• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

กีฬาหน้าฝน

                                  

 

เมื่อเอ่ยถึงหน้าฝน หลายคนคงนึกถึงความชื้นแฉะ ฝนตกเปาะแปะ จะทำอะไรก็ไม่สะดวก แม้แต่การเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายพลอยถูกจำกัดไปด้วย วันนี้คิดจะเล่นเทนนิส อุตส่าห์หอบเสื้อผ้ามาที่ทำงานด้วยกะว่าหลังเลิกงานตอนเย็น จะตีให้สะใจเสียหน่อย ตกบ่ายฟ้าที่เคยแจ่มใสกลับมีเมฆมืดครื้ม แล้วฝนก็เทจั้ก ๆ ลงมาตอนสี่โมงพอดี...ช่างไม่เป็นใจเสียเลย

กรณีชวนให้อารมณ์เสียเช่นนี้เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ วิธีแก้อารมณ์ค้างที่ไม่ได้ เล่นกีฬามีอย่างไรบ้าง ลองมาคุยกันดูนะครับ
อย่างแรก คือเลือกทางหนีทีไล่ไว้ก่อน ฝนบ้านเราไม่มีใครบอกได้ว่า จะตกลงเมื่อไร ฉะนั้น ถึงกรมอุตุนิยมวิทยา จะบอกว่าวันนี้ฝนตกเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ เราอาจหลงเข้าไปอยู่ไปอยู่ในพื้นที่ 20 เปอร์เซ็นต์นั้นพอดีก็ได้ จึงไม่ควรประมาท คิดเตรียมไว้ก่อน ถ้าแจ๊กพ็อตขึ้นมาเราจะหาอะไรอื่นทำดี
อะไรอื่นในที่นี้ก็ควรเป็นกีฬาหรือการออกกำลังกายที่ให้ประโยชน์คล้ายคลึงกัน แต่ไม่ง้อสภาพอากาศ เรียกว่าฝนตกก็ยังเล่นได้ ตัวอย่างเช่น กระโดเชือก, การวิ่งอยู่กับที่, ถีบจักรยานอยู่กับที่, แบดมินตัน (คอร์ตในร่ม), เต้นแอโรบิก ฯลฯ
ดังนั้นถ้าท่านเป็นเหมือนผู้เขียน คือออกจากบ้านมาทำงานตอนเช้า ก็เอาชุดกีฬามาด้วย จงวางแผนให้ดีว่า วันนี้กีฬาอะไรเป็นอันดับหนึ่ง (อยากเล่นเป็นอย่างแรก) แต่ถ้าฝนตกจะเล่นกีฬาใดแทน แล้วอย่าลืมเตรียมชุดหรืออุปกรณ์ให้พรักพร้อม

วิธีที่สอง คือ ตายเอาดาบหน้า หรือสำนวนร่วมสมัยเขาเรียก...ลุยไปเลย กรณีนี้ ถ้าเราคิดว่า ถึงฝนตกลงมายังพอเล่นกีฬานั้นได้ ก็จงเล่นไปเถอะ ตัวอย่างเช่น การวิ่งจ๊อกกิ้งในสายฝนปรอย ๆ หรือการเล่นฟุตบอล, วอลเลย์บอล ฯลฯ วิธีนี้ใช้ได้สำหรับกีฬาซึ่งฝนไม่เป็นอุปสรรคมากนัก โดยเฉพาะถ้าตกไม่หนัก กีฬาอย่างแบตมินตันถ้าตีกันกลางสายฝนก็คงไม่ไหว


คงมีคำถามว่า แล้วจะไม่เสี่ยงต่อการไม่สบาย เช่น เป็นหวัด, ปอดบวมหรือ ?
คำตอบคือ ต้องกะประมาณดูให้ดี
ความจริงมีว่า เชื้อหวัดไม่ได้มากับสายฝนอย่างที่เราถูกหลอกในตอนเด็ก ๆ เมื่อผู้ใหญ่ไม่อยากให้ออกไปเล่นน้ำฝน แต่การถูกฝนจนเกิดความหนาวเย็น เป็นเหตุให้ร่างกายอ่อนแอและเชื้อหวัดเข้ามาซ้ำเติมภายหลัง ดังนั้น หัวใจของการพิจารณาคือ เราถูกฝนจนหนาวสะท้านหรือเปล่า
การออกกำลังกายบางอย่างที่หนัก (เช่น การวิ่ง) ร่างกายจะสร้างความร้อนขึ้นมาอย่างมาก จนเกือบเรียกได้ว่า ถ้าเราไม่หยุดวิ่งจะไม่รู้สึกหนาวเลย แม้จะวิ่งอยู่กลางสายฝน นอกจากฝนจะตกหนักมาก ลมกระโชกแรง หรือวิ่งอยู่นานเกินไป

ฉะนั้นถ้าจะกล่าวว่า ฝนตกปรอย ๆ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการวิ่งแต่อย่างใด คงไม่ผิด ถึงยังไงตัวเราก็เปียกโชกอยู่แล้ว (จากเหงื่อ) แม้ฝนไม่ตก ระวังแต่ว่า ฝนตกทำให้ถนนลื่น และถ้ามีฟ้าคะนองก็ไม่ควรออกวิ่ง โดยเฉพาะในที่โล่งแจ้ง ซึ่งตัวเราอาจเป็นเป้าของฟ้าผ่าได้
เช่นเดียวกันกับกีฬาว่ายน้ำ ซึ่งไม่กลัวฝน แต่ตามสระต่าง ๆ จะมีข้อความเตือนไม่ให้ลงเล่นน้ำใน ขณะฝนตก ทั้งนี้เพราะเขากลัวเรื่องของฟ้าผ่านี้เอง เนื่องจากน้ำเป็นสื่อของกระแสไฟฟ้าที่ดีมาก บางครั้งแม้ฟ้าจะไม่ได้ผ่าลงมาตรง ๆ ที่ตัวคน แต่ก็อาจมีผลกระทบได้ถ้าหากมีน้ำเป็นสื่อ เช่น
นักกอล์ฟที่เล่นกลางสายฝน มีโอกาสได้รับอันตรายจากฟ้าผ่าได้ง่าย เพราะแฟร์เวย์เป็นที่โล่งแจ้ง, มีน้ำเจิ่งนองสนามหญ้าเป็นสื่อที่ดี แถมยังถือไม้กอล์ฟหรือร่มซึ่งมีส่วนประกอบทำด้วยโลหะ นักกอล์ฟระดับโลกคอประสบภัยจากฟ้าผ่ามาแล้วในระหว่างแข่งขันขณะฝนตก โชคดีที่ไม่ถึงตาย
 

ข้อแนะนำสำหรับการ “ตายเอาดาบหน้า” ในการเล่นกีฬากลางสายฝน จึงอยู่ที่การพินิจพิจารณาตามชนิดของกีฬานั้น ๆ สภาพแวดล้อม, สภาพความพร้อม และความรู้สึกของตัวเราเอง(ทั้งก่อนและขณะเล่นกีฬา) แน่นอนที่ว่า เมื่อเลิกเล่นแล้ว ต้องรีบเช็ดตัวและผมเผ้าให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ที่ไม่เปียก เพื่อไม่ให้เกิดความหนาวขึ้นมา หรือในกรณีที่รู้สึกหนาว เครื่องดื่มร้อน ๆ เสื้อผ้า หนา ๆ และการอยู่ในที่อบอุ่นจะช่วยได้มาก

 

อุปสรรคอื่น ๆ ของการเล่นกีฬาหน้าฝน มีเช่น
พื้นลื่น ซึ่งได้พูดไปแล้วในการเลือกวิ่ง แต่ความจริงกีฬาอื่น ๆ ก็มีโอกาสลื่นได้เหมือน ๆ กัน แต่ที่ต้องระวังมากหน่อยเห็นจะเป็นจักรยาน เพราะนอกจากพื้นถนนจะลื่นชวนให้ไถลลงไปกองกับพื้นถนนได้ง่ายแล้ว ฝนยังมีส่วนทำให้เกิดหลุมบ่อบนพื้นถนน ซึ่งต้องคอยหลบหลีกไปมา บางครั้งพลาดท่าลงไปในแอ่งลึกเท่าปลักควาย แถมมีโคลนดูดล้อ ทำให้เสียหลักลงไปแช่น้ำก็เคยโดนมาแล้ว ฉะนั้นถ้าเจอะแอ่งที่ไม่แน่ใจ หาทางหลบไปริม ๆ ถึงจะต้องจูงจักรยานก็ยังดีกว่าลงไปนอนแอ้งแม้งแช่น้ำในแอ่ง

อีกอย่างหนึ่งที่ต้องระวังคือ รถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมาอาจทำให้น้ำกระเซ็นใส่หน้า หรือสาดโคลนเปรอะไปทั้งตัว อันนี้ต้องกะจังหวะให้ดี พยายามอย่าสวนทางกับรถยนต์ตรงแอ่งน้ำ โดยเฉพาะรถที่วิ่งมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะบันยะบันยังหรือเห็นใจเรา

สิ่งที่ควรจำให้ขึ้นใจในการถีบจักรยานหน้าฝนคือ ล้อที่เปียกจะทำให้ ระยะเบรกยาวขึ้น ทั้งนี้เพราะผ้าเบรกเมื่อจับกับขอบล้อที่เปียกจะไม่มีความฝืดเท่าปกติ ฉะนั้นไม่ควรถีบให้เร็วนัก และเผื่อระยะแบกไว้ให้มากกว่าเดิมสัก 2-3 เท่า
เรื่องของฮ่องกงฟุต หรือน้ำกัดเท้า เกิดได้บ่อยในหน้าฝนเพราะโรคนี้เกิดจากเชื้อรา ซึ่งชอบความชื้นแฉะ ฉะนั้น วิธีป้องกันคือ รักษาเท้าให้แห้งอยู่เสมอ นั่นก็หมายความว่า รองเท้าและถุงเท้า จะต้องแห้งด้วย


นักกีฬาที่ใส่รองเท้าลุยน้ำหรือเปียกฝนจนโชก ควรผึ่งรองเท้าให้แห้งทันทีทีเล่นกีฬาเสร็จ และควรรอให้แห้งสนิทเสียก่อนจึงค่อยนำมาใช้
วิธีที่จะช่วยให้รองเท้าแห้งเร็ว ไม่ใช่โดยการนำไปตากแดด เพราะวิธีนั้น รองเท้าแห้งเร็วจริง แต่จะทำเอาส่วนที่เป็นหนังและยางเสื่อมเร็วด้วย หนังก็จะแข็งตัวเป็นเหตุให้เกิดอาการรองเท้ากัดได้ง่าย
วิธีที่ถูกต้องคือผึ่งลมไว้ในที่ร่ม ถ้าจะให้แห้งไวขึ้น ใช้พัดลมเป่าก็ไม่ผิดกติกาอันใด
วิธีง่าย ๆ อีกอย่างทีเขียนใช้เสมอ คือ เอากระดาษหนังสือพิมพ์ขยำเป็นก้อนกลม ๆ ยัดใส่รองเท้าจนแน่น ใช้ได้ผลดีมาก โดยเฉพาะถ้าขยันเปลี่ยนประดาษอยู่บ่อย ๆ (คือพอกระดาษเปียกก็เปลี่ยนชุดใหม่) การทำเช่นนี้นอกจากประหยัดเวลาแล้ว ยังช่วยให้รองท้าคงรูปเดมอย่างดีอีกด้วย ลองไปทำดูนะครับ ถุงเท้าก็เหมือนกัน หมั่นเปลี่ยนทุกครั้งที่ใส่ลงเล่นกีฬา เพื่อป้องกันการหมักหมมของคราบเหงื่อไคล อันนำไปสู่ความสกปรก และเป็นบ่อเกิดของเชื้อราในที่สุด
 

กีฬาอะไรที่เหมาะกับหน้าฝนที่สุด
คงไม่มีคำตอบตายตัว ขึ้นอยู่กับความถนัด, ความชอบ, ความสะดวก และความอะไรอีกหลาย ๆ อย่างของแต่ละบุคคล ผู้เขียนเองยังคงออกกำลังกายพื้นฐาน เช่น วิ่ง, ถีบจักรยาน หรือว่ายน้ำ ในหน้าฝนเป็นปกติเช่นเดียวกับฤดูอื่น ๆ โดยใช้หลักการที่กล่าวมาข้างต้น และก็เชื่อว่าสำหรับคนทั่วไป หน้าฝนไม่ใช่เป็นอุปสรรคสำหรับการออกกำลังกาย นอกจากจะถูกใช้ไปในการกล่าวอ้างของผู้ที่ไม่อยากออกกำลัง (อยู่แล้ว)

ในแง่ดี หน้าฝนให้ความเย็นชุ่มฉ่ำ เหมาะกับการออกกำลังกาย สายฝนช่วยปลุกต้นไม้ให้ผลิใบเขียวขจี เพิ่มความงามให้กับทัศนียภาพขณะออกกำลังกลางแจ้ง บางครั้งเราอาจต้องร้องเพลงสำหรับเหตุการณ์บางอย่าง แต่คงไม่ต้องรอให้หน้าฝนผ่านพ้นไป ถึงค่อยออกกำลังนะครับ
 

ข้อมูลสื่อ

111-020
นิตยสารหมอชาวบ้าน 111
กรกฎาคม 2531
วิ่งทันโลก
นพ.กฤษฎา บานชื่น