"นอนกรน" อย่านิ่งนอนใจไม่ใช่ปัญหาเล็กอีกต่อไป เป็นบ่อเกิดโรคร้ายมากมาย อาทิ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดในสมอง อาจถึงขั้นสมรรถภาพทางเพศเสื่อม
นายแพทย์ ชัยรัตน์ นิรันตรัตน์ ภาควิชา โสต ศอ นาสิก วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร และวชิรพยาบาล กล่าวว่า "การนอนกรนชี้ให้เห็นถึงการอุดตันในทางเดินหายใจส่วนบน โดยมีหลายสาเหตุ ทั้งโรคไซนัส ริดสีดวงทวาร ต่อมทอนซิลโต ซึ่งบางรายจะเกิดภาวะหยุดหายใจชั่วขณะระหว่างหลับด้วย ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการนอนหลับไม่เต็มอิ่ม ง่วงนอนในเวลากลางวัน โอกาสเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคอื่นตามมา โดยเฉพาะสมรรถภาพทางเพศเสื่อมที่ส่งผลร้ายต่อชีวิตคู่
ในปัจจุบันได้เริ่มมีการรักษาแบบใหม่ที่เรียกว่า การใส่พิลลาร์ ซึ่งเป็นการใส่แท่งพิลลาร์ขนาดเล็กไปที่เพดานอ่อน ซึ่งจะลดการสะบัดของเพดานอ่อนลงอย่างได้ผล โดยไม่ต้องผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถกินอาหารได้ตามปกติ อาการนอนกรนจะลดลงภายใน ๓-๕ วัน และจะเห็นผลดีขึ้นภายใน ๓ เดือน"
อาการนอนกรนจึงไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไม่ตกอีกต่อไป ผู้ป่วยสามารถพบแพทย์เพื่อขอรับคำปรึกษา และการรักษาที่ถูกต้อง
- อ่าน 4,027 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้