• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

คุณธวัชชัย เอกธุระประคัลภ์ รอดได้เพราะการออกกำลังกาย

                                          ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
ประโยคข้างต้นนี้ หลายคนหวังจะได้ใช้กับตนเอง แต่ถ้าอยู่เฉยๆ หรือปล่อยปละละเลย ไม่ลงมือลงแรงทำอะไรเพื่อสุขภาพที่ดีของตน ก็อาจจะมีสภาพไม่ต่างกับคุณธวัชชัย เอกธุระประคัลภ์ เมื่อ ๑๗ ปีที่แล้ว ร่างกายถูกรุมเร้าด้วยสารพัดโรคที่มากถึง ๑๕ โรค ทั้งๆ ที่แพทย์เจ้าของไข้บอกว่าคงจะอยู่ได้ไม่น่าจะเกิน ๕ ปีเท่านั้น แต่ “รอดได้เพราะการออกกำลังกาย” ปัจจุบันด้วยวัย ๖๒ ปี สามารถขี่จักรยานต่อเนื่องได้ ๒๐๐ กิโลเมตร และยังเป็นประธานชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดนครปฐมอีกด้วย

สุขภาพทรุดโทรม เพราะโหมงานหนัก
     คุณธวัชชัยเป็นเจ้าของร้านฮาร์ดแวร์และโรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศ เล่าให้ฟังว่า อดีตที่ผ่านมาไม่สนใจดูแลสุขภาพตนเองเลย มุ่งทำแต่งาน ไม่เคยคิดเลยว่าเครื่องจักรที่มีเลือดเนื้อของตัวเองจะเป็นอย่างไรบ้าง จนกระทั่งวันหนึ่งมีอาการไตวายเฉียบพลัน ราวๆ ปี พ.ศ.๒๕๓๗ ต้องฟอกเลือดและทำไตเทียม ๓ ปี ทรมานมากๆ อีกทั้งช่วงที่ฟอกเลือดมีอาการแทรกซ้อนหลายอย่างตามมา เช่น ม้ามโตจนต้องตัดม้ามทิ้ง
     เดินทางไปผ่าตัดเปลี่ยนไตที่สาธารณรัฐประชาชนจีน กลับมาได้ไม่นานติดเชื้อในกระแสเลือดจากมูลนกพิราบบนดาดฟ้า ต้องหามส่งโรงพยาบาลและมีอาการหัวใจล้มเหลวจนต้องปั๊มหัวใจ ๓ ครั้ง รวมถึงเลือดไปเลี้ยงไตได้น้อย ไตทำงานได้ไม่เต็มที่ ต้องผ่าตัดทำบอลลูนหลอดเลือดบริเวณไต สาเหตุจากการเชื่อมต่อหลอดเลือดจากการผ่าตัดเปลี่ยนไตทำไม่ดี หลอดเลือดมีรอยพับจึงทำให้เลือดไปเลี้ยงไตได้นิดเดียวไม่พอกับความต้องการ แต่หลังจากทำบอลลูนแล้วเหมือนเกิดใหม่
     หมดปัญหาเรื่องไตคิดว่าไม่น่าจะมีโรคอะไรอีกแล้ว จู่ๆ ปวดท้องมาก ไปโรงพยาบาลพบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี... ต้องผ่าตัดอีก ตามมาด้วยต้อกระจก... ต้องผ่าตัดอีกแล้ว รวมถึงการผ่าตัดเนื้องอกบริเวณกกหู ซึ่งอันตรายมากเพราะใกล้เส้นประสาท ยังมีวัณโรคปอด และอาหารเป็นพิษด้วย
     ซูเปอร์มาร์เก็ตสารพัดโรคยังไม่หมดแค่นั้น ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากทั้งๆ ที่เคยผ่าตัดรักษาต่อมลูกหมากโตมาแล้ว คราวนี้ต้องฝังแร่และฉายแสงอีก ๑๘ ครั้ง ตามด้วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ต้องฉายแสงมากถึง ๒๘ ครั้ง

ฮึดสู้... สู่ชีวิตใหม่
     โรงพยาบาลไม่ใช่บ้านหลังที่ ๒ คุณธวัชชัยก็คิดเช่นกัน การมีสารพัดโรครุมเร้า เฉียดตายก็หลายครั้ง จึงเบื่อหน่ายที่ต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลเหมือนบ้านหลังที่ ๒ (บางช่วงอยู่โรงพยาบาลมากกว่าอยู่บ้านด้วยซ้ำ) จึงฮึดสู้... ทั้งๆ ที่แพทย์เจ้าของไข้ห้ามไปออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมากๆ เพราะร่างกายไม่สมบูรณ์... เริ่มด้วยการเดินออกกำลังกายแบบเดินเร็วๆ ประมาณ ๓-๔ ปี มีปัญหาตามมาคือข้อเข่าอักเสบบ่อยๆ เพื่อนบางคนชวนไปว่ายน้ำก็ไม่ถนัด บางคนก็ชวนไปขี่จักรยาน คิดว่าจักรยานก็น่าลองดู
     การขี่จักรยานช่วงแรกๆ ไปได้ ๓-๔ กิโลเมตรเท่านั้น ทดลองไปถึงกิโลเมตรที่ ๕ เหนื่อยมากจนต้องขึ้นรถยนต์กลับ แต่ด้วยความอดทน ใจสู้ และต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง จากการขี่จักรยานระยะทาง ๓-๕ กิโลเมตร สามารถขี่ได้ต่อเนื่อง ๑๕-๒๐ กิโลเมตรได้อย่างสบาย จนกระทั่งทุกวันนี้ ระยะทางไกล ๒๐๐ กิโลเมตรก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับวัย ๖๒ ปี เพราะเส้นทางกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ ๕ วันสบายมาก เหนื่อย... แต่ร่างกายสู้ไหวและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ไม่มารบกวน
     ถึงแม้ว่าโรคต่างๆ ไม่มารบกวน คุณธวัชชัยบอกว่าก็ประมาทไม่ได้ ทุกเช้าวันจันทร์-ศุกร์ จะรวมกลุ่มกันขี่จักรยานเสือภูเขาออกกำลังกายกับเพื่อนๆ ๑๐ กว่าคนเป็นระยะทาง ๒๐-๓๐ กิโลเมตรไปตามซอยต่างๆ ด้วยเส้นทางที่ไม่ซ้ำกัน
     ตอนเย็นขี่ระยะทางใกล้ๆ ในตัวเมืองนครปฐมด้วยจักรยานโบราณบ้าง จักรยานจ่ายกับข้าวบ้าง โดยเฉพาะตามตลาดต่างๆ
     สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์มีการเพิ่มระยะทางเป็น ๓๐-๕๐ กิโลเมตร บางครั้งไปไกล ๑๐๐-๑๕๐ กิโลเมตร และจำนวนสมาชิกที่ไปด้วยกันเพิ่มมากขึ้นกว่าวันธรรมดา เช่น ขี่จากนครปฐมไปตลาดน้ำอัมพวา สมุทรสงคราม หรือจากนครปฐมไปสุพรรณบุรี เส้นทางที่ใช้ขี่มักจะเน้นใช้ทางหลวงชนบทมากกว่า เพราะป้องกันอันตรายจากรถยนต์เฉี่ยวชน ปลอดภัย ได้สัมผัสธรรมชาติ จะจอดพักกินอาหารหรือหยุดชมวิวตรงไหนก็ได้ตามสะดวก

ขี่จักรยานกับการช่วยเหลือสังคม
     ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดนครปฐม มีสมาชิกมากกว่า ๒๐๐ คน ที่ผ่านมาคุณธวัชชัยมอบจักรยานให้เด็กนักเรียนที่ต้องเดินไปโรงเรียนอย่างต่อเนื่องปีละประมาณ ๕๐ คัน... เคยแจกสูงสุดครั้งแรก ๔๐๐ คัน ให้ ๒๐ กว่าโรงเรียน
     นอกจากนี้ พยายามรณรงค์ให้คนหันมาออกกำลังกายด้วยการขี่จักรยาน เพราะประหยัดพลังงานและทำให้สุขภาพแข็งแรงอีกด้วย
     รวมถึงการจัดรณรงค์ “ปั่นเพื่อพ่อ” ๕ ธันวาคม โดยจัดมา ๒ ปีแล้ว

ถ้าไม่ออกกำลังกาย  ณ วันนี้จะเป็นอย่างไร
     คุณธวัชชัยย้ำว่า “รอดได้เพราะการออกกำลังกาย” ถ้าไม่ออกกำลังกายก็คงไม่รอดมาถึงทุกวันนี้... เหมือนได้ชีวิตใหม่ และได้เพื่อน
     ออกกำลังกายมา ๑๐ กว่าปี อยู่รอดได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะออกกำลังกายด้วยการขี่จักรยาน... ถือว่าเป็นกำไรของชีวิตแล้ว เพราะจริงๆ แล้วหมอคงคาดคะเนไม่พลาดในเรื่องแบบนี้
     การออกกำลังกายทำให้ร่างกายดี มีสุขภาพแข็งแรง และยังสามารถชักชวนเพื่อนๆ ที่ป่วยให้หันมาขี่จักรยานหลายคนแล้ว
     ที่สำคัญ ทุกวันนี้มีเพื่อนหลายจังหวัด รู้จักกันเพราะการออกกำลังกาย...

ทุกสาขาอาชีพสามารถออกกำลังกายได้ อยู่ที่ว่าจะประยุกต์พลิกแพลงกันอย่างไรเท่านั้น เพื่อให้ “การออกกำลังกายเป็นยาวิเศษสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย”

ข้อมูลสื่อ

383-076
นิตยสารหมอชาวบ้าน 383
มีนาคม 2554
เปลี่ยนชีวิต
นิชานันท์ นาไชย