• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

การตรวจรักษาอาการขนร่วง ขนดกผิดปกติ

การตรวจรักษาอาการขนร่วง ขนดกผิดปกติ

ในฉบับก่อนๆ ได้กล่าวถึงเรื่องผมหงอก ผมร่วง และผมผิดปกติอื่นๆ ครั้งนี้จะกล่าวถึงเรื่องขน เพื่อปิดท้ายรายการเกี่ยวกับเรื่องผมและขนให้จบ เพราะผมก็คือ ขน นั่นเอง แต่เป็นขนที่ไม่งอกหรือขึ้นบนศีรษะเท่านั้น สำหรับขนในที่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็มีประโยชน์พอๆ กับผม หรืออาจจะน้อยกว่าผมเสียด้วยซ้ำ ที่พูดนี้หมายถึงประโยชน์ทางชีววิทยา หรือประโยชน์ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ซึ่งทั้งผมและขนจะมีประโยชน์ทางชีววิทยาน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของผมในด้านจิตวิทยา (การเสริมสวย) มีมาก ดังได้กล่าวไว้แล้ว ส่วนประโยชน์ของขนในด้านนี้มีน้อยกว่าผมมากโดยเฉพาะในคนไทย ส่วนในคนฝรั่ง (ชาวยุโรป) เรื่องขนนี้มีความสำคัญในเชิงจิตวิทยาค่อนข้างสูง อาจจะสูงพอๆ กับผม เพราะเขาชอบกันอย่างนั้น เช่น

ถ้าเป็นผู้ชาย ชอบให้มีขนที่ใบหน้า (หนวด เครา) ดกดำ มีขนดกดำเต็มหน้าอก แขนขา และที่ลับ โดยถือว่าเป็นสิ่งแสดงความเป็น “ชาย” และบางคนถึงกับอ้างว่าถ้าขนมาก แสดงว่า สมรรถภาพทางเพศสูง (เตะปี๊บดัง) ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะคนไม่มีขนอาจจะเตะปี๊บได้ดังกว่าหลายเท่า

ถ้าเป็นผู้หญิง ชอบให้ไม่มีขนในที่ต่างๆ แม้แต่ขนที่รักแร้ ขนตามแขนขา และขนที่ใบหน้า จนต้องไปดึง ไปถอน ไปโกน หรือใช้ครีมใช้ยา และวิธีการต่างๆ เพื่อกำจัดขนเหล่านั้นให้หมดไป และบางคนแม้แต่ขนในที่ลับ ก็ไม่ยอมให้มี (จะได้ดูเหมือนเด็กก่อนวัยเอ๊าะๆ) หรือบางคนยอมให้มีพอหรอมแหรม (พอเป็นกระสายยา) เท่านั้น

ความเชื่อถือหรือความยึดถือเช่นนี้ ทำให้อุตสาหกรรมเกี่ยวกับยาปลูกขน ยาถอนขน ยากัดขนให้บางหรือให้สีจางลง ยาย้อมขน ครีมขี้ผึ้ง อุปกรณ์การดึง การถอน และการตัดขน เป็นต้น กลายเป็นอุตสาหกรรมที่ทำความร่ำรวยให้แก่ผู้ผลิตอย่างมากมาย หวังว่าวัฒนธรรมตะวันตกที่บ้าๆ เพี้ยนๆ เช่นนี้จะไม่ติดตลาดเมืองไทย และทำให้วัยรุ่นไทยเกิดคลั่งไคล้วัฒนธรรมเพี้ยนๆ เหล่านี้ด้วย หลังจากที่คลั่งไคล้วัฒนธรรม “ซิ่ง” “แรมโบ้” “ร็อกแอนด์โรล” และอื่น

โชคดีที่คนไทยไม่ค่อยให้ความสนใจกับเรื่องขนมากนัก เพราะเพียงเรื่องผมอย่างเดียว หลายคนก็แทบจะไม่เป็นอันกินอันนอน คอยแต่ห่วงทรงผม เส้นผม ขี้ผม เป็นต้น ตั้งแต่ตื่นเช้าจนเข้านอน การมีขนดกหรือขนไม่ดกเกือบทั้งหมดเป็นไปตามพันธุ์ (เชื้อพันธุ์) เช่น คนแขก คนฝรั่งพันธุ์เมดิเตอเรเนียน (เช่น ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี) คนฝรั่งชาวไอริช และเวลส์ (อังกฤษตอนบน) จะมีขนดก ส่วนคนไทย จีน ญี่ปุ่น ขนไม่ดก แต่ถ้ามีเชื้อพันธุ์แขกหรือฝรั่งก็อาจจะมีขนดกได้

การไม่มีขน หรือการที่ขนร่วงผิดปกติ

ในคนไทย การไม่มีขนเกือบจะเรียกได้ว่าไม่ทำให้เกิดปัญหา แม้จะเป็นผู้ชาย เพราะเราดูความเป็นชายที่การแสดงออก (ไม่ได้ดูที่ขน) ผู้ชายที่มีขนดกแต่กระตุ้งกระติ้ง สะบัดสะบิ้ง เราก็ไม่ถือว่าเป็นชายเต็มตัว หรือจะเรียกว่าเป็น “ชายนะยะ” ก็ได้ หรือชาวบ้านเรียกว่า “กะเทย” ก็ได้

คำว่า “กะเทย” ในภาษาชาวบ้านหมายถึง ผู้ชายที่ชอบทำตัวเป็นผู้หญิง หรือโดยนัยตรงกันข้าม แต่ในทางแพทย์จะหมายถึง คนที่มี 2 เพศ (ทั้งเพศชายและหญิงในคนเดียวกัน) หรือลักษณะภายนอกเป็นชายหรือหญิง แต่ในพื้นฐานจริงๆ (อวัยวะเพศจริงๆ เช่น ลูกอัณฑะ รังไข่) กลับเป็นเพศตรงข้าม

ในคนไทย การไม่มีขนจึงไม่ค่อยมีใครสนใจ แต่อันที่จริง การที่อยู่ดีๆ แล้วขนหายไปโดยเฉพาะในบางแห่ง เช่น ขนรักแร้และขนในที่ลับ มักจะแสดงว่า ร่างกายผิดปกติ เช่น อ้วนมาก เป็นโรคเรื้อรัง โรคขาดอาหาร การตกเลือดขณะคลอด แล้วต่อมาขนรักแร้ ขนในที่ลับหลุดร่วงลงไป เป็นต้น เนื่องจากเรื่องขนร่วงหรือหายไปมักไม่เป็นที่สนใจของผู้ป่วย และสาเหตุที่ทำให้ขนร่วง มักทำให้เกิดอาการอื่นที่เห็นชัดและรุนแรงกว่า ผู้ป่วยจึงมาหาแพทย์ด้วยอาการเหล่านั้นแทนอาการขนร่วง

ส่วนขนร่วงที่เกิดเป็นบางส่วน เป็นหย่อมๆ มักเกิดจากโรคเฉพาะที่ เช่น โรคผิวหนัง การดึงการถอนขนบ่อยๆ การถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก แต่ในบางครั้งก็อาจเกิดจากโรคภายในได้ เช่น ถ้าขนคิ้วร่วงเป็นหย่อมๆ หรือเป็นบางส่วนอาจเกิดจากต่อมธัยรอยด์ (ต่อมคอพอก) ทำงานน้อยลง กามโรคบางชนิด โรคเรื้อน เป็นต้น

ขนดกผิดปกติ

ปัญหาเกี่ยวกับขนในคนไทยจึงมักเป็นเรื่อง “ขนดกผิดปกติ” โดยเฉพาะในผู้หญิง (ถ้าขนดกในผู้ชายส่วนใหญ่ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาอยู่แล้ว) ดังนั้น ผู้หญิงไทยที่มีหนวดเคราขึ้น หรือมีขนขึ้นมากตามแขนขา หน้าอก หน้าท้อง มักจะมีความกังวลและห่วงใยมาก เพราะกลัวจะทำให้ไม่สวย หรือดูเป็น “ผู้ชาย”  อันที่จริง ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยอาจมีขนขึ้นตามหน้าตาและแขนขามากกว่าหญิงอื่นในเชื้อพันธุ์เดียวกัน และเกือบทั้งหมดเกิดจากสาเหตุที่ยังไม่มีใครรู้ คือ เรียกว่า ขนดกโดยไม่ทราบสาเหตุ (idiopathic hypertrichosis) ซึ่งไม่มีอันตรายอะไร และไม่ควรวิตกกังวล ควรถือว่าเป็นลักษณะพิเศษ (ลักษณะเด่น) เฉพาะตัว ไม่ควรถือเป็นปมด้อย เพราะน้อยคนที่จะมีลักษณะเช่นนี้ แต่ถ้าทำให้เพื่อนฝูงล้อเลียนจนน่ารำคาญ ก็อาจจะใช้วิธีรักษาต่างๆ เช่น

1. วิธีโกน การโกนขนออกเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด สะดวกที่สุด และง่ายที่สุด และไม่เป็นความจริงในสิ่งที่เชื่อถือกันทั่วไปว่า หลังโกนแล้วขนที่ขึ้นใหม่จะดกและดำขึ้น ดังนั้น จงโกนเถิด ถ้าไม่ต้องการให้ใครเห็นขนของตน

2. วิธีถอน เจ็บมากกว่าวิธีโกน และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในรูขุมขน แต่ใช้ได้ดีสำหรับขนจำนวนน้อยๆ (ไม่กี่เส้น)

3. วิธีฟอกสี เช่น ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (hydrogenperoxide 20%) ฟอกสีขนให้จางลง จะได้ไม่เห็นชัด

4. วิธีใช้ยาทาหรือสารเคมีต่างๆ จะเป็นครีม ขี้ผึ้ง หรืออื่นๆ พวกนี้ทำให้ขนหลุดร่วงได้จริง แต่มักจะไม่สามารถทำลายรากขนได้ ไม่ช้าไม่นาน ขนก็จะเกิดขึ้นมาใหม่ ยาหรือสารเคมีเหล่านี้ นอกจากจะมีราคาแพงแล้ว ยังระคายผิวหนัง ทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ เป็นผื่นคัน เป็นฝ้าดำ หรืออื่นๆ ได้

5. การจี้ขุดรากขน (electrolysis) ซึ่งทำยาก แพงมาก และต้องการคนที่ชำนาญ มิฉะนั้นจะเกิดเป็นแผลน่าเกลียดได้

6. การใช้ยากิน ยากินบางอย่างอาจจะทำให้ขนหลุดร่วงได้ แต่ยาเหล่านี้มักมีพิษและให้ผลช้า ถ้าจำเป็นต้องใช้กรณีที่ขนดกรุนแรง และเป็นทั่วตัว ควรปรึกษาแพทย์

แม้ว่าการมีขนดกผิดปกติส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งปกติ แต่การมีขนดกผิดปกติ อาจจะเป็นโรคหรือสิ่งผิดปกติได้ จากกรณีต่อไปนี้

1. อวัยวะเพศผิดปกติ เช่น เต้านมในหญิงเหี่ยวหายไป ที่อวัยวะเพศตรวจพบแตดหรือเม็ดละมุด (clitoris) โตผิดปกติ เป็นต้น

2. มีสิวขึ้นตามหน้าตา หน้าอก และแผ่นหลังอย่างมากมาย หรือเป็นสิวหัวช้างในหญิง

3. ประจำเดือนน้อยลงหรือหยุดไป หรือวัยหมดประจำเดือนในหญิง

4. หน้าบวมฉุ หรือกลมเหมือนพระจันทร์

5. อ่อนเพลีย อ่อนแอผิดปกติ

6. มีก้อนคลำได้ในช่องท้อง

7. ใช้ยาบางอย่าง

ถ้ามีขนดกผิดปกติ แล้วมีอาการอย่างอื่นอย่างหนึ่งอย่างใดดังกล่าวข้างต้น ควรไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว เช่น เนื้องอกของต่อมหมวกไต เนื้องอกรังไข่ เป็นต้น เพื่อทำการผ่าตัด หรือกำจัดสาเหตุเสีย อาการต่างๆ จะได้หายไปรวมทั้งอาการขนดกผิดปกติด้วย คนที่ขนดกผิดปกติหลังกินยาอะไรก็ตาม ให้คิดว่ายาที่กินอยู่อาจจะเป็นสาเหตุก็ได้ ให้หยุดยานั้นถ้ายานั้นไม่จำเป็นต่อชีวิต

ที่กล่าวข้างต้นนั้น เป็นอาการขนดกผิดปกติที่เกิดขึ้นทั่วไป เช่น ตามหน้าขา แขนขา หน้าอก และหลัง
ส่วนอาการขนดกผิดปกติที่ขึ้นเป็นแห่งๆ เฉพาะที่ (localized hypertrichosis) ก็พบได้เสมอ เช่น ในบริเวณที่มีไฝ มีปาน อาจจะมีขนดกดำเป็นพิเศษ ไม่มีอันตรายอะไร แต่บางครั้งอาจมองไม่เห็นไฝหรือปาน แต่มีขนเกิดขึ้นดกดำเพียงไม่กี่เส้นหรือเป็นหย่อมๆ ก็ได้ ไม่มีอันตรายอะไร ใช้เป็นลักษณะเด่นของตนได้ เพราะน้อยคนจะมีลักษณะเช่นนี้

ขนที่เกิดขึ้นเป็นหย่อมๆ เฉพาะแห่ง อาจเกิดจากผิวหนังบริเวณนั้นได้รับการระคายบ่อยๆ เช่น บริเวณบ่าของคนที่แบกของหนักๆ เป็นประจำ บริเวณรอบๆที่ขูด แคะ แกะ เกาบ่อยๆ จนเป็นปื้นดำ (เรื้อนกวาง) เป็นต้น ในกรณีเช่นนี้ให้หยุดการระคายผิวหนังบริเวณนั้น แล้วขนที่เกิดจะค่อยๆ ลดลงและหมดไป เรื่องผมและขนซึ่งมีประโยชน์ทางชีววิทยาน้อยมาก แต่กลับมีประโยชน์ทางจิตวิทยาและการเสริมสวยอย่างมากมาย ทำให้เกิดเป็นความเครียด ความกังวล และความวุ่นวายโดยไม่จำเป็นกับสิ่งที่ไม่สู้จะมีประโยชน์อะไรกับการดำรงชีวิต จึงใคร่จะขอให้พวกเราทุกคนอย่าได้ห่วงใยและเครียดกังวลกับเรื่องผมและขนมากนัก นอกจากจะมีอาการไม่สบายอื่นๆร่วมด้วย จึงควรจะตรวจรักษาผมและขนให้เต็มที่

ข้อมูลสื่อ

126-014
นิตยสารหมอชาวบ้าน 126
ตุลาคม 2532
ศ.นพ.สันต์ หัตถีรัตน์