อะไรทำให้เกิดมะเร็ง ? |
มะเร็งมีแตกต่างมากมายหลายชนิด และเกิดจากสาเหตุต่างๆ กันออกไป แต่ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา สารที่ทำให้เกิดมะเร็งได้ เรารวมๆ เรียกว่า “สารก่อมะเร็ง”
สารก่อมะเร็งได้แก่อะไรบ้าง ? |
ได้แก่สารบางชนิดทั้งที่พบได้ในธรรมชาติและที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้น รวมทั้งไวรัสบางชนิดและรังสีชนิดต่างๆ เราจะพบปะปนอยู่ทั่วไปในอากาศ น้ำ และอาหาร ทำให้มีโอกาสได้รับเข้าไปโดยการสัมผัสทางผิวหนัง การกิน หรือถูกฉีดเข้าในร่างกาย (ยารักษาโรคบางชนิด จัดเป็นสารก่อมะเร็งได้) แต่อย่างไรก็ดี อย่าวิตกกังวลจนเกินไปว่าสารทุกชนิดจะทำให้เกิดมะเร็งไปหมด และการที่จะหลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็งนั้น เป็นสิ่งสุดวิสัยที่จริงแล้วมีสารเป็นจำนวนน้อยเท่านั้นที่จัดเป็นสารก่อมะเร็ง สารเคมีส่วนใหญ่จะไม่มีฤทธิ์เป็นสารก่อมะเร็ง แม้จะอยู่ในสารพิษที่มีอันตราย
จะป้องกันการเกิดมะเร็งได้หรือไม่ ? |
ได้ ถ้าสามารถหลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็งชนิดต่างๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าทำให้เกิดมะเร็งในคน
ถ้าได้รับสารก่อมะเร็งเข้าไป นานเท่าไรจึงจะเกิดมะเร็งขึ้น ? |
มะเร็งของคนเกิดได้ช้า ส่วนใหญ่กินเวลาราว 5 ถึง 40 ปี ภายหลังได้รับสารก่อมะเร็งแล้วจึงเกิดเป็นมะเร็งขึ้น ระยะเวลาที่นานเช่นนี้ทำให้เป็นการยากที่จะตรวจหาว่า สารใดบ้างเป็นสารก่อมะเร็งในคน
เรามีวิธีตรวจอย่างไรว่า สารใดทำให้เกิดมะเร็งได้ในคน ? |
เป็นการยากที่จะทดสอบโดยตรง ส่วนใหญ่เราใช้ทำในสัตว์ทดลอง โดยให้สารที่สงสัยว่าจะเป็นสารก่อมะเร็งในสัตว์และพบว่าต่อมาสัตว์นั้นๆ เกิดเป็นมะเร็งขึ้นจำนวนมาก แตกต่างจากกลุ่มที่ไม่ได้รับสารนั้น สำหรับในคนเราใช้สถิติที่พบว่าคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสารเหล่านั้นมานานปี จะเกิดมะเร็งขึ้นตาม
อวัยวะต่างๆ แตกต่างชัดเจนจากกลุ่มที่ไม่ได้รับสารนั้น อาศัยทั้ง 2 วิธีนี้ร่วมกันเราจึงสรุปได้ว่า ในขณะนี้มีสารอยู่เกือบ 30 ชนิด ที่ทำให้เกิดมะเร็งได้ในคน และมีอีกกว่า 200 ชนิด ที่มีหลักฐานแน่นอนว่าทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์ แต่ในคนยังไม่พบหลักฐานชัดเจน
ช่วยยกตัวอย่าง สารก่อมะเร็งในคนที่สำคัญ พร้อมทั้งที่มาและชนิดของมะเร็งที่ทราบด้วย
ดูจากตารางที่ 1 และ 2
ตารางที่1 ตัวอย่างสารก่อมะเร็งในคน ที่สถาบันวิจัยมะเร็งนานาชาติยอมรับ
|
อาหารที่มีราบางชนิดขึ้นที่พบมากได้แก่ ถั่วลิสงบด , ข้าวหมาก, เนย, ถั่วเหลือง ,พริกแห้ง หัวหอมและกระเทียมแห้งที่มีราดำขึ้น |
กิน, หายใจ
|
ตับ |
|
| ||
1. สารประกอบที่มีสารหนู |
โรงงานที่เกี่ยวข้อง,ยาฆ่าแมลงและวัชพืชบางชนิด,โรงงานกลั่นน้ำมัน |
หายใจ,กิน,ผิวหนัง |
ผิวหนัง,ปอด,ตับ |
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
น้ำมันดิน( tar) น้ำมันเครื่อง(Oil) |
| |||
| |||
สารก่อมะเร็งทำให้เกิดมะเร็งได้อย่างไร ? |
นี่เป็นเรื่องทีซับซ้อนและมีอยู่หลายทฤษฎีที่เชื่อถือกันอยู่ในปัจจุบันโดยสรุปเข้าใจว่า สารก่อมะเร็ง ซึ่งอาจจะเป็นชนิดที่ออกฤทธิ์ก่อมะเร็งโดยตรง (direct carcinogen) หรือ ออกฤทธิ์โดยอ้อม (indirect carcinogen or procacinogen) คือสารที่อยู่นอกร่างกายไม่มีฤทธิ์ก่อมะเร็งใดๆ แต่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะถูกเปลี่ยนแปลงหรือปลุกฤทธิ์โดยขบวนการเคมีในร่างกายให้มีฤทธิ์ก่อมะเร็งขึ้น สารทั้ง 2 พวกนี้ จะไปทำปฏิกิริยาโดยตรงกับอณูของ ดี เอ็น เอ (DNA เป็นสารถ่ายทอดกรรมพันธุ์ อยู่ใน
เซลล์ของร่างกาย) ทำให้โครงสร้างและหรือการทำงานของดี เอ็น เอ เปลี่ยนแปลง มีผลให้การควบคุมและถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์เสียไป ทั้งหมดนี้จะร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ที่เหมาะสมทั้งภายในและภายนอกร่างกายของแต่ละบุคคล เกิดผลลัพธ์ทำให้มีเซลล์ผิดปกติแบ่งจำนวนขึ้นมาอย่างมากมายกลายเป็นมะเร็งไปในที่สุด
สารก่อมะเร็ง ถ้าได้รับจำนวนน้อยมากๆ จะยังเกิดมะเร็งได้ไหม ? |
ได้ แต่พบในอัตราที่ต่ำลงไป จากการศึกษาในขณะนี้พอตอบได้ว่า ถ้าได้รับสารก่อมะเร็งจำนวนมาก หรือได้เข้าไปรวมๆ กันหลายชนิด จะมีอัตราการเกิดมะเร็งสูงมาก สรุปได้ว่า ทุกขนาดของสารก่อมะเร็ง แม้จะน้อยที่สุดก็ตาม จะมีฤทธิ์ก่อมะเร็งได้เสมอ
จะมีทางหลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็งได้อย่างไร ? |
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องมีความรู้ก่อนว่า สารก่อมะเร็งนั้นจะพบจากที่ใดบ้าง ถ้าดูจากตารางสารก่อมะเร็งแล้วจะพบว่าทางได้รับมี 2 ทางใหญ่ๆ คือ โดยปะปนมาในอาหารและยาบางชนิด ซึ่งถ้าทุกคนตระหนักว่าอาหารประเภทใดมีสารก่อมะเร็งปะปนอยู่มาก การหลีกเลี่ยงก็คงจะทำได้ง่ายขึ้น เช่น ควรงดอาหารที่มีผงเชื้อราบางชนิดมาก (ตัวอย่างอาหารดูในตารางที่ 1 ก.)อาหารหมักดองหรือใส่สีอันตรายเจือปน, อาหารปิ้ง เผาไหม้เกรียมอยู่นานๆ รวมทั้งงดบุหรี่ด้วย
อีกทางหนึ่งได้จากงานอาชีพ เช่น โรงงานอุตสาหกรรมเคมี เครื่องจักรต่างๆ ในหัวข้อนี้ต้องการความร่วมมือหลายๆ ฝ่ายตั้งแต่ระดับรัฐบาล, ชุมชน, เจ้าของโรงงานนั้น จนถึงระดับบุคคลที่มีโอกาสสัมผัสกับสารก่อมะเร็งเหล่านี้ ทุกฝ่ายต้องตระหนักถึงอันตรายและความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อหามาตรการป้องกันที่ปลอดภัยแก่ส่วนรวมและส่วนบุคคลโดยเข้มงวด
นอกจากหลีกเลี่ยงแล้ว จะมีทางกำจัดสารก่อมะเร็งได้หรือไม่ ? |
ได้ ถ้าสารเหล่านั้นตรวจพบนอกร่างกาย เราอาจทำลายได้โดยขบวนการเคมีหรือฟิสิคส์ต่างๆ จนหมดฤทธิ์ก่อมะเร็งได้ แต่ที่สำคัญอย่างยิ่งแก่เรา ก็คือการลดฤทธิ์หรือทำลายสารก่อมะเร็งที่ร่างกายบังเอิญได้รับเข้ามาแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็งขึ้น วิธีการดังกล่าวยังไม่มีใครอธิบายได้แน่ชัดลงไปพอพูดรวมๆ ได้ว่าเกิดจาก
ก. ภูมิต้านทานของร่างกายต้องปกติ มีภาวะโภชนาการที่ดี กินอาหารถูกส่วน รวมทั้งไวตามินครบถ้วน
ข. สารทำลายสารก่อมะเร็งและสารต่อต้านสารมะเร็ง
ปัจจุบันมีการศึกษาสารทั้ง 2 กลุ่มอย่างกว้างขวางในต่างประเทศ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในขณะนี้ พบว่ามีสารสกัดในพืชและผักหลายชนิดรวมทั้งไวตามินบางตัว (เช่น เอ,บี, ซี, อี) สามารถทำลายฤทธิ์ของสารก่อมะเร็งได้ แม้จะเป็นการศึกษานอกร่างกาย แต่ก็เป็นความหวังว่า ในอนาคตเราอาจค้นพบสารที่จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้
การป้องกันการเกิดมะเร็ง กำลังได้รับการศึกษาและวิจัยอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้ เพราะเป็นการคุ้มค่าอย่างที่สุด ถ้าเราสามารถป้องกันคนสุขภาพดี มิให้เป็นโรคมะเร็งขึ้นมาได้ การตรวจพบสารก่อมะเร็งชนิดต่างๆ พร้อมทั้งรายละเอียดเพื่อให้เราทราบวิธีหลีกเลี่ยงได้นั้น นับเป็นก้าวหนึ่งของความสำเร็จในการที่จะป้องกันการเป็นมะเร็งได้อย่างแน่นอนต่อไป อย่าได้หมดกำลังใจไปเสียก่อนว่า อะไรๆ ที่อยู่รอบตัวเรานี้ทำให้เกิดมะเร็งไปเสียหมดเพียงแต่เราพยายามหลีกเลี่ยงหรือลดจำนวนสารก่อมะเร็งที่อาจได้รับในแต่ละวันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ท่านก็จะมีโอกาสอยู่ห่างจากโรคมะเร็งได้ไกลแสนไกล และขออวยพรให้ทุกท่านที่สนใจและปฏิบัติตามจงประสบโชคดีตลอดไป
- อ่าน 14,361 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้