• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ครูแมว-ชลทิพย์ นาคาสัย ชีวิตเปลี่ยน… เมื่อได้ฝึกโยคะ

ครูฝึกโยคะ ค้นพบสิ่งที่ชีวิตต้องการ ยอมทิ้งงานประจำเพื่อทุ่มเทให้กับสิ่งที่รัก หันมาใช้ชีวิตเรียบง่าย พอใจในสิ่งที่มี ไม่ต้องดิ้นรนให้ใจทุกข์ กายทุกข์ สุขภาพกาย จิต อารมณ์ ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

รู้จักโยคะตอนแรก
        คุณชลทิพย์ นาคาสัย หรือครูแมว อายุ ๔๑ ปี ปัจจุบันเป็นครูฝึกโยคะตามโรงพยาบาลต่างๆ เริ่มแรกที่รู้จักและสนใจโยคะนั้น เพราะเคยทำงานแวดวงหนังสือสุขภาพที่ “หมอชาวบ้าน” มาก่อน
        “จากงานที่ทำอยู่ตรงนั้น ได้ซึมซับเรื่องสุขภาพไปในตัว การได้อ่านข้อมูลไปมากๆ คิดว่าตัวเราสามารถพึ่งตัวเองได้อย่างแท้จริง และถูกต้องคืออะไรบ้างที่เหมาะกับตัวเองจึงทดลองไปเรื่อยๆ เช่น ชี่กง ไท้เก๊ก ลองมาหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำจริงจังมากนัก
        เรื่องของโยคะก็ทดลองด้วยตัวเองก่อน จริงๆ แล้วก็อยู่ในงานที่ทำด้วย ถ้าจะบอกคนอื่นว่าโยคะ... ดีนะ แต่เราไม่ได้ฝึก ไม่เชื่อ เหมือนไม่จริงใจนะ แล้วจะบอกคนอื่นอย่างสนิทใจได้อย่างไร ถ้าตัวเราไม่เคยฝึกเลย... นี่แหละจุดเริ่มต้นของการฝึกโยคะ
        โชคดีมากๆ เลยที่มีโอกาสเจอครูกวี คงภักดีพงษ์  ที่สถาบันโยคะวิชาการ มูลนิธิหมอชาวบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องง่ายที่จะได้ฝึกโยคะทุกวัน ฝึกได้ด้วยตัวเอง แต่ช่วงแรกต้องใช้ความจำเล็กน้อย และก็ไม่ได้ฝึกท่าอะไรที่พิสดาร ฝึกเฉพาะท่าที่จะใช้เท่านั้น”

จากผู้ตามกลายเป็นผู้นำ
        ช่วงแรกที่ครูแมวได้ฝึกโยคะที่อาศรมแสงกวี โดยมี ครูฮิโรชิกับครูฮิเดโกะ ไอคาตะ ครูญี่ปุ่นมาเป็นอาจารย์เริ่มต้นของโครงการโยคะเพื่อสุขภาพสมัยแรก
        “จากการทำงานหนังสือสุขภาพอยู่แล้ว ทำให้รู้ว่าตัวเองอาจจะเหมาะกับโยคะ และสามารถฝึกได้ทุกวัน อีกทั้งมีโอกาสได้ทำงานกับครูกวี ก็เริ่มเข้าไปสู่การฝึก ตอนแรกก็ฝึกกับครูกวีก่อนที่อาศรมแสงกวี และมีครูฮิโรชิกับครูฮิเดโกะ ไอคาตะ ครูญี่ปุ่น ก็ได้อาจารย์ทั้ง ๓ ท่านมาเป็นอาจารย์เริ่มต้นของโครงการโยคะเพื่อสุขภาพสมัยแรก ที่ทำกับมูลนิธิหมอชาวบ้าน ซึ่งครูกวีเป็นเหมือนกับหัวหน้าทีมและก็ครูญี่ปุ่นเป็นอาจารย์ของครูหลักที่จะสอน
        ต่อมามีการตั้งโครงการโยคะเพื่อสุขภาพ และเริ่มผลิตครูโยคะขึ้นมา ในฐานะที่อยู่ตรงนี้ร่วมด้วยช่วยกันกับครูกวี ก็เลยขอไปฝึกเป็นรุ่นแรกเรียกว่าเป็นรุ่นทดลอง ถ้ารุ่นแรกดี... ผ่าน ก็อาจมีครูรุ่นต่อๆ มาอีก การฝึกโยคะรู้ว่าดี แต่ก็ยังไม่มีความรู้มากพอที่จะไปสอนคนอื่นได้
        ตอนนี้ก็ได้เริ่มโปรแกรมสอนโยคะ ๘ ชั่วโมง แบ่งเป็น ๔ ครั้ง วันละ ๒ ชั่วโมง สามารถสอนได้ทุกเพศทุกวัย เพราะท่าที่สอนเป็นท่าพื้นฐานและปลอดภัย ฝึกแล้วต้องปรับตัวไปตามอายุด้วย เช่น อายุประมาณนี้จะฝึกท่าแบบนี้ได้ แต่พออายุมากขึ้นอาจจะฝึกท่านี้ได้ไม่เหมือนเดิม ด้วยข้อจำกัดของร่างกาย ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น ด้วยแนวการฝึกที่ค่อยๆ ลดลงก็ได้ 
        สำหรับคนที่สนใจฝึกโยคะ อันดับแรกควรหาครูที่ศรัทธา ไม่ต้องเรียนจากหนังสือเพราะหนังสือตอบคำถามอะไรไม่ได้ ส่วนครูจะมีเสน่ห์ตรงความใกล้ชิด คุยได้ ถามได้ การมีครูทำให้มีความมั่นใจในการฝึกและสามารถเป็นแบบอย่างได้
        ด้านเวลาที่เป็นปัญหาสำหรับคนอยากฝึกแต่ไม่มีเวลานั้น สามารถใช้เวลาพักกลางวันฝึกแค่ครึ่งชั่วโมงฝึกโยคะก็ได้ครบทุกกระบวนท่าแล้ว... และมีเวลาพักเรื่องงาน มีพื้นที่ในการเคลียร์ปัญหาขณะฝึกโยคะได้”

โยคะ... เปลี่ยนชีวิต
        จากที่ครูแมวเคยเป็นโรคภูมิแพ้ ต้องพึ่งหมอพึ่งยาตลอด ตอนนี้ครูแมวไม่ต้องพึ่งหมอ อาจจะพึ่งยาบ้างเล็กน้อย ซึ่งถือว่าสุขภาพดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
        “โรคภูมิแพ้ที่เป็นดีขึ้น ไม่ต้องพึ่งยาและพึ่งหมอมากนัก แต่ก็ต้องพึ่งบ้างเวลาที่เราไม่ฝึก ทำให้ดูแลตัวเองได้และมีความสุขมากขึ้น ระบบภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่จริงๆ แล้วในตำราโบราณของโยคะบอกว่าเรื่องของสุขภาพเป็นผลพลอยได้จากการฝึกกาย เพื่อเตรียมฝึกจิต เพราะจุดประสงค์จริงๆ ของโยคะคือต้องการพัฒนาจิต แต่ว่าจิตมันติดอยู่ในกาย ถ้ากายไม่ดีก็ยากที่จะฝึกจิต
        ดังนั้น จึงเริ่มจากอะไรที่ง่ายๆ ก่อน... ถ้ากายพร้อม จิตก็พร้อมที่จะถูกฝึก เพราะฉะนั้นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้สุขภาพไม่ดีจากพฤติกรรมจึงแก้ง่ายกว่าการเป็นมาตั้งแต่พันธุกรรม หรือกรรมพันธุ์ เพียงแค่เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต
        ส่วนด้านอารมณ์นั้นต้องถามคนที่อยู่รอบข้าง เพราะว่าผลตอบรับกลับมาดี ซึ่งแต่ก่อนเป็นคนที่เก็บอารมณ์มาก หากรู้สึกว่ามีอะไรมากระทบแล้วทำให้เครียด จะพยายามเก็บไว้กับตัวเองไม่ให้ไปกระทบคนอื่น และพยายามคลี่คลายก่อนที่จะไปกระทบคนอื่น แต่ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง
        พอฝึกโยคะแล้วเรารู้สึกว่าตรงนี้มันคลี่คลายไปในตัวของมันเอง ไม่ต้องเก็บอะไรมากเหมือนกับว่ามีเวลานิ่งๆ อยู่กับตัวเอง ซึ่งในช่วงเวลาที่ฝึกโยคะนั้น จะมีความใสและความกระจ่างของความคิด พอมีปัญหาอะไรเข้ามาก็สามารถเรียงลำดับได้ดีขึ้น เหมือนการเรียงลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหาถูกร้อยได้ดีขึ้น หรือการจัดการปัญหาดีขึ้น
        การฝึกโยคะจะช่วยให้มีวินัยกับตัวเอง จึงควรฝึกทุกวัน เมื่อฝึกทุกวันก็จะได้รับผลกลับมาโดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดหรือว่าถูกบังคับเพราะเป็นอัตโนมัติ รู้สึกว่ามีความสุขที่ได้ฝึก และปัญหาที่เคยมีเรื่องของจิตใจที่หดหู่หายไป... ร่างกายกับจิตใจเป็นของคู่กัน ถ้ากายดีจิตก็ตามมา ถ้าจิตดีกายก็ตามมา ภาวะอารมณ์ก็ดีขึ้น”
        ครูแมวได้พบสิ่งที่ตัวเองชอบ เรียกได้ว่าเป็นของขวัญสำหรับชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะน้อยคนนักที่จะพบกับสิ่งที่ตัวเองรักและมีความสุข ได้สุขภาพดีกลับมาด้วย ดังนั้น การหาเวลาทำเพื่อสุขภาพกายและจิตวันละเล็กละน้อยอย่างสม่ำเสมอ ผลดีย่อมเกิดขึ้นแน่นอน
 

ข้อมูลสื่อ

382-066
นิตยสารหมอชาวบ้าน 382
กุมภาพันธ์ 2554
เปลี่ยนชีวิต
นิชานันท์ นาไชย