คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์

  • วิธีการดูแลสุขภาพหู
    หู เป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยให้เราได้ยินเสียงต่างๆ เพื่อการติดต่อสื่อสารพูดคุย นอกจากนี้ยังเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัวของร่างกายขณะเคลื่อนไหว เราจึงควรระมัดระวังดูแลรักษาหู เพื่อใช้หูอย่างมีประสิทธิภาพไปตลอดชีวิต วิธีการดูแลสุขภาพหู มีดังนี้

    1. การทำความสะอาดหูให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำบิดหมาด เช็ดบริเวณใบหู และรูหูเท่าที่นิ้วจะเข้าไปได้เท่านั้น
    2. ขี้หู อาจจะแห้งหรือเปียกหากมีจำนวนมากจะร่วงหรือไหลออกมาเอง จึงไม่จำเป็นต้องปั่น หรือแคะหู
    3. เมื่อเป็นหวัด เจ็บคอ ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรงๆ หรืออุดจมูก ข้างใดข้างหนึ่งในขณะสั่งน้ำมูก เพราะจะทำให้เชื้อโรคใน คอและจมูกดันเขาสูงหูชั้นกลาง ทำให้เกิดการติดเชื้อเป็น โรคหูน้ำหนวกได้
    4. ผู้ที่มีอาการของโรคหวัดภูมิแพ้มักมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบจากการติดเชื้อแทรกซ้อน จึงควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการ
    5. ระวังอย่าให้หูได้รับการกระทบกระแทกแรงๆ เช่น การตบหูด้วยมือทั้ง 2 ข้าง เพราะจะทำให้เยื่อแก้วหูฉีกขาด หรือกระดูกหูหลุด จนเป็นเหตุทำให้การได้ยินลดลง
    6. หลีกเลี่ยงการตะโกนหรือทำเสียงดังใส่กัน รวมทั้งเลี่ยงแหล่งที่มีเสียงดังอึกทึก ควรได้รับการ ตรวจการได้ยินทุกๆ 6 เดือน
    7. ถ้ามีแมลงเข้าหู ห้ามแคะออก เพราะจะทำให้แมลงเข้า ไปในหูลึกยิ่งขึ้น ควรใช้น้ำสะอาดหรือน้ำมันที่ปลอดภัย เช่น น้ำมันมะกอกหยอดลงในรูหูทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้แมลงตาย แล้วเอียงหูให้น้ำมันไหลออกมาพร้อมแมลง
    8. เมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับหู เช่น หูอื้อ ปวดหู คันหู มีน้ำหนองหรือเลือดไหลออกจากหู การฟังเสียงลดลง ควรรับการตรวจจากแพทย์ หู คอ จมูก

    (เครดิต : คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • การตรวจสุขภาพ ทำอะไรบ้าง
    การดูแลสุขภาพต้องเริ่มต้นตั้งแต่เด็ก เพราะโรคต่างๆ ไม่คอยใคร บิดามารดา ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ต้องสอนลูกหลาน ลูกศิษย์ เกี่ยวกับการมีพฤติกรรมในทางที่ดี ใน การสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคต่างๆ เพราะตั้งแต่มนุษย์เกิดมาหลอดเลือดทั่วร่างกาย เราจะเริ่มต้นตีบทีละเล็กละน้อย จนตีบร้อยละ 70 จึงจะมีอาการ ซึ่งจะสายไปเสียแล้ว

    รายละเอียด :>> http://bit.ly/VEHBLm

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • กระโดน : สมานแผล บำรุงสตรี
    ชื่ออื่นๆ : กระโดนโคก กระโดนบก ปุย ปุยกระโดน ผ้าฮาด หูกวาง ต้นจิก ฯลฯ ไม้ยืนต้นที่พบได้ทั่วไป ยอดอ่อนนำมาเป็นผักพื้นบ้าน ยอดสดจิ้มน้ำพริก กินกับขนมจีนปักษ์ใต้ ขนมจีนน้ำยา ฯลฯ

    สรรพคุณ
    - เปลือกต้น แก้น้ำกัดเท้า แก้โรคกระเพาะอาหาร สมานแผล แช่น้ำดื่มแก้ปวดท้อง ท้องเสีย แก้พิษงู แก้อักเสบจากงูกัด ใช้เป็นยาสมาน ใช้สมานแผล แก้เคล็ดเมื่อย
    - ใบ ขยี้รักษาแผลสด โดยนึ่งให้สุกแล้วปิดแผล หรือปรุงเป็นน้ำมันสมานแผล
    - ดอก บำรุงร่างกายหลังคลอด แก้หวัด แก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ
    - ผล ช่วยย่อยอาหาร บำรุงหลังคลอด
    - ดอกและน้ำจากเปลือกสด ผสมกับน้ำผึ้ง กินเป็นยาแก้หวัด แก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ และเป็นยาบำรุงสำหรับสตรีหลังคลอดบุตร

    (เครดิตภาพ : alangcity)

    ** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • ผิวหน้าสวย...ด้วยตำลึง
    ตำลึงผักริมรั้วมากด้วยคุณค่า ช่วยลดการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังสดชื่น ป้องกันผิวจากอนุมิสอิสระ คนโบราณนิยมใช้ตำลึงเป็นสมุนไพรแก้สิวและพอกหน้าเพื่อทำให้ผิวหน้าสดใส

    การเตรียมตำลึง
    ควรเลือกแต่ใบตำลึงสด ถ้าใช้ตำลึงตัวผู้ โบราณว่าจะได้ผลกว่าตำลึงตัวเมีย และต้องล้างให้สะอาด ก่อนที่จะนำมาปั่นเป็นครีมหรือคั้นเอาน้ำ

    วิธีการใช้
    - วิธีที่ 1 ใช้ใบตำลึงสดคั้นเอาแต่น้ำ ชุบสำลีแปะบนหัวสิวสักครู่ ประมาณ 5-10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำบ่อยๆ สิวอักเสบจะหายได้และไม่มีรอยแผลจากหัวสิวด้วย
    - วิธีที่ 2 ใช้ใบตำลึงประมาณ 1 กำมือ น้ำสะอาด 2-3 ช้อนโต๊ะ ปั่นเข้าด้วยกันจนเป็นครีม นำข้าวสาร (ถ้าเป็นข้าวกล้องได้ก็ดี) 2 ช้อนชาไปแช่น้ำจนนิ่มนำไปบดให้ละเอียด แล้วผสมกับครีมตำลึง นำไปพอกหน้าทิ้งไว้จนแห้งจึงล้างออก จะช่วยกำจัดพิษบนใบหน้า แก้สิว ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น หรือหากไม่สะดวกในการเตรียมข้าวสาร จะใช้ครีมตำลึงอย่างเดียวก็ได้

    (เครดิตภาพ : เพชรน้ำหนึ่ง)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • “วัดกำลัง”
    เครื่องมือช่วยวัดความสามารถในการออกกำลังกายในช่วงวัยเด็กจนไปถึงวัยสูงอายุ ด้วยเครื่องมือการวัดที่หลากหลาย และความสามารถในการบันทึกผลลัพธ์ที่ได้ ผู้ใช้สามารถเทียบความสามารถของตัวเองกับค่าเฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ได้

    แอปพลิเคชันนี้สามารถ
    - ประเมินความเสี่ยงจากร่างกาย (PAR-Q)
    - วัดค่าดัชนีมวลกาย (BMI), เส้นรอบพุง, ความทนทานของกล้ามเนื้อ, และความยืดหยุ่น
    - บันทึกค่าที่วัด และแสดงการเปลี่ยนแปลงออกมาในรูปแบบกราฟ
    - คำแนะนำในการออกกำลังกายและข้อควรระวังของวัยต่างๆ
    - รูปแบบการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านหรือที่ทำงาน

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • ผัดเผ็ดปลาดุก
    ผัดเผ็ดมีหลายแบบทั้งผัดกับเครื่องแกงโดยไม่ใส่กะทิหรือผัดโดยใส่กะทิก็ได้ ผัดเผ็ดจะมีวิธีการปรุงเช่นเดียวกับการแกงเผ็ด แต่ต่างกันตรงที่ผัดเผ็ดจะมีส่วนที่เป็นน้ำหรือกะทิน้อยกว่าแกงเผ็ดเท่านั้น ผัดเผ็ดปลาดุกมีทั้งผัดแบบสดหรือนำปลาดุกไปทอดให้กรอบก่อนแล้วค่อยนำไปผัดกับพริกแกง

    (เครดิตภาพ : chiangraidirectory_com, kanyong1, tuk-tuk@korat, ครัวบ้านนอก, naewna_com, drsuntiparb, lazypiggy)

    รายละเอียด :>> http://bit.ly/1kQ9tke

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • ยารักษาไข้หวัด
    พอย่างเข้าฤดูฝน เมฆฝนก็ปกคลุมท้องฟ้า สำหรับชาวประชาที่อยู่ใต้ฟ้าก็คงต้องปรับตัว เตรียมรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศให้ดี เรื่องสุขภาพร่างกายก็ได้รับผลกระทบจากฤดูฝนเช่นกัน มีหลายโรคที่มากับฤดูฝน ที่พบบ่อยที่สุดคือ โรคไข้หวัด ที่จริงแล้วอาจพบหรือเป็นกันได้ทั้งปี แต่จะเป็นได้บ่อยหรือชุกชุมมากในช่วงที่มีฝนตก ซึ่งก็เกิดได้บ่อยในฤดูฝน จึงพบคนเป็นไข้หวัดจำนวนมาก

    รายละเอียด :>> http://bit.ly/1Iz6yIx

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • สละ : แก้ไอ แก้ร้อนใน
    ผลไม้ขึ้นชื่อของชาวตะวันออก โดยเฉพาะคนเมืองจันทบุรี สละที่นิยมกินทั่วไปมี 3 สายพันธุ์ คือ เนินวง หม้อ และสุมาลี สละมีคุณค่าทางโภชนาการ มีวิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม และเหล็ก มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย สรรพคุณทางยาสมุนไพร อาทิ แก้ไอ แก้เจ็บคอ แก้ร้อนใน ดับกระหายน้ำ ช่วยขับเสมหะ ป้องกันหวัด บำรุงเลือด ลดไขมันในเลือด กระตุ้นระบบขับถ่าย บำรุงสมอง บำรุงสายตา ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ฯลฯ

    (เครดิตภาพ : theTripPacker, saralefruit, kuky, ketthep)

    ** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • การตรวจสุขภาพ ทำอะไรบ้าง
    การดูแลสุขภาพต้องเริ่มต้นตั้งแต่เด็ก เพราะโรคต่างๆ ไม่คอยใคร บิดามารดา ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ต้องสอนลูกหลาน ลูกศิษย์ เกี่ยวกับการมีพฤติกรรมในทางที่ดี ใน การสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคต่างๆ เพราะตั้งแต่มนุษย์เกิดมาหลอดเลือดทั่วร่างกาย เราจะเริ่มต้นตีบทีละเล็กละน้อย จนตีบร้อยละ 70 จึงจะมีอาการ ซึ่งจะสายไปเสียแล้ว

    รายละเอียด :>> http://bit.ly/VEHBLm

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • กินเพลินตอนประชุม ระวังเสี่ยงโรค
    อาหารว่าง เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีเวลาประชุม สัมมนา หรืออบรมต่าง ๆ และมักเป็นเมนูขนมหวาน เบเกอรี่ ที่อุดมไปด้วยส่วนผสมของแป้ง น้ำตาล และไขมัน ที่หากบริโภคมากเกินไป อาจจะนำพาเราไปสู่โรคร้ายหลายโรคที่กำลังคุกคามคนไทยในปัจจุบัน ทั้ง โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง

    อาหารว่าง หมายถึง อาหารระหว่างมื้อ เป็นอาหารเบาๆ มีปริมาณน้อยกว่า อาหารประจำมื้ออาจจะเป็นอาหารน้ำ หรืออาหารแห้ง มีทั้งคาวและหวาน หรือเป็นอาหารชิ้นเล็ก ๆ ขนาดพอคำ หยิบรับประทานได้ง่าย จัดให้สวยงามน่ารับประทาน เสิร์ฟควบคู่กับเครื่องดื่มร้อน หรือน้ำผลไม้อย่างใดอย่างหนึ่ง

    เทคนิคเลือกอาหารว่างเพื่อสุขภาพ
    1.คำนึงถึงคุณค่าโภชนาการ
    2.พลังงานไม่เกินร้อยละ 10 ของพลังงานที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน โดยผู้ใหญ่ควรได้รับพลังงานจาก อาหารว่างประมาณ 150-200 กิโลแคลอรี่/วัน
    3.อาหารว่างที่ดีควรจำกัดปริมาณน้ำมัน น้ำตาล และเกลือ ไม่ให้สูงเกินไป
    4.ผลไม้สดเป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์ มีแร่ธาตุ ในอาหาร และวิตามินสูง ผลไม้ที่เหมาะสมสำหรับเป็นอาหารว่าง ได้แก่ ส้ม มะละกอ ฝรั่ง ชมพู่ เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงการผลไม้ที่มีรสหวานหรือผลไม้แปรรูปที่มีน้ำตาล และเกลือมาก
    5.เครื่องดื่มที่เหมาะสม ไม่ควรมีน้ำตาลเกินร้อยละ 5 หรือบริโภคไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม ใน 1 วัน ตามที่ทาง สสส. รณรงค์ร่วมกับองค์การอนามัยโลก
    6.ของว่างจำพวกเบเกอรี่ ควรเลือกขนมปังบางชนิดที่ทำจากแป้งโฮลวีท หลีกเลี่ยงขนมที่ไขมันสูง รสหวานจัด ตัวอย่างเช่น คุกกี้ พัฟ พาย เค้กครีม
    7.เลือกพืชหัวและธัญพืช เช่น ข้าวโพดต้ม ฟักทองต้ม เป็นต้น
    8.ขนมไทยหลายอย่างมีประโยชน์ เนื่องจากมักนำธัญพืช ถั่ว ผัก ผลไม้มาเป็นส่วนประกอบ โดยอาหารว่างไทยมีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ แม่บ้านสมัยก่อนใช้เวลาว่างในการทำอาหารว่างเก็บไว้ โดยใช้วัสดุที่เหลือจากอาหารมื้อหลักให้เป็นประโยชน์ และใช้วัสดุที่มีมากในฤดูกาลมาประกอบเป็นอาหารว่าง เมื่อมีการต้อนรับแขกก็จะนำอาหารออกมาเลี้ยงแขก พร้อมกับเสิร์ฟน้ำผลไม้หรือน้ำเย็นลอยดอกมะลิ ทั้งนี้ ขนมไทยบางชนิดก็มีกะทิเข้มข้น เช่น ตะโก้ ขนมหม้อแกง ฝอยทอง ควรหลีกเลี่ยงหรือบริโภคอย่างพอเหมาะ
    9.การจัดอาหารว่างเพื่อสุขภาพควรจัดให้หลากหลายชนิดในปริมาณพอเหมาะสำหรับ 1 มื้อ อาหารว่างบางชนิดให้พลังงานสูง ควรรับประทานคู่กับเครื่องดื่มที่ให้พลังงานต่ำ หรือน้ำเปล่า

    ทั้งนี้ หลายคนคงกำลังสงสัยว่า จะทำอย่างไร? เพราะประชุมทีไรก็ต้องกินตามที่เขาจัดมาให้ ซึ่งหากเรารู้จักเลือก และรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะกับร่างกาย ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแน่นอน ตลอดจนเมื่อประชุมเสร็จอาจเดิน หรือยืดเหยียดร่างกายก็จะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า พร้อมจะลุยงานต่อได้อย่างเต็มที่ แถมยังลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs อีกด้วย

    (เครดิตข้อมูลจาก : หนังสือ ประชุมได้ผล คนได้สุขภาพ สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว