• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

น้ำซ่าส์กับแก๊งขนม ตามใจหารสองเพื่อน้องตุ้ม

                                                             

"ลูกตุ้มขา เลิกดูทีวีเถอะ คุณลุงคุณป้ามาเยี่ยม ไปไหว้ทักทายก่อนสิคะ “ไม่ค่ะ กำลังสนุก น้องตุ้มไม่ยอมลุกจากทีวี แถมยังแสดงทีท่ากระฟัดกระเฟียด เมื่อโดนขัดจังหวะในช่วงเวลาความสุข ที่ได้เคี้ยวขนมไปดูทีวีไป”

"คุณลุงคุณป้ามาถึงแล้วนะ โอ้โฮ… มีขนมมาฝากเยอะแยะเลย"
“เหรอคะ” น้องตุ้มอุทาน “สวัสดีก่อนสิ ยังไม่ทันยกมือไหว้เลย คว้าขนมเสียแล้ว" คุณแม่เอ็ดยิ้มๆ
"เถอะน่าไม่เป็นไรหรอก หลานคงอยากกินเยอะๆ ดีออก ตุ้ยนุ้ย น่ารัก น่าชัง" ทั้งคุณลุงคุณป้าดีใจที่เห็นหลานชอบ

"แม่ขา น้ำซ่าส์ของตุ้มหมดแล้ว ขอเพิ่มหน่อยสิคะ"
"เอ้านี่จ๊ะ เอาขวดใหญ่ไปเลยละกัน"
"โอ้โห หลานกินที เป็นลิตรเลยหรือนี่"
คุณลุงแปลกใจ
"บางวันกินคนเดียวเลยล่ะค่ะ ให้กินน้ำเปล่าก็ไม่เอา งอแง” คุณแม่ฟ้อง
คุณพ่อหันมากระเซ้าคุณแม่ว่า
"ไปดูในครัวสิครับ ซื้อยกลังมาเลยแล้วจะให้น้องตุ้มอดใจไหวหรือครับ"

เย็นวันนั้น
หลังจากคุณลุงกับคุณป้ากลับไปแล้ว
น้องตุ้มรู้สึกไม่สบาย ปวดศีรษะ เป็นไข้
คุณแม่จึงนำยาลดไข้มาให้กิน พอตกกลางคืนน้องตุ้มแน่นจมูก
หายใจไม่ค่อยออก ต้องอ้าปากหายใจ แม้ไข้จะไม่ค่อยสูง แต่อึดอัด นอนกระสับกระส่าย แถมยังนอนกรนเสียงดัง
คุณพ่อคุณแม่ต้องมาเฝ้าดูทุกคืน จนเพลียไปตามๆ กัน

รุ่งเช้าจึงพาน้องตุ้มไปโรงพยาบาล คุณแม่เล่าอาการทั้งหมดให้คุณหมอฟัง คุณหมอให้พยาบาลชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และฟังปอด ตรวจท้อง
"น้องตุ้มอายุแค่ ๕ ขวบ ๖ เดือน สูง ๑๑๐ เซนติเมตร น้ำหนัก ๔๑ กิโลกรัม ถือว่าอ้วนมากครับ มีเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบด้วย"

"เยื่อบุจมูกอักเสบ ทำให้น้องตุ้มเป็นไข้ปวดหัวได้หรือคะ"
"ได้สิครับ แล้วอาการแน่นคัดจมูก และนอนกรนจะมากขึ้น เวลาที่ไม่สบาย เดี๋ยวหมอให้ยาไปกินนะครับ"

"ปกติเวลาสบายดี น้องตุ้มเขานอนกรนมั้ยครับ" คุณหมอถามต่อ
"เกือบทุกคืนค่ะหมอ เป็นมานานแล้ว เคยพาไปหาหมอหลายคน ได้ยามากินก็ไม่เห็นดีขึ้นค่ะ"  คุณแม่ตอบ
"เรื่องการนอนกรนเกิดจากหลายสาเหตุ เด็กที่อ้วนมากก็จะเห็นชัด เราจะเห็นว่าเด็กที่อ้วนมากๆ รอบคอ รอบรักแร้ หรือขาหนีบจะดำคล้ำ และมีโอกาสเป็นไขมันในเลือดสูง เป็นเบาหวาน หรือความดันก่อนวัยอันควร คุณพ่อคุณแม่คิดว่าทำไมน้องตุ้มถึงอ้วนครับ" คุณหมอหันมาถาม
คุณพ่อคุณแม่เริ่มวิตกกังวลและตอบว่า
"เขากินเก่ง เบรกไม่อยู่ ถ้าไม่กินก็งอแง เขาเป็นลูกคนเดียว หลานคนเดียว เลยมีแต่คนเอาอกเอาใจน่ะครับ"

"คุณหมอครับ ที่ว่าน้องตุ้มอ้วนมากไป งั้นเขาควรจะมีน้ำหนักที่เหมาะสมสักเท่าไหร่ครับ" คุณพ่อถาม
"น้องตุ้มเขาอายุ ๕ ขวบครึ่ง ควรจะมีน้ำหนักสัก ๒๐ กิโลกรัม แต่ตอนนี้เขาหนักถึง ๔๑ กิโลกรัม ถ้าทางแพทย์ก็ถือว่าเกินภาวะปกติถึง ๒๐๐ เปอร์เซ็นต์"
"เด็กที่น้ำหนักเกินเยอะขนาดนี้ มักจะมีปัญหาระบบทางเดินหายใจแทบทุกคนล่ะครับ"

"เอ่อ แล้วจะให้เขาลดน้ำหนักด้วยวิธีไหนบ้างคะ ที่ไม่อันตรายน่ะค่ะ"
"เราเริ่มกันที่อาหารก่อนก็ได้ครับ ถ้าน้องตุ้มกินเยอะ ก็ให้เลือกอาหารที่กินแล้วไม่อ้วน ประเภท ผัก ผลไม้แต่ ผลไม้ที่มีน้ำตาลเยอะ ก็เลี่ยงๆ ก่อนนะครับ อย่างเช่น มะม่วง ทุเรียน"
"อาหารประเภทเนื้อ นม ไข่ ปลา ก็ยังกินได้ครับ แต่ระยะนี้ควรเลี่ยงของหวาน ของมัน ของทอด ขนมขบเคี้ยว โดยเฉพาะน้ำอัดลม"

"น้ำอัดลมนี่ตัวร้ายเลยนะครับ"คุณหมอพูดต่อ
"เพราะมีน้ำตาลเยอะ พอเรากินเข้าไป ร่างกายเราใช้ไม่หมด ก็จะแปลงสภาพสะสมไว้ในรูปไขมัน คนชอบกินน้ำอัดลม ถึงได้อ้วนเอาอ้วนเอา"
"อ้อ!” ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และน้องตุ้มอุทานพร้อมกัน

   
"ถ้าเป็นไปได้นะครับ หมอว่าต้องชวนกันออกกำลังกายทั้งครอบครัว ออกกำลังกายให้มากขึ้น ลดเวลาดูทีวีลง"
"ลองช่วยกันวางกติกาในบ้านนะครับ ทั้งเรื่องจัดเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อาหารที่กินก็ควรเป็นประเภทเดียวกัน"
"ถ้าให้ดีควรงดซื้อของกินเล่นจุบจิบมาทิ้งไว้ในตู้เย็น หากทำได้สม่ำเสมอ อีกหน่อยก็จะเกิดความเคยชิน เป็นครอบครัวที่ใส่ใจในสุขภาพกันเลยครับ"

"เอาล่ะ พ่อว่า  เรามาตั้งต้นกันดูนะ แล้วพ่อคงจะต้องขอความร่วมมือ จากคุณป้า คุณลุง คุณตา คุณยาย แล้วก็เออ… คุณแม่ที่รัก ต้องลดการตามใจน้องตุ้มลงซักครึ่งหนึ่งในเรื่องการกินนี่แหละ"
"หารสองหรือคะ" คุณแม่ยิ้มออก
 "จ๊ะ น้องตุ้มของเราก็จะได้แข็งแรง ไม่ป่วยออดๆ แอดๆ อย่างนี้นะแม่นะ” “ตกลงค่ะ"คุณแม่พยักหน้า

๓ เดือนผ่านไป

"คุณพ่อคุณแม่คะ ตุ้มเหนื่อยมากเลย หิวน้ำจัง เหงื่อออกขนาดนี้ ตุ้มซัดน้ำอัดลมขวดยักษ์ได้หมดในพริบตาเลยล่ะค่ะ"
"ไม่ค่ะ, ไม่ครับ" คุณพ่อคุณแม่ตะโกนตอบรับพร้อมกันด้วยใบหน้าชื่นสุข

 

ข้อมูลสื่อ

321-010
นิตยสารหมอชาวบ้าน 321
มกราคม 2549
นพ.สุริยเดว ทรีปาตี