• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

"ไข้หวัดใหญ่"Žมหันตภัยเงียบสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง!

ช่วงนี้หลายท่านตื่นกลัวต่อการแพร่ระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งปัจจุบันได้แพร่ระบาด ไปทั่วโลกจำนวน 30 กว่าประเทศ ในส่วนของประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขออกมายืนยันแล้วว่าคนไทย 2 ราย ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จากประเทศเม็กซิโก ขณะนี้หายเป็นปกติ ไม่มีเชื้อในร่างกายแล้ว และมีความปลอดภัยต่อผู้อื่น รวมถึงผู้ใกล้ชิดของผู้ติดเชื้ออีก 7 ราย ทุกรายเป็นปกติไม่มีอาการป่วย แม้ว่าจะยังไม่มีการติดเชื้อในประเทศไทย แต่ก็จะประมาทไม่ได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การรักษาความสะอาด "กินของร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ" การดูแลสุขภาพ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับการแพร่กระจายไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เช่นเดียวกับไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ เป็นการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อนอยู่ในฝุ่นละออง ติดต่อโดยการไอหรือจาม เชื้อจะเข้าทางเยื่อบุตาและปาก สัมผัสเสมหะของผู้ป่วยทางแก้วน้ำ ผ้า จูบ สัมผัสทางมือที่ปนเปื้อนเชื้อโรค จากการหยิบจับสิ่งของเครื่องใช้หรือของร่วมกับผู้ป่วย บุคคลอื่น และเครื่องใช้ในที่สาธารณะ เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ลูกบิดประตู ราวโหนบนรถเมล์ ราวบันได แล้วใช้มือที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสมาขยี้ตา แคะจมูก และเข้าปาก การสังเกตคือ หากมีไข้ (อุณหภูมิร่างกายมากกว่า 38 องศาเซลเซียส) ร่วมกับไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหัว อ่อนเพลีย ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจพบภาวะหายใจผิดปกติ (หอบ หายใจลำบาก) ผู้มีอาการลักษณะดังกล่าวต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

จะเห็นได้ว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นในฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งสามารถติดต่อได้ง่ายและมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจ และระบบอื่นๆ ที่อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแออยู่ก่อนแล้ว เพื่อป้องกันอันตรายจากการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำโครงการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ปี พ.ศ.2552 ให้กับผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยง ทุกกลุ่มอายุ ทุกสิทธิ ซึ่งป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ ไตวาย หลอดเลือดสมอง มะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด และเบาหวาน ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 ติดต่อขอรับบัตรนัดฉีด "วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่" โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ที่โรงพยาบาลของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการ

"สปสช. ให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่ผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยง ทุกกลุ่มอายุ ทุกสิทธิซึ่งป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ ไตวาย หลอดเลือดสมอง มะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด และเบาหวาน เพื่อให้มีภูมิต้านทานไม่เจ็บป่วยรุนแรง ไม่เกิดอาการแทรกซ้อนของโรคซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้"Ž
 

ข้อมูลสื่อ

362-018
นิตยสารหมอชาวบ้าน 362
มิถุนายน 2552
อื่น ๆ
นพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ