เมืองไทยมีผัก ผลไม้ ให้เลือกซื้อเลือกกินตลอดปี แถมมีสรรพคุณยับยั้งมะเร็งได้ เพราะว่าอย่างน้อยผัก ผลไม้มีเส้นใยอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหาร และการขับถ่ายอยู่ในสภาวะสมดุล
บรรดาสารพัดผักที่มีในเมืองไทย สามารถแบ่งได้ ๔ กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ ๑ มะระขี้นก ใบมะม่วง ตังโอ๋ แขนงกะหล่ำ ตะไคร้ ชะมวง โหระพา ใบยี่หร่า แมงลัก ถั่วลันเตา แคบ้าน ผักแว่น ยอดสะเดา (ต้ม) พริก-ไทย มะกรูด ชะพลู ใบพลู ใบยอ ขึ้นฉ่าย ใบบัวบก ผักชี ผักชีฝรั่ง กระชาย ข่า ขิงแก่ ผักเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านการลุกลามขยายตัวของเซลล์มะเร็งได้มากกว่าร้อยละ ๗๐ เซลล์มะเร็งที่เคยขยายตัวได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เจอผักเหล่านี้เข้าไป เซลล์มะเร็งจะเพิ่มจำนวนได้ไม่เกินร้อยละ ๓๐
กลุ่มที่ ๒ หัวไชเท้า ฟัก สะระแหน่ ขี้เหล็ก (ดอก) ยอดสะเดา (สด) หยวกกล้วย พริกหยวก ผักชีลาว ขิงอ่อน ผักเหล่านี้มีฤทธิ์หยุดเซลล์มะเร็งขยายตัวได้ร้อยละ ๕๐-๗๐
กลุ่มที่ ๓ ผักบุ้ง บวบหอม มะดัน ขี้เหล็ก เมล็ดกระถิน มะขาม มะขามเทศ มะเดื่อ มะเขือม่วง มะเขือเทศ มะเขือยาว มะเขือพวง มะอึก กระเจี๊ยบมอญ ผักเหล่านี้มีฤทธิ์น้อยลงมาหน่อยหยุดเซลล์มะเร็งได้ ร้อยละ ๓๐-๕๐
กลุ่มที่ ๔ ผักกูด เห็ดลม เห็ดนางฟ้า มะกอก เผือก ผักกาดแก้ว กะหล่ำปลี แตงโม มะระจีน สะตอ ถั่วพู ดอกโสน หอมแดง หอมหัวใหญ่ ต้นกระเทียม กุยช่าย หน่อไม้ฝรั่ง ดอกกระเจี๊ยบ สายบัว เห็ดหอม พริก มันฝรั่ง แครอต ผักเหล่านี้มีฤทธิ์หยุดเซลล์มะเร็งขยายตัวได้เล็กน้อย ยับยั้งได้น้อยกว่าร้อยละ ๓๐
ผลไม้ก็มีคุณค่าไม่แพ้ผัก เริ่มจาก
มะละกอสุก สีเหลืองส้มปนแดง กลิ่นหอมหวาน นอกจากวิตามินเอจะช่วยบำรุงสายตา ยังมีวิตามินซี ธาตุเหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัสสูงอีกด้วย และสิ่งที่สำคัญมะละกอสุกยังอุดมไปด้วยสารบีต้าแคโรทีน ช่วยต้านมะเร็งและเส้นใยอาหารที่ช่วยระบายท้อง แก้อาการท้องผูก
ส้ม เชื่อหรือไม่ว่ากินส้มวันละผลลดภาวะทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งได้
มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนว่ากินพืชในตระกูลมะนาวและส้มเป็นประจำทุกวันจะช่วยลดอัตราเสี่ยงของโรคมะเร็งได้มากกว่าร้อยละ ๕๐ อีกทั้งยังลดอัตราเสี่ยงของการเป็นลมได้ถึงร้อยละ ๑๙ หากว่ากินเป็นประจำทุกวัน เราจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยับยั้งการเจริญของก้อนเนื้อมะเร็ง และทำให้เซลล์ของก้อนเนื้อนั้นกลับเป็นปกติ
การกินผักและผลไม้ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว ควรกินพร้อมกับอาหารชนิดอื่นๆ ด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน รวมถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นประจำ และการทำจิตใจให้ผ่อนคลาย อย่าเคร่งเครียดตลอดเวลา มิเช่นนั้นมะเร็งทางอารมณ์จะถามหา
ทางสายกลางในเรื่องการกิน การอยู่ และการใช้ชีวิตประจำวันน่าจะเหมาะสมที่สุด
- อ่าน 10,688 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้