• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยาแก้ปวด : กว่าปวดจะหาย...

ยาแก้ปวด : กว่าปวดจะหาย...

ชาวไร่ ชาวนา และกรรมกรที่ทำงานหนัก ไม่พ้นที่จะมีอาการเคล็ดขัดยอกปวดเมื่อยตามร่างกาย ตามข้อ คอ สันหลัง ไหล่ และแขน ขา โดยเฉพาะภายหลังตรากตรำมาจากงาน

อาการปวดเมื่อยดังกล่าวเกิดจากงานที่หักโหม งานเกินกำลัง หรือการทำงานติดต่อกันนานเกินไปจนร่างกายเกิดความเครียด ถ้าลดความหลักลงหรือหยุดพักผ่อนให้เพียงพอก็จะหายได้เอง แต่หลายคนต้องหักโหมงานไม่หยุดยั้ง อาจจากความขยัน จากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงไม่รู้จักจัดสัดส่วนของงานและการพักผ่อนให้สมดุล หรือเกี่ยวกับปากท้องที่ต้องดิ้นรนจึงต้องหันหน้าพึ่งยาแก้ปวดชนิดต่างๆ ที่มีเกลื่อนกลาดในท้องตลาดและซื้อยาได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งยาชุด ยาแก้อักเสบ ยากระจายเส้น สุรายาดอง และเครื่องดื่มบำรุงร่างกายต่างๆ

การใช้ยาอย่างมากมายโดยขาดความรู้ บางครั้งก็เกิดประโยชน์น้อย ไม่คุ้มกับเงินที่เสีย แถมยังอาจเกิดโทษจากยา และอาจติดยาได้

หลักการใช้ยาแก้ปวด

1. ให้กินยาแก้ปวดเป็นครั้งคราวเฉพาะเวลาปวด ไม่ควรกินยาติดต่อกันนานๆ หรือกินยาเพื่อป้องกันอาการปวด

2. ยาแก้ปวดเกือบทุกชนิดมักกัดกระเพาะอาหาร จึงควรกินยาหลังอาหารทันที และดื่มน้ำตามอย่างน้อย 1 แก้ว ไม่ควรกินยาเวลาท้องว่าง

3. ไม่ควรกินยาชุดหรือยาแก้ปวดครั้งละหลายชนิดพร้อมๆ กัน เพราะนอกจากฤทธิ์แก้ปวดจะไม่ดีกว่าการให้ยาเพียงชนิดเดียวแล้ว ยังเกิดอาการแทรกซ้อนและพิษของยาเพิ่มขึ้นด้วย

4. ไม่มียาบำรุงใดๆ ที่กินแล้วร่างกายจะแข็งแรงจนไม่ปวด การได้อาหารที่ครบหมู่และพอเหมาะเป็นยาบำรุงที่ดีที่สุด

5. ควรหาวิธีลดความปวดเมื่อยด้วยวิธีการอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อจะได้ใช้ยาแก้ปวดน้อยลง ได้แก่ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ การประคบร้อน ประคบเย็น การนวดแผนไทย เป็นต้น

อาการปวดเมื่อยจะลดลงได้ถ้ารู้จักการทำงานอย่างถูกหลัก ทั้งวิธีการนั่ง การยืน การยกของหนัก การหาเครื่องผ่อนแรง เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อเกิดความเครียด รวมทั้งการพักผ่อนอย่างเหมาะสม

การใช้ยาแก้ปวดเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ อย่าใช้ยาแก้ปวดอย่างพร่ำเพรื่อ เพราะกว่าปวดจะหาย...อาจตายเสียก่อน

ข้อมูลสื่อ

127-020
นิตยสารหมอชาวบ้าน 127
พฤศจิกายน 2532
นานาสาระ
นพ.สุรชัย ปัญญาพฤทธิ์พงศ์