• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เด็กวัยหนึ่งขวบถึงขวบครึ่ง

                                
 


การเลี้ยงดู
248.อาหารของเด็กวัยนี้
ระยะอายุ 1 ขวบถึง 2 ขวบ น้ำหนักของเด็กจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 กิโลเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าช่วงหนึ่งขวบถึงขวบครึ่งน้ำหนักเด็กจะเพิ่ม 1 กิโลกรัม ช่วงฤดูร้อนน้ำหนักเด็กอาจเพิ่มน้อยมาก และมาเพิ่มเร็วในช่วงที่อากาศเย็นสบาย เพราะเด็กกินอาหารได้มากขึ้น

เมื่อเด็กอายุเกิน 1 ขวบและร่วมรับประทานอาหารกับคุณพ่อคุณแม่แล้ว ความแตกต่างในเรื่องการกินอาหารของเด็กแต่ละคนจะปรากฏชัดขึ้น ไม่มีมาตรฐานใดใดที่กำหนดว่าเด็กจะต้องกินเท่านั้นเท่านี้ เด็กส่วนใหญ่ไม่ค่อยกินข้าว แต่มีเด็กบางคนซึ่งกินเก่งมากจนทำให้คุณแม่ซึ่งมีลูกกินน้อย เกิดความเป็นห่วงลูกของตน เราลองมาเปรียบเทียบรายการอาหารของเด็กกินเก่งกับเด็กกินน้อยดู

เด็กกินเก่ง

9.00 น.     ขนมปัง (2 แผ่น) นม 1 ขวด(180 ซีซี) ตับบด ผลไม้
12.00 น.   ข้าว (2 ถ้วย) ไข่ 1 ฟอง ไส้กรอก ผัก
15.00 น.   ขนมปังกรอบ นม 1 ขวด
18.00 น.   ข้าว (2 ถ้วย) ปลาหรือเนื้อ ผัก
20.00 น.   นม 1 ขวด


เด็กกินน้อย

8.30 น.      นม 1 ขวด
10.00 น.    ขนมปังกรอบเล็กน้อย
12.00 น.    ข้าวไม่กี่ช้อน ไส้กรอก ไข่ ผัก
15.30 น.    นม 1 ขวด
18.00 น.    ข้าวไม่กี่ช้อน ปลา ผัก
21.00 น.    นม 1 ขวด

เด็กกินเก่งเป็นเด็กที่กินนมเก่ง มาตั้งแต่เล็ก น้ำหนักตอน 1 ขวบ มากกว่า 10 กิโล เด็กกินน้อยนั้นกินน้อยมาตั้งแต่สมัยแบเบาะ ดูดนมไม่เคยหมดขวบ พออายุได้ 1 ขวบ ก็หนักประมาณ 8 กิโลเท่านั้น คุณแม่ของเด็ก ทั้งสองคนต่างสนใจเรื่องอาหารของลูกทั้งคู่ การปรุงอาหารและให้อาหารลูก ก็ไม่ต่างกันเท่าไร ความแตกต่างอยู่ที่ตัวเด็กเองมากกว่า


แต่ถึงแม้จะเป็นเด็กกินไม่เก่ง แกก็เจริญเติบโตตามอัตภาพของแก เพราะถึงแกจะกินข้าวน้อย แต่แกก็ชอบกินนมและไข่ ตามหลักโภชนาการแล้วเด็กช่วงอายุ 1-2 ขวบ ควรได้รับโปรตีน วันละประมาณ 400 กรัม (ควรเป็นโปรตีน จากสัตว์สักครึ่งหนึ่งด้วย) แต่บางท้องถิ่นที่กันดาร เด็กได้รับโปรตีนไม่ถึงวันละ 15 กรัมก็มี เด็กที่มีกิน แต่มีนิสัยกินน้อยนั้น ส่วนใหญ่จะได้โปรตีนวันละมากกว่า 30 กรัม ซึ่งปริมาณขนาดนี้เด็กน้ำหนักขนาด 8 กิโลพอจะอยู่ได้

แต่ถ้าคุณแม่ว่าสาเหตุที่ลูกไม่กินข้าวเป็นเพราะกินนมมากไป จึงลดนมเหลือเพียงขวดเดียว ในกรณีนี้ถึงเด็กจะกินข้าวเพิ่มเป็น 2 ถ้วย ปริมาณโปรตีนก็ยังขาดอยู่ กรดอะมิโนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเด็ก กรดนี้มีอยู่ในไข่ ปลา เนื้อและนม ฯลฯ ซึ่งเป็นโปรตีนจากสัตว์แต่มีน้อยในข้าว แป้ง หรือก๋วยเตี๋ยวเพราะฉะนั้น เด็กที่กินน้อย ควรกินนมและไข่ ส่วนข้าวนั้น กินน้อย ๆ ก็ได้ ถ้าจะให้ดี ควรหัดให้เด็กกินข้าวกล้องซึ่งมีโปรตีนมากกว่าข้าวขาวหลายเท่า

คนสมัยก่อนมักเน้นเรื่องกินข้าวมาก เพราะข้าวเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ แต่ข้าวซึ่งถูกขัดสีจนขาวสมัยนี้มีโปรตีนน้อยกว่าข้าวซ้อมมือมาก ถ้าที่บ้านไม่ได้กินข้าวกล้อง คุณพ่อคุณแม่ควรเน้นให้ลูกกินกับข้าวประเภทโปรตีนจากสัตว์ เช่น ปลา เนื้อ ไก่ ไข่ ฯลฯ ถ้าเด็กไม่ค่อยยอมกินกับข้าว ก็ต้องทดแทนด้วยนมที่จริงรู้จักกินให้พอเพียงตามความต้องการของร่างกายของตน ถ้าเราให้อาหารเด็กในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กมีจิตใจจดจ่ออยู่กับการกิน จิตใจไม่วอกแวกห่วงเล่น เด็กจะกินเท่าที่ร่างกายของแกต้องการ เด็กวัยนี้ ถ้าเราไม่อยากให้แกเล่นระหว่างกินอาหาร ควรให้นั่งกินที่โต๊ะอาหาหรือ ในเก้าอี้หัดเดิน เวลาร่วมวงรับประทานอาหารพร้อมกันทั้งบ้าน คุณพ่อต้องร่วมมือช่วยป้อนด้วย เด็กจึงจะสนใจกินอาหารดี

ตามปกติ เด็กวัยขวบครึ่งกินอาหาร 3 มื้อ และนมอีก 2 ขวด สำหรับเด็กที่ไม่ค่อยกินข้าว ควรเพิ่มนมเป็น 3 ขวด การให้นมตอนกลางวันอย่าให้ดูดจากขวด ให้เด็กดูดจากหลอดหรือใส่ถ้วยให้ดื่ม แต่เด็กวันนี้มีจำนวนมากที่ไม่ยอมห่างขวดนม เวลาดื่มน้ำหรือน้ำผลไม้เด็กยอมดื่มจากถ้วยโดยดี แต่ถ้าเป็นนมจะต้องดูดจากขวด การให้ดูดจากขวดสะดวกตรงที่นมไม่หก และทิ้งเด็กไว้กับขวดนมจนหลับไปเองได้
สำหรับเด็กที่ยังติดขวดนมอยู่ตอนกลางคืนคงต้องให้นมด้วยขวดเพราะถ้าให้แกเลิกกะทันหัน เด็กจะดูดมือหรือดูดผ้าห่มซึ่งสกปรกกว่าจุกนมเสียอีก การหย่าขวดต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป

เด็กอายุหนึ่งขวบถึงขวบครึ่ง ยังเป็นช่วงหัดใช้ช้อนกินอาหาร เวลาเด็กใช้ช้อนตักอาหารเอง แกจะทำหกเลอะเทอะเต็มไปหมด แต่เมื่อเด็กสนใจจะใช้ช้อนตักกินเอง คุณแม่ต้องสนับสนุนแน่นอน เด็กวัย 1 ขวบ ยังไม่สามารถตักอาหารกินเองได้ทั้งหมด ถ้ารอให้แกกินเองคงเสียเวลามาก คุณแม่ควรให้แกนั่งที่โต๊ะ ส่งช้อนให้ตักข้าวกินเอง และคุณแม่คอยป้อนกับข้าวให้เวลาในการกินอาหารแต่ละมื้อ ไม่ควรเกินครึ่งชั่วโมง

เด็กบางคนชอบเล่นระหว่างกินอาหาร เป็นเพราะแกหมดความอยากกินเสียแล้ว คุณแม่ควรพอแค่นั้น ถ้าปล่อยให้แกเล่นไปกินไป กว่าจะหมดชามเป็นชั่วโมง 3 มื้อ 3 ชั่วโมง รวมเวลานอนและเวลาอาหารว่างเข้าไปด้วยก็เกือบหมดวัน เด็กเลยมีเวลาเล่นออกกำลังกายได้น้อย ซึ่งมีผลให้แกไม่ค่อยหิว จึงกินน้อย สาเหตุที่ทำให้เด็กไม่อยากกินกลางวันนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะคุณแม่บังคับให้แกกินอะไรที่ไม่ชอบ เมื่อแกถูกบังคับให้กินอะไรที่ไม่ชอบ เมื่อถูกบังคับให้อยู่ในโต๊ะอาหารนั้นๆนานๆบ่อยๆ เข้า เด็กจะเกิดความเบื่อ ไม่อยากกินข้าวขึ้นมาทันทีที่เห็นโต๊ะอาหาร
 

249.ขนมสำหรับเด็ก
เด็กวัยนี้ส่วนใหญ่ชอบกินขนมแต่มีเด็กบางคนซึ่งไม่ชอบขนมหวานจำพวกขนมต้มน้ำตาลหรือขนมเค้กและอยู่ได้โดยไม่ต้องกินขนมเลย ที่จริงขนมเป็นเพียงสิ่งที่เพิ่มความสุขให้เด็ก และให้พลังงานระหว่างมื้ออาหาร ถ้าเด็กไม่ชอบ เราก็ไม่ต้องให้ ให้นมระหว่างมื้อแทน
เด็กเล็กๆไม่สามารถกินข้าวเพียงวันละ 3 มื้อ โดยกินทีละมากๆเพื่อตุนไว้จนถึงมื้อต่อไป เพราะฉะนั้นเด็กซนซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา จึงต้องการขนมระหว่างมื้ออาหารและเนื่องจากน้ำตาลเป็นสิ่งที่ให้พลังงานง่าย ขนมจึงมักเป็นของหวาน

เด็กที่ตื่นแต่เช้าตอน 7 โมงและกินอาหารเช้าตอน 8 โมงกว่าจะถึงมื้อเที่ยง คงต้องการขนมนิดหน่อยตอนสายๆ ส่วนเด็กที่ตื่นสายตอน 9 โมงและกินมื้อเช้าตอน 10 โมงคงไม่ต้องการขนมในช่วงเช้าส่วน
เวลาของว่างในช่วงบ่าย 3-4 โมงนั้นจำเป็นสำหรับเด็กส่วนใหญ่ เรื่องที่ว่าเราควรให้ขนมเด็กแค่ไหนนั้น สำหรับเด็กที่ปกติกินอาหารน้อย คุณแม่ไม่ควรบังคับให้กินข้าว น่าจะเน้นที่กับข้าวและให้ขนมระหว่างมื้อเพื่อเป็นพลังงาน

คุณแม่บางคนคิดว่า การที่เด็กกินขนมพวกของหวานระหว่างมื้อ ทำให้เด็กรู้สึกอิ่มไม่ค่อยยอมกินข้าว จึงงดขนมหรือปริมาณลดลงเหลือเพียงนิดเดียว แต่เด็กก็ยังไม่ยอมกินอาหารมากขึ้นอยู่ดี และถ้าฝืนบังคับให้กินข้าวแกจะไม่กินอาหารพวกโปรตีนจากสัตว์ ดังนั้น เราควรให้ขนมเด็กบ้าง เพราะขนมเป็นของอร่อย แต่ต้องให้อย่างเป็นเวลา ไม่ใช่พร่ำเพรื่อ และให้เด็กกินของชอบพวกปลาหรือไข่ ดีกว่าบังคับให้เด็กกินแต่ข้าวซึ่งแกไม่ชอบ

สำหรับเด็กที่กินเก่ง กินข้าวมื้อละ 2 ถ้วย และกินกับข้าวก็มากไม่ควรให้ขนมหวานระหว่างมื้อ เพราะจะทำให้แกอ้วนเกินไป น่าจะให้ผลไม้แทน
ลูกอมหรือทอฟฟี่เป็นของที่ทำให้ฟันเสีย แต่เป็นของที่เด็กชอบและอมอยู่ได้นานกว่าจะหมด มีน้อยบ้านที่ห้ามลูกไม่ให้กินลูกอมสำเร็จได้อย่างเด็ดขาด และสำหรับคนเบี้ยน้อยรายได้น้อย ลูกอมเป็นขนมราคาถูกที่สุด ซึ่งเด็กสุขใจอยู่ได้นานกว่าขนมอื่นๆซึ่งราคาแพงกว่าสำหรับเด็กที่ไม่ชอบขนมหวานก็ให้ขนมที่ออกรสเค็ม ซึ่งทำจากแป้งและให้พลังงานเช่นเดียวกับน้ำตาล ถ้าคุณแม่อยากให้ลูกกินนมวันละ 3 ขวดคงต้องให้นมขวดหนึ่งในมื้ออาหารว่าง

 

250.กล่อมลูกตอนกลางคืน
นิสัยในการนอนตอนกลางคืนของเด็กนั้นต่างๆ กัน เด็กบางคนเล่นเจี๊ยวจ๊าวอยู่จนกระทั่งง่วงเต็มที่ พอคุณแม่อุ้มปุ๊บก็หลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขน เด็กบางคนเมื่อถึงเวลานอน คุณแม่พาไปนอนพอห่มผ้าให้ แกก็พลิกตัวนอนคว่ำหลับไปเลย เด็กแบบนี้มีจำนวนน้อย เด็กส่วนใหญ่กว่าจะนอนหลับได้ต้องผ่านกิจกรรมหลายอย่าง มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ต้องดูดนมก่อนนอน และดูดไปเรื่อยจนหมดขวดแล้วยังดูดขวดเปล่า จุ๊บ จุ๊บจนหลับไป เด็กบ่างคนคุณแม่ต้องนอนอยู่ด้วยข้างๆ จนกว่าแกจะหลับ บางคนต้องเอามือสอดเข้าไปจับนมแม่เอาไว้ บางคนก็เอานิ้วเล่นผมแม่จนกว่าจะหลับ บางคนยังขอดูดนมแม่อยู่
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายสูงสุดในการกล่อมลูกนอนคือ ให้ลูกนอนเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และคุณแม่ส่วนใหญ่ก็พยายามทุกวิธีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้

มีบางคนกล่าวว่า ไม่ควรให้เด็กดูดนมแม่หรือนมขวดก่อนนอนจนกระทั่งหลับไปเป็นอันขาด คนที่พูดเช่นนี้คงเป็นคนไม่เคยเลี้ยงเด็กซึ่งนอนยากเด็กประเภทนี้ถ้าเราไม่ให้แกดูดนมแม่หรือนมขวดก่อนนอน แกก็จะดูดนิ้วแทน หรือถ้าไม่ดูดนิ้วก็จะดูดชายผ้าห่มหรือผ้าปูที่นอน หรือบางครั้งแกก็ดูดริมฝีปากล่างของแกเอง

การที่เด็กนอนยาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนิสัยของแก และอีกอย่างหนึ่งถ้าเด็กไม่เหนื่อยเต็มที่ แกจะหลับยากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้เด็กนอนยากหลับเร็ว คุณแม่ต้องให้แกออกกำลังกายเต็มที่ในตอนกลางวัน เด็กอายุหนึ่งขวบถึงขวบครึ่งนี้คุณแม่ไม่ต้องกังวลนักถ้าแกนอนหลับยาก เมื่อโตขึ้น เด็กจะเล่นมากขึ้นเหนื่อยมากขึ้น และคงจะเลิกดูดนิ้วหรือดูดริมฝีปากในวันใดวันหนึ่งอย่างแน่นอน

การกล่อมลูกแม่แกตื่นขึ้นมากลางดึก ก็มีเป้าหมายอย่างเดียวกัน คือทำให้แกนอนหลับเร็วท่าสุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าให้ดูดนมแม่แล้วหลับเร็วก็ให้ดูดนมแม่ ถ้าคุณแม่มานอนด้วยแล้วก็สบายใจหลับเร็ว ก็มานอนด้วย หรือให้ดูดนมขวดสัก 100 ซีซี แกจะหลับก็ให้นมขวด ถึงใครจะพูดว่า การทำอย่างนั้นทำให้เด็กติดนิสัยไม่ดี คุณแม่ไม่ต้องตกใจ ขออย่าให้ลูกติดนิสัยตื่นขึ้นมาเล่นกลางดึกเป็นพอ และเมื่อเด็กโตขึ้นอีกหน่อย แกก็คงจะเลิกตื่นกลางดึก เวลาจะช่วยแก้ปัญหาให้เอง คุณแม่อย่ากลัวโน่นกลัวนี่จนต้องทรมานทั้งแม่ทั้งลูก ถ้าห้ามไม่ให้แม่นอนกับลูกตอนกลางคืน ห้ามไม่ให้นมตอนกลางคืน สิ่งที่แม่จะทำได้เมื่อลูกตื่นขึ้นมาร้องกลางดึก ก็มีเพียงอย่างเดียวคือ เล่นกับลูกเท่านั้น และถ้าทำเช่นนั้น เด็กก็จะติดนิสัยตื่นขึ้นมาเล่นกลางดึก ซึ่งแก้ยากกว่านิสัยอื่นๆเป็นไหนๆ.

 

 

 

ข้อมูลสื่อ

70-010
นิตยสารหมอชาวบ้าน 70
กุมภาพันธ์ 2528