมา เป็นชีวิตที่ระเหเร่ร่อนจากรัฐหนึ่งไปอีกรัฐหนึ่ง เพื่อหลีกลี้หนีเจ้าหนี้ หนีความอับโชค และหนีตัวเอง แต่ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เฮโรอีนคงติดตามเขาไปตลอด เขาจะหางานทำชั่วประเดี๋ยวประด๋าว เพียงเพื่อหาเงินมาซื้อยา และเข้าโรงพยาบาลเป็นระยะ ๆ เมื่อถูกตำรวจจับได้ หรือเมื่อป่วยอย่างมากพอแข็งแรงดี ก็ออกมาใช้ชีวิตอย่างเดิมอีก
ครั้งหนึ่งเขาร่วมกับแก๊งยาเสพย์ติดในเมืองลอสแองเจลิส แก๊งนี้ช่วยกันทำทุกอย่างเพื่อจะให้ได้เงินมาซื้อเฮโรอีน ทั้งลักเล็กขโมยน้อย ฉกชิงวิ่งราว ค้ายาเสพย์ติด ฯลฯ กระทั่งวันหนึ่ง พวกนี้วางแผนปล้นธนาคาร โชคดีที่บ๊อบบี้ถอนตัวออกมาเสียก่อนหน้านั้น
ราวปี 2523 บ๊อบบี้ใช้ยามากขึ้น ตกวันละประมาณ 2,000 บาท เนื่องจากเขาไม่สามารถหาเงินค่ายามาได้เพียงพอ จึงต้องหันเข้าหา “ยาแทน“ เช่น โคดีอีน ผสมกับ โดราแดนส์ เขาหลงใหลในส่วนผสมนี้ ใช้มันมากจนเกิดอาการชักกระตุก จึงต้องเข้า โรงพยาบาลอีกครั้ง

 

 

เริ่มมองเห็นปัญหา
โรงพยาบาลแห่งนี้ มีวิธีการแปลกกว่าที่อื่น ซึ่งเขาเคยเข้ารักษาตัว ก่อนนี้โรงพยาบาลเป็นเพียง ที่รักษาการติดยา ของเขาเท่านั้น แต่ที่นี่ มีคนสอนให้เขารู้ว่า เขาเป็นคน
“มีปัญหา“ ปัญหาที่ว่าเกี่ยวกับ ฤทธิ์ของยาเสพติด ก่อนหน้านี้เขาเคยสงสัยว่า ตัวเองมีปัญหาเหมือนกัน แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับจิตใจ เช่นว่า บ๊องไปหน่อย ประสาทไปนิด แต่ไม่เคยฉุกคิดเลยว่า ตัวปัญหาอยู่ที่ ผลของยาต่อความรู้สึกเขาเอง
กล่าวคือ เขาได้หลงใหลได้ปลื้มใน “ รสยา “ เสียจนไม่อาจพาตัวเองหนีออกมาจากรสชาติอันโอชะนี้ได้

 

 

หยุดได้นานกว่าทุกคราว
คราวนี้ บ๊อบบี้หยุดยาได้ติดต่อกันนาน 5 เดือน เขาเข้าร่วมในโครงการ “ ฟื้นฟูชีวิตใหม่หลังใช้ยา “ โครงการนี้บังคับให้เขาทำงานหนักตลอด เพื่อไม่ให้มีเวลาไปคิดถึงเรื่องยา วิธีนี้อาจได้ผลดีกับบางคน แต่กับบ๊อบบี้งานหนักทำให้เขามีเงิน มีเป็นจำนวนมากเสียด้วย และเมื่อเขามีเงินเมื่อไหร่โอกาสร้าย ๆ มักจะตามมา

 

 

เพื่อนเก่านำ “ ปีศาจ “ มาให้
วันหนึ่งเพื่อนเก่าสมัยติดยา จ่ายค่าซ่อมประปาเป็น ยาดาโลต้า (ยาเสพย์ติดชนิดหนึ่ง ) 1 ขวด บ๊อบบี้จัดการกับยาทั้งหมด ( ราว 28 เม็ด ....เพียงพอที่จะฆ่าคนธรรมดาได้ ) ภายในวันเดียว ดาโลต้าเข้าไปปลุกปีศาจเฮโรอีนที่แฝงตัวอยู่ให้แผลงฤทธิ์ขึ้นมาอีก ในไม่ช้าเขาก็กลับเป็นบ๊อบบี้คนเดิม และเนื่องจากว่าคราวนี้เขามีเงินมาก จึงเสพเฮโรอีนหนักยิ่งไปกว่าเก่าเขาใช้เงินค่ายาราววันละ 2,300 บาท เรียกว่าวัน ๆไม่ทำอะไรนอกจากฉีดยาเข้าไป เคลิ้มอยู่ในโลกของยา พอสร่างก็ทำซ้ำใหม่ เวียนไปเช่นนี้ทั้งวัน ไม่ช้าชีวิตของเขาก็ตกอยู่ในวัฏจักรเก่า ๆ ของเฮโรอีน สลับยา ( เสพย์ติดอื่น ๆ ) สลับเหล้า สลับเข้าโรงพยาบาล

พอเข้าโรงพยาบาลครั้งใด บ๊อบบี้จะถูกพูดใส่หน้าว่า “ เป็นโรคติดยา “ ซึ่งเขารับไม่ได้ และรู้สึกโกรธมาก พอออกจากโรงพยาบาล เขาจะหาเหล้ากินทันที และเมาเหล้า เมายาต่อไป
พ.ศ. 2525 บ๊อบบีมีสภาพเหมือนศพ เขานอนแซ่วอยู่บนเตียงเป็น เวลา 3 วัน กินข้าวกินน้ำไม่ได้ และคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย.

( โปรดอ่านต่อฉบับหน้า บ๊อบบี้จะพบชีวิตใหม่อย่างไร )

 

 

 

ข้อมูลสื่อ

71-017
นิตยสารหมอชาวบ้าน 71
มีนาคม 2528
อื่น ๆ
กาแลคติก้า