คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์

  • ยำหัวปลีกุ้งสด
    เมนูพื้นบ้านที่คนโบราณแนะนำผู้หญิงที่คลอดลูกใหม่ๆ กินเพื่อให้มีน้ำนมให้เลี้ยงลูก รวมทั้งเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพคนทั่วไปด้วย ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ช่วยขับลมในกระเพาะ ช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารเป็นไปอย่างปกติ และพืชสมุนไพรต่างๆ แร่ธาตุที่สำคัญอย่าง แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย

    เครื่องปรุง : 1.หัวปลีหั่นหยาบ 1 หัว 2.หอมแดงซอย 6 หัว 3. กุ้งแห้งป่นหยาบๆ 2 ช้อนโต๊ะ 4.กุ้งสดลวก 10 ตัว 5.ถั่วปั่นหยาบๆ 2 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ 7.น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 9.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ 10. นมสดพร่องมันเนย 4 ช้อนโต๊ะ 11. หอมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ 12.พริกขี้หนูแห้งทอด

    วิธีทำ :
    ผสมน้ำตาลทราย น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว นมสด ให้เข้ากันแล้วใส่กุ้งแห้งป่น กุ้งสด ถั่วป่น คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วใส่หัวปลีหั่นหยาบ หอมแดงซอย คลุกเบาๆให้เข้ากัน ตักใส่จานแล้วโรยหน้าด้วยหอมเจียว พริกขี้หนูแห้งทอด

    (เครดิตภาพ : ลุงดำ คำโต, mana, EviLS pirit)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • ยางนา
    ชื่ออื่นๆ : ยางขาว ยางแม่น้ำ ยางหยวก ยางควาย ยางใต้ ยางเนิน กาตีล ขะยาง จะเตียล ฯลฯ ยางนา ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่
    สูงได้ถึง 50 เมตร ลำต้นเปลาตรง ดอกสีชมพูอ่อน กลีบดอกมี 5 กลีบ ปลายกลีบมนและบิดเวียน ออกดอกราวเดือนมีนาคม - เมษายน ประโยชน์ยางนามีมากมาย เช่น เอื้อต่อการเกิดเห็ด ต้นยางที่อายุ 3 ปีขึ้นไป จะเริ่มเกิดเห็ดและเก็บได้ตลอดอายุยางนา เฉลี่ยปีละ 5 กก.ต่อยางนา 1 ต้น ส่วนต้นให้น้ำมันมาก ในต้นอายุ 25 ปีขึ้นไป 1 ต้นให้น้ำมันเฉลี่ย 500 มล. สามารถนำมากลั่นเป็นไบโอดีเซล ผสมกับไบโอดีเซลจากน้ำมันพืช อัตรา 1:1 ใช้แทนดีเซลในเครื่องยนต์ได้

    สรรพคุณทางสมุนไพร น้ำต้มเปลือก กินแก้ตับอักเสบ บำรุงร่างกาย ฟอกเลือด บำรุงโลหิต และใช้ทาถูนวด (ขณะร้อนๆ) แก้ปวดตามข้อ น้ำมันยาง ใช้ทาแผลเน่าเปื่อย แผลมีหนอง แผลโรคเรื้อน แก้โรคหนองใน ใช้ยาเครื่องจักสาน ทาไม้ อุดเรือรั่ว และผสมขี้เลื่อยจุดไฟ หรือทำไต้ น้ำมันยางผสมกับเมล็ดกุยช่าย คั่วให้เกรียม บดให้ละเอียด ใช้อุดฟันแก้ฟันผุ น้ำมันยาง 1 ส่วน ผสมกับแอลกอฮอล์กิน 2 ส่วน กินเป็นยาขับปัสสาวะ แก้มุตกิดระดูขาว จิบเป็นยาขับเสมหะ เมล็ดยางนายังมีสารบางตัวที่มีฤทธิ์เพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้อีกด้วย

    (เครดิตภาพ : DETUDOM FC, phargarden, painaidii)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • วิถีบ้านเรา : ดักแด้หนอนไหม
    ดักแด้หนอนไหม คือ ดักแด้ที่ได้จากหนอนไหมที่ชาวบ้านชนบทเพาะเลี้ยงด้วยใบหม่อน เพื่อนำมาสาวไหม สำหรับทอผ้าไหมพื้นบ้าน ปัจจุบันชาวบ้านมีการเพาะเลี้ยงเป็นอาชีพหลัก จำหน่ายทั่วไป ทั้งนี้ดักแด้หนอนไหมให้คุณค่าทางโภชนาการ มีโปรตีนสูง "เลซิติน" ช่วยบำรุงสมอง นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 บี 2 เกลือแร่หลายชนิด และกรดไขมันจำที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำได้หลายเมนู อาทิ ทอด ผัด แกง ฯลฯ

    (เครดิตภาพ : kaentong_com, ตุ้ยพงษ์พิษณุ, ครูยะ)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • แกงขี้เหล็ก : แกงคลายเครียด
    ปีหนึ่งๆ เราต้องเสียเงินมากมายมหาศาลในซื้อยาต่างประเทศ ยาขายดีติดอันดับ คือ ยากล่อมประสาทหรือยาคลายเครียด ทราบหรือไม่ "ขี้เหล็ก" มีสรรพคุณยาหลายอย่างนั้น ส่วนของใบอ่อนและดอกตูม นำมาผลิตเป็นยาคลายเครียดด้วย ภูมิปัญญาผู้เฒ่าผู้แก่จึงแนะนำคนที่นอนไม่ค่อยหลับว่า ให้กินแกงขี้เหล็ก จะช่วยคลายเครียดหลับดีขึ้น

    ทั้งนี้ จะกินขี้เหล็กสดๆ ก็ได้ เพื่อแก้เครียด นอนไม่หลับ ซึ่งให้คุณค่ามากกว่า โดยใช้ใบอ่อน (สด) ประมาณ 50 กรัม ต้มกับน้ำใช้ดื่มก่อนนอน หรือที่คนโบราณใช้กัน คือ จะนำใบอ่อนขี้เหล็กมาดองเหล้าไว้ 7 วัน ซึ่งตัวแอลกอฮอล์ในเหล้าจะสกัดเอาสารที่มีอยู่ในขี้เหล็กออกมา ก็นำเอาน้ำดองเหล้านั้นมาดื่ม

    (เครดิตภาพ : ~~piggy~~, swin, วัลลา ตันตโยทัย, sagurahi, ban-hug, แอ่งน้อย ไร้สังกัด, ด้องแด้งรีเทิร์น, barbie # barbie1)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • นมควาย
    ชื่ออื่นๆ : บักผีผ่วน กรีล นมวัว นมแมว หำลิง ติงตัง พีพวน หมากผิผ่วน ฯลฯ ผลไม้พื้นบ้านรสเปรี้ยวหวาน สีแดงสดใสน่าทานยิ่งนัก เป็นไม่พุ่ม เลื้อยเกาะกิ่งไม้เบญจพรรณ ผลสุกช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน อาจเร็วหรือช้ากว่านี้ในบางปี สรรพคุณแก่นและราก ใช้ต้มน้ำดื่ม แก้ไข้ สลับไข้ซ้ำ เนื่องจากกินของแสลง รากใช้แก้ผอมแห้ง สำหรับสตรีที่อยู่ไฟไม่ได้ หลังการคลอดบุตรและช่วยบำรุงน้ำนม ผลใช้ตำผสมน้ำทา แก้เม็ดผดผื่นคัน และใช้รับประทานได้

    (เครดิตภาพ : thaiagrinews, สิงห์ ป่าสัก, กลางทุ่งมหาวิทยาลัย, matichon, natres_psu_ac_th)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • พรมมิ : บำรุงสมอง
    สมุนไพรที่มีศักยภาพในการนำมาใช้เพื่อบำรุงสมอง บำรุงความจำ ที่มีขายอยู่ในท้องตลาด ได้แก่ แปะก๊วย และโสม ซึ่งเป็นพืชที่ไม่สามารถปลูกได้ในประเทศไทย แต่เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิจัยจากคณะมหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ร่วมมือกันศึกษาพืชสมุนไพรไทยที่ขึ้นริมตลิ่ง และไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนัก จนสามารถพิสูจน์ได้ถึงคุณประโยชน์ในการใช้บำรุงความจำ และไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนัก จนสามารถพิสูจน์ได้ถึงคุณประโยชน์ในการใช้บำรุงความจำ

    “พรมมิ” เป็นพืชล้มลุก ลำต้นทอดนอนแผ่ไปตามพื้น มีความยาว 10-40 เซนติเมตร แตกกิ่งก้านมาก มีรากออกตามข้อ ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม ไม่มีก้านใบ ใบอวบน้ำ เป็นรูปช้อนหรือรูปไข่กลับ ขอบใบเรียบหรือหยักเล็กน้อย ดอกสีขาวหรือม่วงอ่อน พรมมิเป็นสมุนไพรที่เป็นทั้งอาหารและยา ในบางท้องถิ่นเรียกพรมมิว่า "ผักมิ" ใช้เป็นผัก ลวกจิ้มน้ำพริกได้ แพทย์แผนไทยมีหลักฐานใช้พรมมิเป็นยาตั้งแต่สมัยอยุธยา

    สรรพคุณทางยา
    พรมมิ มีรสหวาน แก้ไข้สวิงสวาย (อาการที่เป็นลม ทำให้หน้ามืด ตาลาย ใจหวิว หรือกระสับกระส่าย) แก้หืด ไอ กินแก้ริดสีดวง กินเจริญปัญญา และมีการใช้เป็นตัวยาในตำรับต่างๆ เช่น เข้ายาเขียวมหาพรหม สำหรับแก้โลหิตพิการ ซึ่งทำให้พิษร้อนทั่วสรรพางค์กาย เข้ายาแก้ซางแห้งในเด็ก เข้ายาแก้ลมที่ทำให้ท้องขึ้น เข้ายาเขียวกินพิษ แก้โรคลม

    (เครดิตภาพ : สวนอภิญญา, Duy Thuong Ngo, Thomas Rudolph)

    ** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • ขนมจั้ง
    ขนมพื้นบ้าน ทำจากข้าวเหนียว น้ำ และน้ำด่าง โดยนำข้าวเหนียวมาห่อด้วยใบไผ่ ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยนที่มีเอกลักษณ์ นำไปต้มจนสุก นิยมรับประทานคู่กับน้ำตาลโตนด หรือราดด้วยน้ำเชื่อม น้ำกะทิก็ได้ ทำข้าวต้มน้ำวุ้นก็อร่อยเช่นกัน มีชื่อเรียกตามถิ่นหลากหลาย เช่น ขนมจ้าง ขนมสั่ง อันซอมกะบอง ฯลฯ

    (เครดิตภาพ : David UnicornSeed, ฝากเธอ)

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • "หลักสูตรเรียนรู้สุขภาพ"
    เสริมสร้างความรู้ด้านสุขภาพผ่านบทเรียนออนไลน์ การมีสุขภาพที่ดีได้นั้นต้องเกิดจากการกินอาหารที่ดี การออกกำลังกาย อย่างพอเพียง และการมีอารมณ์ที่แจ่มใส หลักสูตรนี้ครอบคลุม ทั้งเรื่อง อาหาร ออกกำลังกาย และอารมณ์ เสริมสร้างความรู้ด้านสุขภาพที่มุ่งมั่นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

    รายละเอียด :>> http://bit.ly/28L0SG1
    http://learn.doctor.or.th/

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • กระเจี๊ยบเขียว : กลูตาไทโอนริมรั้ว
    ชื่ออื่นๆ : กระเจี๊ยบมอญ กระเจี๊ยบขาว มะเขือมอญ มะเขือพม่า มะเขือทวาย มะเขือละโว้ ถั่วส่าย ฯลฯ กระเจี๊ยบเขียวอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน โฟเลต แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก วิตามินต่างๆ ที่สำคัญกระเจี๊ยบเขียวมี "กลูตาไทโอน" ซึ่งมีบทบาทสำคัญควบคุมสารอนุมูลอิสระในร่างกาย การสร้างสารซ่อมแซมเซลล์ และทำปฏิกิริยาขจัดสารพิษที่เกิดในร่างกาย ช่วยต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันนิยมใช้สารนี้เพื่อให้ผิวขาวขึ้น เพราะกลูตาไทโอน สามารถกดการทำงานของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีได้ชั่วคราว

    นอกจากนี้ กระเจี๊ยบเขียวยังเต็มไปด้วยเส้นใยอาหารช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ระบบดูดซึมสารอาหาร ลดความเสี่ยงโรคแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยรักษาโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยลดน้ำตาลและไขมันในเลือด จัดเป็นผักสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคเบาหวานที่ดีอีกชนิดหนึ่ง

    ตำรับยา
    1.ยาแก้พยาธิตัวจี๊ด ตำรับที่ 1 นำผลกระเจี๊ยบเขียวที่ยังอ่อนมาปรุงเป็นอาหาร เช่น ต้มหรือย่างไฟให้สุก จิ้มกับน้ำพริก หรือทำแกงส้ม แกงเลียง กินวันละ 3 เวลาทุกวัน โดยจะกินเท่าไหร่ก็ได้ แต่อย่างน้อยวันละ 4-5 ผล ติดต่อกัน 15 วัน หรือบางคนต้องกินเป็นเดือนจึงจะหาย หรือตำรับที่ 2 ใช้รากกระเจี๊ยบแดง กระเจี๊ยบเขียว ต้มกิน
    2.ยารักษาโรคกระเพาะ ใช้ฝักอ่อนกระเจี๊ยบเขียวหั่นตากแดด บดให้ละเอียด กินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ โดยนำมาละลายในน้ำ นม น้ำผลไม้ หรืออาหารอ่อนๆ กินวันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหาร (เวลาละลายจะได้น้ำยาเหนียวๆ)
    3.ยาบำรุงข้อกระดูก นำผลกระเจี๊ยบเขียว 3 ผล กินสดหรือต้มกับหอมแดงขนาดใหญ่ 1 หัว เพื่อบำรุงร่างกายและเพิ่มความยืดหยุ่นในกระดูก โดยเชื่อว่าเมือกในกระเจี๊ยบจะช่วยได้
    4.ยาแก้ปวดท้อง ใช้รากกระเจี๊ยบเขียวฝนกับน้ำธรรมดากิน
    5.รักษาแผลสด ใช้ยางจากฝักผลสดทาแผลสด เมื่อถูกของมีคมบาด แผลจะหายไวและไม่เป็นแผลเป็น

    (เครดิตภาพ : แมงป่อง)

    ** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว
  • ผู้สูงอายุ...กินไข่วันละฟองได้หรือไม่
    กินได้...เพราะในไข่แดงมีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์อยู่มาก และที่สำคัญคือ มีเลซิตินซึ่งเป็นฟอสโฟลิปิดชนิดหนึ่งอยู่มาก ในเลซิตินมีโคลีน ซึ่งร่างกายนำโคลันนี้ไปสังเคราะห์อะเซตทีลโคลีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท ทำให้การทำงานของสมองดีขึ้น แต่ในไข่แดงมีคอเลสเตอรอลสูง โดยทั่วไปไข่หนึ่งฟองมีคอเลสเตอรอลไม่เกิน 200 มิลลิกรัม ปริมาณคอเลสเตอรอลที่ร่างกายได้รับจากอาหารไม่ควรเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้นการที่จะป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลเกินกว่าที่กำหนดต้องหลีกเลี่ยงอาหารอื่นๆ ที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไขมันสัตว์ต่างๆ ปลาหมึก กุ้ง เป็นต้น อย่างไรก็ตามผู้ที่มีคอเลสเทอรอลในเลือดสูงกว่าปกติ ไม่ควรกินไข่มากกว่า 3-4 ฟองต่อสัปดาห์ และกินยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ

    6 ปี 12 สัปดาห์ ที่แล้ว