เตรียมตัวก่อนเล่นโยคะ
การฝึกโยคะทำได้ทุกอายุ เนื่องจากการฝึกโยคะไม่ได้เคร่งครัดว่าจะต้องปฏิบัติให้ได้เท่านั้นเท่านี้ หากควรปฏิบัติเท่าที่รู้สึกว่าสบาย ไม่อึดอัด ไม่เจ็บปวด หากทำท่าใดแล้วไม่รู้สึกสบายจึงไม่ควรกระทำ แต่สำหรับผู้สูงอายุควรปรึกษาผู้รู้เท่านั้น เพราะมีท่าบางท่าที่ผู้สูงอายุไม่ควรกระทำ หากพลาดพลั้งอาจจะบาดเจ็บและไม่เป็นผลดี แต่โดยทั่วไปแล้วให้ค่อยๆ ฝึก อย่าเร่งรีบ ต้องยึดหลักว่าอย่าฝืนและคิดว่าต้องทำให้ได้
เวลาที่เหมาะสมในการเล่นโยคะ
การฝึกโยคะควรเป็นเวลาที่ท้องว่างหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง เวลาที่ดีที่สุด คือ เช้าตรู่ หรือบ่ายๆ ค่อนข้างไปทางเย็น ไม่แนะนำให้ฝึกโยคะเวลา 12.00-13.00 น. เพราะเป็นเวลาที่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ การฝึกโยคะควรกระทำวันละครั้ง หรือวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
เตรียมตัวก่อนเล่นโยคะ
เริ่มต้นด้วยการอาบน้ำ หรือทำความสะอาดร่างกายเฉพาะส่วน ได้แก่ ล้างก้น ล้างขาท่อนล่าง ล้างแขนท่อนล่าง บ้วนปาก แปรงฟัน พรมน้ำที่ตา ล้างรูจมูก ล้างใบหูและลำคอ เชื่อกันว่าการอาบน้ำและการทำความสะอาดร่างกายจะทำให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายเย็นลง ทำให้ใจสงบลงก่อนฝึกโยคะกันจริงๆ สำหรับผู้หญิงที่มีครรภ์และประจำเดือนไม่แนะนำให้ฝึกโยคะในระหว่างนั้น
สถานที่
สถานที่ในการฝึกโยคะควรเป็นห้องที่สะอาดไม่มีฝุ่นละออง อย่าลืมว่าโยคะเน้นถึงอากาศบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่ควรฝึกโยคะนอกอาคาร หรือฝึกอยู่ในแดด เพราะอาจทำให้เย็นไปร้อนไปได้ ในห้องควรมีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่มีกลิ่นควัน กลิ่นเหม็นรบกวน ไม่มีควันพิษ ยาฉีดกันยุง หรือสารเคมีอื่นๆ ที่อาจสูดหายใจเข้าไปแล้วเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ควรฝึกโยคะกับพื้นเพราะจะแข็งเกินไป อาจจะเอาเสื่อปู หรือเอาผ้าซับฟองน้ำบางๆ ปู หรือฝึกบนพรมที่มีผ้าปูอีกชั้นหนึ่ง
เสื้อผ้า
ควรสวมเสื้อผ้าให้น้อยชิ้นที่สุด เพราะเสื้อผ้าจะซับเอาน้ำมันตามธรรมชาติที่จะออกมาระหว่างการฝึกไปหมด น้ำมันจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังเป็นโลชั่นธรรมชาติที่เหมาะกับเจ้าตัวมากที่สุด หากฝึกโยคะแล้วได้นวดน้ำมันกลับคืนความชุ่มชื่นแก่ผิวหนังเท่ากับเป็นการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพรรณอย่างหนึ่ง ดังนั้น อย่ามองข้ามความสำคัญของการแต่งกายและการนวดหลังจากฝึกอาสนะ
โดยทั่วไปหากฝึกในที่สาธารณะ เสื้อผ้าที่จะสวมไม่ควรรัดรึงจนเคลื่อนไหวไม่ถนัด ถอดแหวน สร้อย นาฬิกาออก เอาของออกจากกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงให้หมดด้วย เพราะของแหลมอย่างปากกาอาจทิ่มแทงเจ้าตัวขณะฝึกได้