คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์

  • กินอย่างไร...เมื่อเป็นเบาหวาน
    การเลือกกินอาหารอย่างถูกต้องเพื่อสุขภาพ เป็นสิ่งที่สำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีโรคแทรกซ้อนก็จะลดลงด้วย
    โดยมีหลักง่ายๆ ดังนี้
    1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
    2. กินข้าวเป็นหลัก สลับกับอาหารพวกแป้งเป็นบางมื้อ
    3. กินพืชผักให้มาก และกินผลไม้เป็นประจำ
    4. กินเนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดเป็นประจำ
    5. หลีกเลี่ยงอาหาร หวาน มัน เค็ม
    6. กินอาหาร 3 มื้อ และอาหารว่าง 1 มื้อ และกินอาหารให้เป็นเวลา ห้ามงดอาหาร
    7. กินอาหารให้หลากหลาย เพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ กินไขมันให้น้อย เลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน หลีกเลี่ยง
    การทอด ใช้การย่าง อบ ต้ม หรือเผาแทน
    8. กินน้ำตาลให้น้อยลง อ่านฉลากก่อนกินทุกครั้ง ชิมก่อนปรุง งดน้ำอัดลมและแอลกอฮอล์
    9. งดอาหารแสลง และยาบำรุง ได้แก่ ผลไม้และอาหารหมักดองทุกชนิด (ปลาร้า ปลาเจ่า ผักดอง หน่อไม้) ผลไม้ที่มีรสหวานจัด
    (ทุเรียน ลำไย ขนุน) ขนมหวานจัด (ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ข้าวเหนียวใส่น้ำตาล)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • "สุขภาพกับวิถีธรรมชาติ : ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน"
    โดย แพทย์จีน นพ.ภาสกิจ (วิทวัส) วัณนาวิบูล สมาคมแพทย์แผนจีนในประเทศไทย นักเขียนประจำนิตยสารหมอชาวบ้าน หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กศาสตร์แพทย์แผนจีน จัดโดย โครงการจัดการความรู้สุขภาพผ่านสื่อและเทคโนโลยีออนไลน์ มูลนิธิหมอชาวบ้าน โดยการสนับสนุนของ สสส.
    https://www.youtube.com/watch?v=SmVFi0imMTA

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • ดำเนินชีวิตด้วยสติ ชีวิตมีความสุข
    มูลนิธิหมอชาวบ้าน ขอเชิญเข้าร่วมอบรม ในหัวข้อเรื่อง “ดำเนินชีวิตด้วยสติ ชีวิตมีความสุข” โดยโดย รศ.นพ.ชัชวาลย์ ศิลปกิจ จิตแพทย์ผู้เขี่ยวชาญจิตตปัญญาศึกษา วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2561 เวลา 13.30 – 16.30 น. ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ ชั้น 2 ห้อง 201 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซอยงามดูพลี ถนนพระราม 4 กทม.

    สมัครเข้าอบรมไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ รับจำนวนจำกัดเพียง 200 ท่าน โดยส่ง ชื่อ นามสกุล อายุ และเบอร์โทรส่งมาที่ E-mail : [email protected] หรือส่ง SMS มาที่เบอร์ 094-095-1635 ไลน์ : Folkdoctor, Facebook : มูลนิธิหมอชาวบ้าน, www.doctor.or.th จัดโดยโครงการจัดอบรมสุขภาวะเพื่อประชาชน มูลนิธิหมอชาวบ้าน

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • ขนมฝักบัว
    ขนมฝักบัวหรือเรียกอีกชื่อว่าขนมดอกบัว รูปร่างกลม ตรงกลางนูน ตรงขอบจะเกรียมกว่าด้านใน ขอบหยักคล้ายใบบัว เนื้อขนมจะเหนียวนุ่ม ขณะทอดใช้ไม้ปลายแหลมปักยึดขนมไว้ตรงกลางกระทะ หมั่นตักน้ำมันรดขนมให้ทั่วเพื่อให้สุกสม่ำเสมอ ขอบแป้งจะขึ้นมาเป็นสัน ส่วนกลางขนมจะนูนขึ้น ขนมนี้ไม่นิยมทอดให้เหลืองกรอบมาก ให้พอเหลืองเล็กน้อยและขนมนุ่มๆ จะอร่อยกว่ากรอบแข็ง เพราะถ้าทอดเหลืองมากขนมจะแข็ง ไม่อร่อยเท่าที่ควร

    (เครดิตภาพ : เจซอง, samsam, นราลัย, แม่ยายมากับตามี, คุณนายเย็นชา, tangkay, Finyah)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • ทำไมต้องดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
    การดื่มน้ำที่ถูกต้อง ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว แต่คนมักไม่รู้ว่า 8 แก้วที่ว่านั้นมีขนาดเท่าไหร่ จึงขอนำเสนอวิธีคำนวณปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันง่ายๆ เช่น น้ำหนักร่างกาย 10 กิโลกรัม ต้องการน้ำ 30 มิลลิลิตรต่อวัน ดังนั้นคนที่น้ำหนัก 50 กิโลกรัม คูณ 30 เข้าไป ได้เท่ากับ 1,500 มิลลิลิตรต่อวัน

    สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลัง “การดื่มน้ำที่ถูกต้อง” จะช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะกล้ามเนื้อจะทำงานได้ดี รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจด้วย ทำให้ลำเลียงออกซิเจนไปใช้ได้เพียงพอ เกลือแร่และน้ำในกล้ามเนื้อมีความสมดุล หากขาดสมดุลจะเป็นสาเหตุของความเมื่อยล้าหลังออกกำลังกาย และน้ำช่วยหล่อลื่น ลดการกระแทกของข้อต่อขณะเคลื่อนไหว

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • พระจันทร์ครึ่งซีก : บำรุงปอด
    ดอกสีม่วงอ่อน เมื่อบานกลีบดอกแยกไปข้างเดียวทำให้เห็นคล้ายเป็นดอกบัวครึ่งซีก ดอกบานใหญ่ในฤดูร้อน เป็นไม้ที่ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ แพร่พันธุ์โดยการแยกต้นปักชำ สรรพคุณ ทั้งต้น รสเย็นสุขุม รับประทานบำรุงปอด แก้วัณโรค แก้หืด แก้ปอดพิการ แก้พิษ เจ็บคอ ตาแดง ขับปัสสาวะ ไส้ติ่งอักเสบ ลำไส้อักเสบ แก้ไอเพราะปอดร้อน แก้แน่นหน้าอก เจ็บสีข้าง บวมช้ำ ใช้ภายนอก ดับพิษ แก้บวม แก้ฝีตะมอย แก้มะเร็งกระเพาะอาหารหรือที่ทวารหนัก แก้ข้ออักเสบ เคล็ดขัดยอกบวมเจ็บ ฝี แผลเปื่อย บาดแผล กลากเกลื้อน ผื่นคันและแก้คัดจมูก

    ตำรับยา
    1.ทอนซิลอักเสบ ใช้ต้นสดตำให้ละเอียด ปั้นเป็นก้อนขนาดไข่ไก่ ใส่ในถ้วย เติมเหล้าลงไป 90 มล. ผสมให้เข้ากัน คั้นเอาน้ำ แบ่งอม 3 ครั้ง ๆ ละ 10-20 นาที แล้วบ้วนทิ้ง
    2.บิด ใช้ต้นสด 60 กรัม ต้มน้ำเติมน้ำตาลแดง(น้ำตาลอ้อย)
    3.ท้องเสีย ใช้ต้นสด 30 กรัม ต้มน้ำกิน
    4.บวมน้ำ (เพราะไตอักเสบ) ท้องมาน(เนื่องจากพยาธิใบไม้ในเลือด) ใช้ต้นสด 30-60 กรัม ต้มน้ำกิน
    5.ดีซ่าน ขัดเบา บวมน้ำ ใช้ต้นสด 30 กรัม ผสมกับรากหญ้าคา 30 กรัม ต้มน้ำใส่น้ำตาลทราย แบ่งกิน 2 ครั้ง เช้าและเย็น
    6.อาเจียนเป็นเลือด ใช้ต้นสดตำผสมเหล้าเล็กน้อยกิน
    7.เคล็ดขัดยอกบวมเจ็บ ใช้ต้นสด 60 กรัม น้ำ 180 มล. ต้มให้เหลือ 90 มล. กรองเอาน้ำเก็บไว้นำกากที่เหลือไปต้มอีกครั้งตามอัตราส่วนเดิม นำน้ำกรองครั้งที่สองรวมกับครั้งแรก แล้วเคี่ยวให้เหลือ 60 มล. เทใส่ขวดเก็บไว้ เวลาใช้เอาสำลีชุบน้ำยาปิดตรงบริเวณที่ปวดบวม
    8.ฝี แผลเปื่อย ผิวหนังอักเสบ ใช้ต้นสดพอประมาณ ใส่เกลือเล็กน้อย ตำให้แหลก พอกบริเวณที่เป็น
    9.เต้านมอักเสบ ใช้ต้นสดตำให้ละเอียด พอกบริเวณที่เป็น
    10.ตาแดง ใช้ต้นสดจำนวนพอสมควรล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียด น้ำมาพอกบนหนังตา เอาผ้าก๊อซที่สะอาดปิด เปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง

    ข้อห้ามใช้ ห้ามใช้ในคนที่มีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อุจจาระหยาบเหลว

    ** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • เคล็ดลับการทำอาหารแกงให้มีความเข้มข้น
    - การแกงฟักทองไม่ควรใช้ทัพพีที่เป็นโลหะคน เพราะฟักทองจะเละ
    - กะทิมะพร้าวที่ได้จากขูดคั้นเอง จะอร่อย หอม มัน กว่ากะทิ กระป๋อง
    - ก่อนโขลกพริกแกง ควรโขลกเกลือเป็นอันดับแรก แล้วค่อยโขลกอย่างอื่น เพราะจะทำให้เหนียว ไม่ลื่น กระชับมือ
    - การเด็ดผักด้วยมือ จะดีกว่าการใช้มีดหั่น เพราะเวลาเด็ดจะทำให้น้ำจากผักออกมาด้วย และทำให้รู้ว่าผักอ่อนหรือแก่
    - หยวกกล้วยหรือหัวปลีที่นำมาแกง ควรใช้ต้นกล้วยน้ำวานวล เพราะรสชาติอร่อยกว่า หยวกกล้วยควรเลือกต้นที่ยังสาว คือ ยังไม่มีลูก ตัดแล้วควรนำมาแกงทันที ทิ้งไว้นานไม่อร่อย
    - การเลือกบอนมาแกง ควรเลือกต้นที่มีใบอ่อน ม้วนใบอยู่ มาทำอาหาร
    - ฟักเขียว เวลาปอกและหั่นเสร็จ ควรฝานเอาไส้ในออกให้หมด มิฉะนั้นจะเปรี้ยว
    - สัตว์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติหรือเลี้ยงตามธรรมชาติ รสชาติจะอร่อยกว่าสัตว์ที่เลี้ยง เช่น กบ ปลาดุก ปลาช่อน ไก่บ้าน ไข่เป็ด ไข่ไก่ เพราะหากินจากธรรมชาติ ไม่ได้กินอาหารสำเร็จรูป
    - ปูนาในช่วงหน้าแล้ง รสจะอร่อยกว่าปูนาหน้าฝน นำมาทำน้ำพริกปูเข้มข้นดี

    สะท้อนการเห็นภูมิปัญญาของคนไทยแต่ละภาค

    (เครดิตภาพ :เมนู_net /เครดิตข้อมูล : กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • เตรียมตัวก่อนเล่นโยคะ
    การฝึกโยคะทำได้ทุกอายุ เนื่องจากการฝึกโยคะไม่ได้เคร่งครัดว่าจะต้องปฏิบัติให้ได้เท่านั้นเท่านี้ หากควรปฏิบัติเท่าที่รู้สึกว่าสบาย ไม่อึดอัด ไม่เจ็บปวด หากทำท่าใดแล้วไม่รู้สึกสบายจึงไม่ควรกระทำ แต่สำหรับผู้สูงอายุควรปรึกษาผู้รู้เท่านั้น เพราะมีท่าบางท่าที่ผู้สูงอายุไม่ควรกระทำ หากพลาดพลั้งอาจจะบาดเจ็บและไม่เป็นผลดี แต่โดยทั่วไปแล้วให้ค่อยๆ ฝึก อย่าเร่งรีบ ต้องยึดหลักว่าอย่าฝืนและคิดว่าต้องทำให้ได้

    เวลาที่เหมาะสมในการเล่นโยคะ
    การฝึกโยคะควรเป็นเวลาที่ท้องว่างหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง เวลาที่ดีที่สุด คือ เช้าตรู่ หรือบ่ายๆ ค่อนข้างไปทางเย็น ไม่แนะนำให้ฝึกโยคะเวลา 12.00-13.00 น. เพราะเป็นเวลาที่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ การฝึกโยคะควรกระทำวันละครั้ง หรือวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

    เตรียมตัวก่อนเล่นโยคะ
    เริ่มต้นด้วยการอาบน้ำ หรือทำความสะอาดร่างกายเฉพาะส่วน ได้แก่ ล้างก้น ล้างขาท่อนล่าง ล้างแขนท่อนล่าง บ้วนปาก แปรงฟัน พรมน้ำที่ตา ล้างรูจมูก ล้างใบหูและลำคอ เชื่อกันว่าการอาบน้ำและการทำความสะอาดร่างกายจะทำให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายเย็นลง ทำให้ใจสงบลงก่อนฝึกโยคะกันจริงๆ สำหรับผู้หญิงที่มีครรภ์และประจำเดือนไม่แนะนำให้ฝึกโยคะในระหว่างนั้น

    สถานที่
    สถานที่ในการฝึกโยคะควรเป็นห้องที่สะอาดไม่มีฝุ่นละออง อย่าลืมว่าโยคะเน้นถึงอากาศบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่ควรฝึกโยคะนอกอาคาร หรือฝึกอยู่ในแดด เพราะอาจทำให้เย็นไปร้อนไปได้ ในห้องควรมีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่มีกลิ่นควัน กลิ่นเหม็นรบกวน ไม่มีควันพิษ ยาฉีดกันยุง หรือสารเคมีอื่นๆ ที่อาจสูดหายใจเข้าไปแล้วเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ควรฝึกโยคะกับพื้นเพราะจะแข็งเกินไป อาจจะเอาเสื่อปู หรือเอาผ้าซับฟองน้ำบางๆ ปู หรือฝึกบนพรมที่มีผ้าปูอีกชั้นหนึ่ง

    เสื้อผ้า
    ควรสวมเสื้อผ้าให้น้อยชิ้นที่สุด เพราะเสื้อผ้าจะซับเอาน้ำมันตามธรรมชาติที่จะออกมาระหว่างการฝึกไปหมด น้ำมันจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังเป็นโลชั่นธรรมชาติที่เหมาะกับเจ้าตัวมากที่สุด หากฝึกโยคะแล้วได้นวดน้ำมันกลับคืนความชุ่มชื่นแก่ผิวหนังเท่ากับเป็นการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพรรณอย่างหนึ่ง ดังนั้น อย่ามองข้ามความสำคัญของการแต่งกายและการนวดหลังจากฝึกอาสนะ

    โดยทั่วไปหากฝึกในที่สาธารณะ เสื้อผ้าที่จะสวมไม่ควรรัดรึงจนเคลื่อนไหวไม่ถนัด ถอดแหวน สร้อย นาฬิกาออก เอาของออกจากกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงให้หมดด้วย เพราะของแหลมอย่างปากกาอาจทิ่มแทงเจ้าตัวขณะฝึกได้

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • ยางนา
    ชื่ออื่นๆ : ยางขาว ยางแม่น้ำ ยางหยวก ยางควาย ยางใต้ ยางเนิน กาตีล ขะยาง จะเตียล ฯลฯ ยางนา ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่
    สูงได้ถึง 50 เมตร ลำต้นเปลาตรง ดอกสีชมพูอ่อน กลีบดอกมี 5 กลีบ ปลายกลีบมนและบิดเวียน ออกดอกราวเดือนมีนาคม - เมษายน ประโยชน์ยางนามีมากมาย เช่น เอื้อต่อการเกิดเห็ด ต้นยางที่อายุ 3 ปีขึ้นไป จะเริ่มเกิดเห็ดและเก็บได้ตลอดอายุยางนา เฉลี่ยปีละ 5 กก.ต่อยางนา 1 ต้น ส่วนต้นให้น้ำมันมาก ในต้นอายุ 25 ปีขึ้นไป 1 ต้นให้น้ำมันเฉลี่ย 500 มล. สามารถนำมากลั่นเป็นไบโอดีเซล ผสมกับไบโอดีเซลจากน้ำมันพืช อัตรา 1:1 ใช้แทนดีเซลในเครื่องยนต์ได้

    สรรพคุณทางสมุนไพร น้ำต้มเปลือก กินแก้ตับอักเสบ บำรุงร่างกาย ฟอกเลือด บำรุงโลหิต และใช้ทาถูนวด (ขณะร้อนๆ) แก้ปวดตามข้อ น้ำมันยาง ใช้ทาแผลเน่าเปื่อย แผลมีหนอง แผลโรคเรื้อน แก้โรคหนองใน ใช้ยาเครื่องจักสาน ทาไม้ อุดเรือรั่ว และผสมขี้เลื่อยจุดไฟ หรือทำไต้ น้ำมันยางผสมกับเมล็ดกุยช่าย คั่วให้เกรียม บดให้ละเอียด ใช้อุดฟันแก้ฟันผุ น้ำมันยาง 1 ส่วน ผสมกับแอลกอฮอล์กิน 2 ส่วน กินเป็นยาขับปัสสาวะ แก้มุตกิดระดูขาว จิบเป็นยาขับเสมหะ เมล็ดยางนายังมีสารบางตัวที่มีฤทธิ์เพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้อีกด้วย

    (เครดิตภาพ : DETUDOM FC, phargarden, painaidii)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • วิถีบ้านเรา : แมงคาม
    แมงคาม หรือด้วงกว่าง แมลงปีกแข็ง ผิวมัน ตัวผู้มีเขาใหญ่ ใช้สำหรับต่อสู้ศัตรู รวมทั้งการสืบสายพันธุ์ตามธรรมชาติ ตัวไหนต่อสู้ชนะก็ได้ตัวเมียที่หมายปอง มักอาศัยอยู่ตามต้นคามหรือต้นคราม ไม้อื่นๆ ในป่าเบญจพรรณ ชอบกินเศษใบไม้ผุ ตอไม้ ไม้ผุ ช่วยย่อยสลายใบไม้ใบหญ้ากลายเป็นปุ๋ยบำรุงดินอย่างดี แมงคามนำมารับประทาน ตำน้ำพริกกินได้ แต่สำหรับเด็กๆ แล้วแมงคาม คือนักสู้ข้างกายไว้ประลองยุทธ์ "ซนแมงคาม" กับของเพื่อน ตัวไหนสู้ไม่ได้ก็ถอยหนีไป

    (เครดิตภาพ : ชาวนา, แม่หมูใจดีจริง, sanji tung, yo2892, คนรักกว่าง)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว